5 ก.ย. 2021 เวลา 08:01 • ประวัติศาสตร์
• ทำไมถึงมีชาวเกาหลีจำนวนมากอาศัยอยู่ในเอเชียกลาง?
ภูมิภาคเอเชียกลางอันเป็นที่ตั้งของเหล่าประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า 'สถาน' ไม่ว่าจะเป็น คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน คีร์กิซสถาน รวมไปถึงทาจิกิสถาน ซึ่งภูมิภาคนีัต่างก็ประกอบไปผู้คนที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์
แต่เคยรู้หรือไม่ครับว่า ในดินแดนเอเชียกลางนี้มีกลุ่มคนเชื้อชาติหนึ่งที่ได้อาศัยอยู่ภายในดินแดนแห่งนี้เช่นเดียวกัน
โดยกลุ่มคนเหล่านี้ก็คือชาวเกาหลีครับ
ที่นี้อาจจะสงสัยเหมือนกันใช่ไหมครับว่า ทำไมถึงได้มีชาวเกาหลีอยู่ในเอเชียกลางได้?
แน่นอนว่าเราจะต้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์กันครับ
แผ่นป้ายโฆษณาภาษาเกาหลีในคีร์กิซสถาน
ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 19 ราชวงศ์โชซอนที่ปกครองแผ่นดินเกาหลีอยู่ในขณะนั้นเข้าใกล้สภาวะที่จะล่มสลาย เกิดปัญหาข้าวยากหมากแพง สภาวะแห้งแล้งอดยาก ทำให้มีชาวเกาหลีล้มตายเป็นจำนวนมาก
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีชาวเกาหลีบางส่วนมองเห็นว่า ถ้าหากพวกเขาอยู่ที่เกาหลีต่อไป คงจะไม่เป็นการดีอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะอพยพออกจากเกาหลี เพื่อไปตายเอาดาบหน้าในดินแดนอื่นแทน
ซึ่งดินแดนที่ชาวเกาหลีกลุ่มนี้เลือกที่จะอพยพนั้น ก็คือดินแดนไซบีเรียและดินแดนตะวันออกไกล (Far East) ของรัสเซียนั่นเอง
โดยชาวเกาหลีได้เริ่มอพยพไปยังรัสเซียตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1860 มีการบันทึกไว้ว่ามีจำนวนของชาวเกาหลีที่อพยพนี้มากกว่า 5,000 คนเลยทีเดียว
ในปี 1897 จากข้อมูลของรัสเซียพบว่า มีชาวเกาหลีอยู่ในไซบีเรียและ Far East มากกว่า 26,000 คน
ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อเกิดสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นเพื่อแย่งชิงอิทธิพลในเกาหลี รวมไปถึงการที่เกาหลีตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น ก็ได้ทำให้มีชาวเกาหลีอพยพมาอยู่ในรัสเซียมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 1914 มีชาวเกาหลีอยู่ในรัสเซียมากกว่า 64,000 คน ก่อนที่เพิ่มขึ้นจนเป็น 1 แสนคนในปี 1923
สำหรับชาวเกาหลีที่อยู่ในรัสเซียนี้ พวกเขาก็ได้ถูกเรียกว่า ชาวโครยอ-ซารัม (Koryo-Saram)
1
เวลาผ่านไปเมื่อรัสเซียกลายมาเป็นสหภาพโซเวียต และถูกปกครองภายใต้เผด็จการอย่าง โจเซฟ สตาลิน ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกับชาวเกาหลีที่อยู่ในรัสเซีย หรือชาวโครยอ-ซารัม
2
นั่นก็เป็นเพราะว่าสตาลินมีแนวคิดที่ต่อต้านและไม่ไว้วางใจชาวเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาวญี่ปุ่นที่ถือเป็นศัตรูสำคัญของโซเวียตในขณะนั้น
1
สตาลินเชื่อว่าภายในกลุ่มชาวโครยอ-ซารัม น่าจะต้องมีชาวญี่ปุ่นที่ได้แอบแฝงตัวไว้ ดังนั้นสิ่งที่สตาลินได้ตัดสินใจทำก็คือ การสั่งอพยพชาวโครยอ-ซารัม ที่มีมากกว่าหลายแสนคนนี้ ให้เดินทางไปยังดินแดนเอเชียกลาง
1
ด้วยเหตุนี้ในปี 1937 การอพยพครั้งใหญ่จึงเริ่มขึ้น ชาวโครยอ-ซารัม จำนวนหลายแสนคนถูกบังคับให้เดินทางเป็นระยะทางมากกว่า 5,000 กิโลเมตร (ผ่านเส้นทางรถไฟสาย Trans-Siberian) เพื่ออพยพไปยังเอเชียกลาง ดินแดนที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
3
แผนที่แสดงถึงเส้นทางอพยพของชาวโครยอ-ซารัม จากไซบีเรียและ Far East ไปยังเอเชียกลาง
แต่หลังจากที่พวกเขาผ่านการเดินทางอันสุดแสนหฤโหดแล้ว สิ่งที่ชาวโครยอ-ซารัม ได้รับก็คือ ดินแดนเอเชียกลางที่แทบจะไม่มีอะไรอยู่เลย มีเพียงแค่พื้นที่แห้งแล้งสุดลูกหูลูกตาเท่านั้น
1
คาดการณ์ว่าตลอดการอพยพรวมไปถึงการตั้งรกรากของชาวโครยอ-ซารัม ในเอเชียกลาง ได้ทำให้มีผู้คนเสียชีวิตมากกว่า 40,000 คน
1
แต่ในแง่ของความเลวร้าย ก็ยังมีแง่ที่ดีอยู่บ้าง เพราะชาวโครยอ-ซารัม ที่ได้อพยพมานี้ ก็ได้รับความช่วยเหลือและเกื้อกูลเป็นอย่างดีจากผู้คนท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นชาวคาซัค รวมไปถึงชาวอุซเบก (ดินแดนแถบนี้แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ แต่มีประชากรอยู่น้อย)
3
ชาวโครยอ-ซารัม ในช่วงแรก ๆ ที่เข้าไปอยู่ในอุซเบกิสถาน
และเมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปี ผลสุดท้ายชาวโครยอ-ซารัม ก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชาวเอเชียกลางอย่างสมบูรณ์
1
ปัจจุบันมีจำนวนประชากรชาวโครยอ-ซารัม มากกว่า 5 แสนคน โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอุซเบกิสถาน คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน นอกจากนี้ยังมีบางส่วนอาศัยอยู่ในรัสเซียรวมไปถึงยูเครนด้วย
3
แม้ว่าพวกเขาจะถูกกลืนกลายเป็นส่วนหนึ่งของเอเชียกลางแล้ว แต่รากเหง้าความเป็นเกาหลีของพวกเขาก็ยังคงปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน ชาวโครยอ-ซารัม บางส่วนยังคงพูดและใช้ภาษาเกาหลี (ภาษาเกาหลีของพวกเขาเรียกว่า โครยอ-มัล Koryo-mal ซึ่งแตกต่างจากภาษาเกาหลีทั่วไป) แต่โดยหลักพวกเขาจะพูดภาษาของเอเชียกลางมากกว่า
1
บรรยากาศในตลาดของชุมชนชาวโครยอ-ซารัม ในอุซเบกิสถาน อาหารขึ้นชื่อของเกาหลีอย่างกิมจิ ก็มีวางขายที่นี่
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่ใช้อธิบายว่า เพราะเหตุใดถึงได้มีชาวเกาหลีอาศัยอยู่ในเอเชียกลาง
2
*** Reference
#HistofunDeluxe
2
โฆษณา