6 ก.ย. 2021 เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📣 ถ้าอยากรู้คนเล่น TFEX กำไรกันกี่คน ❓ เข้ามาดูครับ <<เผยแนวทางคนที่ได้กำไร>>
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับ ว่าบทความนี้เป็นบทความที่พวกเราตั้งใจจัดทำขึ้นมากที่สุด โดยคาดหวังให้มันส่งต่อไปถึงนักเล่น TFEX ทุกคน เพราะมันคือข้อมูลที่เป็น “จุดเปลี่ยนชีวิตการลงทุนของเรา” ทำให้ยืนหยัดได้อย่างมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้ และหวังว่ามันจะช่วยให้ใครอีกหลายคนได้บรรลุเหมือนกับเราในอดีต
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 8 ปีก่อน เรากล้าพูดอย่างไม่มีฟอร์มเลยว่า เป็นหนึ่งในคนที่เจ๊ง “หมดตัว” และ “หมดหวัง” กับการลงทุน จนถึงขั้นเกิดความคิดที่ว่า “ชาตินี้ คงไม่มีทางประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น” แต่แล้ววันที่โชคดีที่สุดก็มาถึง เพราะเราได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิจัย ที่มั่นใจได้ว่านักลงทุนทั้งประเทศต้องอยากรู้คำตอบ นั่นคือ การศึกษาพฤติกรรมนักลงทุนจาก Performance การเทรด ทำให้ได้เห็นและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดของคนที่เล่น TFEX ตั้งแต่คนที่ทำกำไรหลายร้อยเปอเซ็นต์ ไปจนถึงคนที่ขาดทุนหลักหลายล้าน จนแตกฉานด้าน Mindset แต่ด้วยเงื่อนไขในตอนนั้น จึงทำให้ไม่สามารถเปิดเผยออกมาสู่สาธารณะได้ แต่ในวันนี้เราได้เติบโตขึ้น จนสามารถสร้างและเป็นเจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้ด้วยตัวเอง จึงพร้อมจะนำข้อมูลทั้งหมด มาเปิดเผยให้ทุกคนได้รับรู้ผ่านบทความนี้
2
จริงๆแล้ว คนที่เล่น TFEX กำไรกันกี่คน ?
แม้ในสังคมจะมีประโยคที่ลือกันมาอยู่บ้างว่า “มีแค่ 20% เท่านั้นที่ได้กำไร” หรือจะเป็น “คนที่เล่น TFEX ขาดทุนทุกคน” แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่คำพูดกะเกณฑ์จากมุมมองของแต่ละคน โดยไม่มีตัวเลขใด ๆ มายืนยัน แต่ในวันนี้ เราจะทำให้พิเศษกว่านั้น เพราะทุกข้อมูลที่เปิดเผย จะอ้างอิงจาก “หลักฐาน” ความจริงของกลุ่มตัวอย่างที่เสียสละส่งมอบข้อมูลนี้ให้กับเรา โดยมีนักลงทุนที่สมัครใจจำนวน 60 ท่าน ที่ยินยอมให้ Performance การเทรดตลอดปี 2020 ซึ่งต้องขอขอบคุณพวกเขาเหล่านั้น และเราสัญญาว่าจะใช้มันให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์กับนักลงทุนทุกท่านให้มากที่สุด ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยครับ
1
รูปแสดงกำไร/ขาดทุนสุทธิของนักลงทุนที่เทรด TFEX จำนวน 60 คนในปี 2020 โดยเรียงตาม %กำไรสุทธิ
นักลงทุนเพียง 22% ที่ได้กำไรสุทธิจากตลาด TFEX
จากรูปจะพบว่าในปีที่ผ่านมามีนักลงทุนเพียงแค่ 13 คนจาก 60 คนที่มี %ผลตอบแทนสุทธิที่เป็นบวก หรือคิดเป็นร้อยละ 22 โดยคนที่ได้กำไรสุทธิมากที่สุดมีผลตอบแทนสูงถึง 112% เมื่อเทียบกับเงินลงทุน ส่วนคนที่ขาดทุนหนักสุดก็ติดลบไปกว่า 90% โดยเราเชื่อว่าตัวเลขทั้งหมดนี้ คงไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนมากนัก เพราะทุกคนต่างรับรู้กันอยู่แล้ว ถึงความเสี่ยงของตลาด TFEX ที่มีทั้งคนกำไรมหาศาลและหมดตัว(จำนวนมากกว่า)อยู่ตลอด ดังนั้น เราพิสูจน์ให้ดูแล้วนะครับกับคำกล่าวที่ว่า คนที่กำไรในตลาด TFEX นั้นมีอยู่จริง และที่สำคัญตัวเลขที่ได้มันก็แทบไม่ต่างอะไรจากงานวิจัยเมื่อ 8 ปีก่อน ดังนั้น เราคิดว่านี้จะเป็นสัจธรรมของตลาดหุ้นที่รายย่อยจะประสบความสำเร็จในการ “เก็งกำไร” เพียง 10-20%
แล้วคนที่ได้กำไรเขามีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่น ?
