ผลสรุปจากสปิตเซอร์เหล่านี้ได้แสดงว่าการสำรวจในช่วงตาเห็นที่เราพึ่งพาอาศัยในการตรวจจับซุปเปอร์โนวามานาน ก็พลาดการระเบิดที่เกิดขึ้นข้างนอกในเอกภพไปถึงครึ่งหนึ่ง Ori Fox นักวิทยาศาสตร์ที่สถาบันวิทยาศาสตร์กล้องโทรทรรศน์อวกาศในบัลติมอร์ มารีแลนด์ และผู้เขียนนำการศึกษาฉบับใหม่ที่เผยแพร่ใน Monthly Notices of the Royal Astronomical Society กล่าว นี่เป็นข่าวที่ดีมากๆ ที่จำนวนของซุปเปอร์โนวาที่เรากำลังได้เห็นด้วยสปิตเซอร์นั้นมีความสอดคล้องในทางสถิติกับการทำนายจากทฤษฎี
ถ้าคุณบอกได้ว่ามีดาวฤกษ์มากน้อยแค่ไหนที่กำลังก่อตัวอยู่ จากนั้นคุณก็จะสามารถทำนายได้ว่าจะมีดาวระเบิดมากแค่ไหน Fox กล่าว หรือในทางกลับกัน ถ้าคุณทราบว่ามีดาวกำลังระเบิดมากแค่ไหน ก็ทำนายได้ว่าจะมีดาวก่อตัวขึ้นมากแค่ไหน การเข้าใจความสัมพันธ์นี้เป็นเรื่องวิกฤติในการศึกษาหลายๆ แขนงในดาราศาสตร์ฟิสิกส์
กล้องโทรทรรศน์รุ่นถัดไปซึ่งรวมถึง กล้องโทรทรรศน์โรมัน(Nancy Grace Roman Space Telescope) ของนาซา และกล้องเวบบ์(James Webb Space Telescope) จะตรวจจับแสงอินฟราเรดได้เช่นเดียวกับกล้องสปิตเซอร์ การศึกษาของเราได้แสดงว่าแบบจำลองการก่อตัวดาวนั้นสอดคล้องกับอัตราการเกิดซุปเปอร์โนวามากกว่าที่เคยคิดไว้ Fox กล่าว และด้วยการเปิดเผยซุปเปอร์โนวาที่ซ่อนอยู่ สปิตเซอร์ได้สร้างรากฐานการค้นพบชนิดใหม่ๆ ด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเวบบ์และกล้องโรมัน
แหล่งข่าว phys.org : stars are exploding in dusty galaxies. We just can’t always see them.
scitechdaily.com – hidden supernova: stars are exploding in dusty galaxies – we just can’t always see them