6 ก.ย. 2021 เวลา 03:11 • การเมือง
ว่าด้วยการกีดกัน
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
ประเด็นที่ร้อนในช่วงนี้ก็คือ การกีดกันนักศึกษาจีนในสหรัฐและพันธมิตร ซึ่งแต่บางครั้งก็นำความกระอักกระอ่วนมาให้พันธมิตรของสหรัฐด้วยเหมือนกัน
ออสเตรเลียมีรายได้จำนวนมากจากการที่นักศึกษาจีนมาเรียนในระดับปริญญา เมื่อออสเตรเลียเล่นงานจีนตามลูกพี่สหรัฐ รัฐบาลจีนก็แนะนำไม่ให้นักศึกษาจีนไปเรียนที่ออสเตรเลีย ทำให้เศรษฐกิจออสเตรเลียแย่ลง
1
https://www.chinausfocus.com/foreign-policy/china-japan-us-triangle-on-display-at-apec
ทว่าก็ยังมีนักศึกษาจีนจำนวนหนึ่งอยากไปเรียนที่ออสเตรเลียเนื่องจากอยากได้ภาษา แต่สถานการณ์กลับกลับกันครับ รัฐบาลออสเตรเลียออกวีซ่าให้นักศึกษาจีนยากขึ้น
มีหลายคนวิเคราะห์ว่า เป็นไปตามนโยบายรวมของสหรัฐ แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
การกีดกันคนจีนนี่ไม่ใช่เพิ่งมี ผมเคยเขียนมา 2-3 ครั้ง เรื่องรัฐสภาสหรัฐเคยออก Chinese Exclusion Acts หรือกฎหมายกีดกันชาวจีนเมื่อ ค.ศ. 1882 (139 ปีที่ก่อน)
มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐบัญญัติกีดกันชาวจีน ค.ศ. 1892 และมาแก้ไขให้เข้มข้นขึ้นอีกใน ค.ศ. 1902 รัฐบัญญัติกีดกันชาวจีนยกเลิกไปเมื่อ ค.ศ. 1943 (78 ปีที่ก่อน) เพราะกระแสโลกรับไม่ได้กับการกีดกันชนเผ่าใดเผ่าหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องของนาซีเยอรมัน ที่ไปข่มเหงรังแกชาวยิว และฆ่าคนยิวตายเป็นล้านคน สหรัฐเองช่วงนั้นก็กำลังแต่งตัวที่จะขึ้นเป็นอภิมหาอำนาจโลก
การยกเลิกรัฐบัญญัติทำให้การกีดกันหายไปเฉพาะตัวบทกฎหมาย แต่การกีดกันของจริงซึ่งอยู่ใต้สมองของคนที่มีอคติเรื่องสีผิวเผ่าพันธุ์ยังอยู่ครบถ้วน เผ่าพันธุ์ของฉันเป็นเผ่าพันธุ์เด่น ต้องเก่งกว่าคนเผ่าพันธุ์อื่นและสีผิวอื่น
4
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลัทธิการปกครองนะครับ มีการปฏิบัติการจิตวิทยาบ่อยๆ ว่าสหรัฐกีดกันจีนเพราะจีนปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์
ผมอยากจะให้ย้อนไปดูเรื่องเวลาหน่อยครับ สมัยที่สภาคองเกรสของสหรัฐออกรัฐบัญญัติกีดกันชาวจีนนั่นมัน ค.ศ. 1882 เป็นยุคที่ราชวงศ์ชิงปกครองจีน สภาคองเกรสของสหรัฐแก้ไขเพื่อให้มีการกีดกันคนจีนเข้มข้นขึ้นใน ค.ศ. 1892 และ ค.ศ.1902 ก็ยังอยู่ในยุคของราชวงศ์ชิง
1
จีนมาเป็นสาธารณรัฐระหว่าง ค.ศ. 1912-1927 (15 ปี) สหรัฐยกเลิกกฎหมายนี้ใน ค.ศ. 1943 เพราะช่วงนั้น สหรัฐต้องการให้จีนร่วมมือกันต่อต้านญี่ปุ่น
ช่วงที่สหรัฐยกเลิกกฎหมายต่อต้านจีน นายพลโจเซฟ สติลเวลแห่งกองทัพสหรัฐต้องการส่งผู้เชี่ยวชาญอเมริกันมาฝึกกองทหารจีนเพื่อใช้ต่อต้านญี่ปุ่นในพม่าและจีน
ช่วงนั้นสหรัฐเอาใจจีนถึงขนาดยื่นข้อเสนอให้ความช่วยเหลือและให้สินเชื่อแก่สาธารณรัฐจีนระหว่าง ค.ศ. 1942-1946 มีมูลค่าถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผู้นำสาธารณรัฐจีนตอนนั้นคือ เจียง ไคเชก ก็ตอบแทนสหรัฐด้วยการสร้างฐานทัพอากาศขึ้นหลายแห่งเพื่อให้สหรัฐใช้โจมตีญี่ปุ่น แต่เมื่อสหรัฐใช้ฐานทัพนี้เป็นครั้งแรกในฤดูร้อน ค.ศ. 1944 ญี่ปุ่นก็ตอบโต้และบดขยี้กองทัพของสาธารณรัฐจีน รวมทั้งฐานทัพอากาศบางแห่ง
1
จีนเพิ่งมาเป็นสาธารณรัฐประชาชนและปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์เมื่อ ค.ศ. 1949 นี้เอง คนที่แก้ตัวแทนสหรัฐว่าสหรัฐออกรัฐบัญญัติกีดกันชาวจีนเพราะจีนเป็นคอมมิวนิสต์ก็อาจจะลืมคิดเรื่องช่วงเวลาไปนะครับ
1
ถ้าพูดเรื่องสีผิวก็ไม่เฉพาะจีนเท่านั้นที่โดนสหรัฐกีดกัน มีการต่อต้านคนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นในรัฐแคลิฟอร์เนียและเกิดขึ้นอย่างแรงมากในช่วง ค.ศ. 1910-1920 จากนั้นก็แพร่ขยายกระจายไปในรัฐอื่น
ต่อต้านทั้งระดับบุคคลและระดับรัฐ มีการห้ามคนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นทำอาชีพแรงงานที่มีฝีมือ ทำได้แค่ในภาคเกษตรกรรมเท่านั้น และต้องได้รับค่าจ้างต่ำกว่าคนผิวขาวที่ทำงานอย่างเดียวกัน ห้ามคนเชื้อสายญี่ปุ่นพำนักพักอาศัยอยู่ในย่านคนผิวขาว ต่อมา ก็ยังมีการออกกฎหมายที่ดินเพื่อเพิกถอนสิทธิการครอบครองที่ดินของคนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น
พวกที่แก้ตัวแทนสหรัฐ อาจจะบอกว่าสหรัฐต่อต้านญี่ปุ่นเพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 ขอเรียนว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดระหว่าง ค.ศ. 1939-1945 พวกที่จะแก้ตัวแทนขอให้ดูเรื่องช่วงเวลาซะก่อน
อยากจะถามกลับว่า จีนและญี่ปุ่นเคยออกกฎหมายกีดกันคนอเมริกันสักฉบับไหม
โฆษณา