แน่นอนว่านี้คงเป็นคำถามถัดมาหลังจากยอมรับกับข้อเท็จจริงข้างต้น ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องทุกคนที่อยากทราบคำตอบกันมากที่สุด พวกเราเองก็เช่นเดียวกัน จึงได้ทำการเจาะลึกศึกษาพฤติกรรมเพิ่มเติม จนได้ออกมาเป็นข้อสรุป 3 ประการ ดังต่อไปนี้
1.ตลาด TFEX ไม่เคยเป็น Zero Sum game !
 
หากใครเข้าใจนิยามของการเล่น TFEX จะทราบดีว่ามันคือการ “แทงขึ้น-แทงลง” โดยใครคาดการณ์ถูกทางก็ได้กำไรจากคนที่คาดการณ์ผิดทาง จึงทำให้ Product นี้ถูกนิยามความหมายว่าเป็น Zero Sum Game กล่าวคือมีคนนึงได้ก็ต้องมีอีกคนที่เสียในจำนวนเท่า ๆ กัน แต่นั่นเป็นเพียงแค่ทฤษฎีครับ เพราะในทางปฏิบัติยังมี Factor อีกตัวหนึ่งที่คอยดูดเงินให้สูญหายออกไปจากพอร์ตอย่างเนียน ๆ ในทุก ๆ การซื้อขาย ซึ่งก็คือ “ค่าธรรมเนียม”
 
รูปแสดงสัดส่วนค่าธรรมเนียมของทั้งปีเทียบกับเงินลงทุนของนักลงทุนแต่ละท่าน
ค่าธรรมเนียม หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่กำหนดชะตาของพอร์ต
"นักลงทุนเกินกว่า 90% ประเมินผลกระทบของค่าธรรมเนียมผิดพลาด" โดยจากตารางทุกท่านจะเห็นว่าสัดส่วนเฉลี่ยของค่าธรรมเนียมทั้งหมด จะมีค่าสูงถึง 25% ของเงินลงทุน นั่นหมายความว่า คนที่เล่น TFEX จะต้องแบกรับภาระกว่า 1 ใน 4 ของเงินลงทุนนี่ไว้ทุก ๆ ปี เพราะด้วยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้เล่นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง รวมถึงกฎของการ Leverage จึงทำให้ความถี่ในการซื้อขายของทุกท่านสูงไปโดยปริยาย โดยไม่สนใจว่าใครจะมีเงินลงทุนมากหรือน้อย ดังนั้น มันไม่มีหรอกนะครับ กับตรรกะฟอร์มหล่อที่บอกว่า “ถ้ามีฝีมือค่าคอมแพงแค่ไหนก็กำไร” เพราะยังไงการได้ต้นทุนที่ถูกก็ส่งผลให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพกว่า และนี้จึงเป็นเหตุผลที่พวกเรารวมนักลงทุนเข้ามาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้ทุกคนได้ค่าธรรมเนียมในอัตราที่ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
หลายท่านอาจสงสัยว่าสัดส่วนค่าคอมมันสูงขนาดนี้จริงหรือ ? แน่นอนว่าเราเองก็ตกใจ และแอบหวั่นใจว่ากลุ่มตัวอย่างให้ข้อมูลมาถูกต้องหรือไม่ เพราะพวกเขาทุกคนต่างก็ได้รับค่าธรรมเนียมในเรทต่ำที่สุดเพียงแค่ 18 บาทต่อสัญญาเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาตามความจริง หากเราวางเงินประกันต่อสัญญาที่ 20,000 – 30,000 บาท และกำหนดให้มีการเทรดแค่วันละแค่ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 ปี จะเสียค่าธรรมเนียม 18 บาท x 250 วันทำการ = 5,000 บาท จึงคิดเป็น 17-25% ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยที่ออกมา ดังนั้น จึงทำให้เรามั่นใจในคำตอบของพวกเขาและเดินหน้างานวิจัยชิ้นนี้ต่อได้
2.พฤติกรรมการเทรดเป็นอีกปัจจัยที่กำหนดผู้แพ้-ผู้ชนะในตลาด
 
นี่คืออีกหลักการสำคัญที่เปิดโลกของเราอย่างแท้จริง โดยเชื่อหรือไม่ ว่าแค่การตัดสินใจเลือกรูปแบบของกลยุทธ์การลงทุน ก็กำหนดความยาก-ง่ายของเส้นทางที่จะประสบความสำเร็จไว้ตั้งแต่ต้น โดยคนที่ได้กำไรเขามีแนวโน้มที่ใช้วิธีการลงทุนคล้าย ๆ กัน และในขณะเดียวกันคนที่ขาดทุนแทบทุกคน เขาก็มีนิสัยการลงทุนที่เหมือนกันเช่นเดียวกัน โดยทุกท่านสามารถพิสูจน์ได้จาก สถิติเชิงพฤติกรรมของนักลงทุนทั้งหมด ดังนี้
 
ความแม่นยำในการเทรดกับผลลัพธ์ของการลงทุน
นี่แทบจะเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของใครหลายคน ในการออกแบกลยุทธ์การลงทุน เพราะความเชื่อว่าคนที่ทำกำไรในตลาดจะต้องเป็นคนที่เทรดถูกบ่อย ๆ โดยมีสภาพแวดล้อมในสังคมหล่อหลอมให้เกิดความคิดแบบนั้น ตัวอย่างเช่น การเห็นคนโพสแต่กำไรโชว์ลงในสื่อ Social จึงทำให้ทุกคนพยายามศึกษาและ Focus ให้ทุก Order ที่เข้าซื้อ-ขาย ต้องออกมาเป็นบวก แต่มันจะใช่เรื่องสำคัญอย่างที่คิดกันจริงหรือไม่ เราไปดูคำตอบกัน
 
ตารางแสดง%กำไรสุทธิของนักลงทุน โดยเรียงตามความแม่นยำในการเทรดจากมากไปน้อย
1
จากตาราง เมื่อเราเรียงลำดับนักลงทุนที่มีความแม่นยำจากมากไปน้อย จะเห็นว่ามีนักลงทุนเกือบครึ่งนึงที่สามารถเทรดได้กำไรบ่อยกว่าขาดทุน (Win Rate > 50%) แต่เมื่ดูผลลัพธ์แล้วกลับพบว่ามีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นที่ได้กำไรสุทธิ ในขณะเดียวกันคนที่มีความแม่นยำน้อยกว่า 50% กลับมีคนที่ได้กำไรสุทธิถึง 10 คน นั้นหมายความว่า นักลงทุนที่เทรดเสียบ่อยกว่าได้กลับเป็นผู้ชนะในตลาด “เป็นไปได้ไง ?” นี้น่าจะเป็นความคิดถัดมาหลังจากที่ทุกท่านได้รับรู้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจนี้ จนถึงขั้นอาจมองว่า “มันไม่ใช่เรื่องจริง” แต่พวกท่านเชื่อหรือไม่ หากถ้าพารากราฟนี้ ถูกอ่านโดยนักเล่น TFEX มืออาชีพ แทบทุกท่านจะพยักหน้าและเห็นด้วยทันที เพราะพวกเขารู้ดีอยู่แล้วว่าความแม่นยำไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดที่ทำให้พอร์ตกำไรระยะยาว โดยมีตัวเลขอีกอาจสำคัญกว่า ซึ่งก็คือ “Risk/Reward Ratio”
ตารางแสดง%กำไรสุทธิของนักลงทุน โดยเรีบงตามค่า Risk/Raward Ratio จากมากไปน้อย
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจความหมายของ Risk/Reward Ratio หรือที่เขาเรียกย่อกันว่า “ค่า RR” กันก่อนนะครับ มันคือการนำ กำไรเฉลี่ยต่อไม้หารด้วยขาดทุนเฉลี่ยต่อไม้ ดังนั้น หากค่าที่ออกมา > 1 ก็จะหมายถึงนักลงทุนท่านนี้ มีความสามารถในการถือกำไรต่อไม้ได้มากกว่าขาดทุน แต่หาก < 1 ก็หมายถึง คนเหล่านั้นเขาถือกำไรได้รอบละสั้น ๆ แต่เวลาขาดทุนกลับยอมทนต่อไปเรื่อย ๆ หรือว่าง่าย ๆ มันคือค่าที่ใช้วัดความสามารถในการอดทนถือกำไรเทียบกับความดื้อรันถือขาดทุนนั่นเอง ซึ่งจากตารางจะเห็นว่ามีเพียงแค่ 20 คน เท่านั้นที่ผลลัพธ์โดยรวมสามารถถือกำไรได้นานกว่าขาดทุน และที่สำคัญ คนที่ได้กำไรสุทธิเกือบทุกคน (12 ใน 13 คน) เขามี RR ratio > 1 โดยเรื่องนี้จะเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือไม่ ? เราจะมาลองสรุปกันให้ชัดเจนขึ้น ดังภาพต่อไปนี้
กราฟแสดง Performance ของนักลงทุนในตลาด TFEX ตามความแม่นและ RR Ratio
จากกราฟ เมื่อเราทำการกำหนดให้แกนตั้งแสดง %ความแม่นยำ และแกนนอนแสดงค่า RR ratio และ Plot ข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้ง 60 คนลงไป (จุดเขียวคือคนที่ได้กำไร ส่วนจุดส้มคือคนที่ขาดทุน) จะพบว่ากราฟจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน โดยเราจะขยายความและตั้งชื่อเรียกควอไทล์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
หมายเลข 1 "Rookie Area" สำหรับพื้นที่นี้จะเป็นพื้นที่ของมือใหม่อย่างแท้จริง เพราะพวกเขาจะไม่สามารถทั้งทำกำไรให้ได้บ่อยกว่าขาดทุน (แม่นยำน้อยกว่า 50%) และยังมีการทำกำไรเฉลี่ยต่อรอบน้อยกว่าขาดทุน (RR น้อยกว่า 1) จึงทำให้ Performance ออกมาติดลบอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับใครที่รู้ตัวว่ากำลังเป็น 1 ในนักลงทุนกลุ่มนี้ ให้ปรับวิธีการลงทุนใหม่ทั้งหมด ทั้งเครื่องมือที่ใช้กำหนดจุดซื้อ-ขาย, วางเงินประกันให้มากกว่า 30,000 บาทต่อสัญญา แล้วเริ่มต้นเรียนรู้โดยตั้งเป้าไปที่ “ประสบการณ์” มากกว่าผลลัพธ์กำไร/ขาดทุน และพัฒนาให้ตัวเองหลุดพ้นจากบริเวณนี้ให้ได้
=> นักเล่น TFEX ประมาณ 30% จะตกอยู่ในพื้นที่นี้
หมายเลข 2 "A Trap Hole" หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมเราถึงตั้งชื่อในมุมมองเชิงลบให้กับพื้นที่นี้ เพราะหากดูตามความหมายแล้วมันก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่แย่ โดยนักลงทุนกลุ่มนี้มีความแม่นยำในการเทรดมากกว่า 50% แล้วมันไม่ดีอย่างไร ? เราอยากให้ทุกคนสังเกตดูว่าในบริเวณนี้มีจุดเขียวอยู่กี่จุด ? และเมื่อเทียบกับจุดส้มทั้งหมดแล้ว สัดส่วนเป็นอย่างไร นั่นแหละคือคำตอบว่าทำไมเราถึงเรียกมันว่า “หลุมพราง”
เพราะคนส่วนใหญ่มักจะยึดติดและแสวงหาวิธีให้ตัวเองทำกำไรบ่อยครั้งที่สุด เช่น การปิดทำกำไรให้เร็วที่สุด หรือการไม่ยอมตัดขาดทุนสั้น ๆ ซึ่งสุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จครับ แต่การได้มาของความแม่นยำเกิน 50% นี่ มันไปแลกด้วยเรื่องของเรื่องกำไร/ขาดทุนต่อรอบ คือ ได้กำไรรอบละน้อย ๆ แต่ขาดทุนรอบละมาก ๆ จนกดให้ค่า Risk Reward Ratio ต่ำโดยไม่รู้ตัว
สุดท้ายพอร์ตรวมจึงออกมาขาดทุน พร้อมสร้างความงุนงงว่า ทั้งที่เทรดก็ไม่แย่แต่ทำไมไม่กำไรสักที หากใครอ่านเนื้อหานี้แล้วรู้สึกคุ้น ๆ ก็ลองตระหนักกันสักนิดนะครับ บางทีการปล่อยวางความแม่นยำ อาจทำให้ท่านพบเจอคำตอบที่ง่ายและใกล้ตัวกว่าที่คิดไว้ก็ได้
=> นักเล่น TFEX ประมาณ 50% จะตกอยู่ในพื้นที่นี้
หมายเลข 3 "Success Zone" หากสังเกตในกราฟจะพบว่าจุดสีเขียวแทบทั้งหมด จะตกอยู่บริเวณพื้นที่แห่งนี้ แม้เราจะไม่กล้า Confirm 100% ว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุกคนจะมีพฤติกรรมการลงทุนแบบนี้ แต่จากประสบการณ์ 10 ปีที่ผ่านมาเรากล้า Confirm มากกว่า 90% ว่าคนที่เราเห็นประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เขามีพฤติกรรมการเทรดแบบนี้จริงๆ นั้นคือ ให้ความสำคัญกับการควบคุมค่า RR โดยการอดทนรันกำไรไห้เยอะที่สุด ส่วนขาดทุนต้องตัดให้ไว แม้ผลที่ออกมาจะทำให้ความแม่นยำต่ำ แต่ก็สามารถได้กำไรก้อนใหญ่ชดเชยขาดทุถี่ ๆ ทั้งหมดนั้นได้
=> นักเล่น TFEX ประมาณ 20% จะตกอยู่ในพื้นที่นี้ และคนที่ได้กำไรเกือบทั้งหมดตกอยู่ในพื้นที่นี้
หมายเลข 4 "Lavender Field" ในส่วนนี้เป็นพื้นที่แห่งความฝันที่ใครต่างก็อยากพาตัวเองเข้ามาอยู่ เพราะทั้งสามารถเทรดได้อย่างแม่นยำ และมีกำไรมากกว่าขาดทุนต่อรอบ แต่ก็ตามชื่อเลยครับ เรามองว่ามันเป็นได้แค่โลกในนิยายที่มันเกิดขึ้นยากมาก เพราะต้องยอมว่า “เรื่องของความแม่นยำและ RR มัน Conflict กันอยู่” คือ ถ้าท่านพยายามเทรดให้ได้ความแม่นยำสูงก็มักจะไปกระทบให้ RR ต่ำ กลับด้านกัน ถ้าอยากให้ RR สูง ก็ไปกระทบให้ความแม่นยำต่ำเช่นกัน
ดังนั้น มันจึงเปรียบเหมือนทุ่งลาเวนเดอร์ ที่เป็นเครื่องมือให้คนบางกลุ่มไว้สำหร้บใช้ “ขายฝัน” และมอมเมาให้มือใหม่รู้สึกว่ามันง่ายและทำได้ ยอมจ่ายเงินในการศึกษา ทั้งที่ความเป็นจริงมันแทบจะไม่มีใครทำได้ในระยะยาว ซึ่งหากใครกำลังโดนสปอยแบบนี้อยู่ เราอยากให้เชื่อในข้อมูลของเรา โดยยอมรับว่ามันไม่ใช่พื้นที่ที่จะเข้าไปอยู่ได้และลดความหวังลงมา เพื่อหาแนวทางที่ทำให้ได้กำไรยั่งยืนอย่างแท้จริงให้ได้
=> แทบไม่มีนักเล่น TFEX สักคนเลยที่ตกอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ในระยะยาว
ข้อมูลทั้งหมดนี้คงทำให้ทุกคนเห็นภาพที่ชัดเจนแล้วนะครับ ว่าคนเล่น TFEX เขามีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง ซึ่งนี่คือสิ่งทีมืออาชีพเขารู้มานานแล้ว แต่ไม่มีใครเผยมันออกมา และหากใครที่ตามเรา คงหายสงสัยแล้วนะครับ ว่าทำไมเราถึงมี Mindset ในการลงทุนแบบ Trend Follow โดยยอม Cut Loss ได้เป็นพัน ๆ ครั้ง เพราะ “เราได้พิสูจน์เรื่องนี้กับตัวเองมาแล้ว” แล้วพวกท่านละครับ ? กำลังใช่คนที่อยากได้กำไรในทุกครั้ง แต่พอเทรดไป-มา พอร์ตกลับไม่โตขึ้นหรือไม่ ? เราฝากให้ทุกคนลองพิจารณาดูนะครับ “ว่าคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ เขากำลังใช้กลยุทธ์แบบเดียวกันกับท่านหรือไม่”
เนื้อหานี้เราไม่ได้มีเจตนาสร้างขึ้นมาเพื่อดิสแนวทางของใครทั้งสิ้น เราแค่ถ่ายทอดมันออกมาจากข้อมูลที่ปรากฏ โดยไม่ได้หมายถึงทั้งหมดต้องเป็นอย่างที่บอก อย่างคนกลุ่ม 2 ก็มีคนที่ได้กำไร รวมถึงคนในกลุ่มที่ 4 ก็อาจจะมีอยู่จริง ดังนั้น เราอยากให้พวกท่านลองทำตามจริตตัวเองต่อไป และใช้ข้อมูลนี้เป็นตัวเพียงตัวยึดเหนี่ยว หากวันใดท่านพลาดลองย้อนกลับมาอ่านมันอีกครั้ง เพราะบางที ทางที่ดีที่สุดและเหมาะสมท่านที่สุด มันอาจไม่ใช่ทางที่ท่านใฝ่ฝันอยู่ก็ได้ เราภาวนาให้ทุกท่านพบเจอกับแนวทางของตนเอง
3.ทัศนคติเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่แยกระหว่างผู้ประสบความสำเร็จกับล้มเหลว
สำหรับในส่วนสุดท้ายที่เราคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด นั่นคือ ทัศนคติที่ถูกต้อง โดยเรามีคำถามที่อยากให้ทุกคนตอบออกมาจากใจจริง “พวกท่านเคยเห็นพอร์ตของคนที่กำไร TFEX จริงหรือไม่” แบบที่เป็นเส้นทางของเขานะครับ ไม่ใช่แค่ปลายทางหรือแค่ระหว่างทางที่แคปมาโชว์ให้ดู เพราะการได้เห็นแค่เพียงจุดเวลาเดียว มันอาจก่อให้เกิดปัญหาที่แรงแรงที่สุด คือการสร้างทัศนคติที่ผิดอย่างการมโนว่าการทำกำไรในตลาดมันง่ายเกินจริง หากใครที่ตอบว่า “ไม่เคย” เราขออาสาพามาให้เห็นภาพโดยกระจ่างว่า พอร์ตของคนที่ได้กำไรมีหน้าตาเป็นอย่างไร ดังต่อไปนี้
รูปแสดง %กำไร/ขาดทุนสะสมในทุกการเทรดของกลุ่มตัวอย่าง 5 คนที่ได้กำไรสุทธิในช่วงปี 2020
คนที่ได้กำไร “ขี้เหร่” กว่าที่ทุกคนคิด
จากรูปทั้งหมด คือ %กำไรสุทธิสะสมของกลุ่มตัวอย่างที่ได้กำไร โดยพวกท่านสังเกตเห็นอะไรกันบ้าง ? พวกเขาใช่คนที่ได้ค่ากับข้าวทุกวันอย่างที่พวกท่านตั้งความหวังไว้หรือไม่ ? หรือเขาคือคนที่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำอย่างสม่ำเสมอ ? คำตอบคือไม่ใช่เลย เพราะทุกคนที่ได้กำไรจากตลาด TFEX ผลลัพธ์ระหว่างทางพวกเขามีวันที่ได้และเสียไม่แตกต่างอะไรจากคนที่ขาดทุน แต่แค่พวกเขามี Mindeset สำคัญ 2 ข้อที่ต่างจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
1.นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะสามารถรับมือกับ “วันแย่ๆ (Bad Day)” ได้ดีกว่า
หากเราดูเส้นทางของทั้ง 5 กราฟ จะเห็นว่าคนที่ได้กำไร เขาก็เจอกับ “ช่วงเวลาเลวร้าย” ที่พอร์ตขาดทุนจากสุดสูงสุด (Drawdown) ในระดับ 10-20% อยู่บ่อยครั้ง และบางคนอาจเจอหนักที่สุด (Max Drawdown) ถึงระดับ 50% ! แต่พวกมืออาชีพเหล่านี้ เขามีการ “เตรียมพร้อม + เตรียมใจ” ในการรับมือไว้อยู่แล้ว จึงสามารถอดทนเทรดต่อด้วยความมั่นใจในวิธีของตัวเองจนผ่านมันไปได้ทุกครั้งไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานถึง 2-3 เดือน ซึ่งนี้แหละคือเรื่องแรกที่ Mindset พวกเขามีดีกว่ารายย่อยธรรมดา เพราะคนทั่วไป แค่ขาดทุน 2-3 ครั้ง หรือ 5-10% ก็พร้อมจะฝ่อหยุดเทรด หรือหมดความเชื่อมั่นในเครื่องมือที่ใช้ และศึกษาวิธีใหม่ ๆ จนสุดท้ายก็จับหลักไม่ได้และกลายสภาพเป็นเม่าที่วนเวียนขาดทุนอย่างไม่จบไม่สิ้น
*สิ่งที่สำคัญ วิธีการ/หลักการลงทุนของท่านจะต้องดีจริงด้วย มิเช่นนั้นการอดทนของท่านก็อาจจะสร้างได้แต่ผลลัพธ์แย่ ๆ ออกมา
2.นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะต้องมี “ช่วงเวลาทอง (Golden Time)” ของตัวเอง
อย่างที่บอกนะครับ ในทุกกลยุทธ์การลงทุนย่อมให้ผลลัพธ์ที่ดีและแย่สลับกันอยู่เสมอ และหากถ้าวิธีที่ท่านใช้ดีจริง สิ่งสำคัญเขาจะมอบช่วงเวลากำไรที่ “มากกว่า” ขาดทุน โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือ ทุกท่านต้องกอบโกยจากช่วงเวลาที่ “ตลาดเข้าทาง” ให้ได้มากที่สุด สังเกตจากรูปทั้ง 5 จะพบว่า พวกเขาต่างก็เก็บเกี่ยวผลกกำไรในแต่ละรอบ จนสามารถ Cover ขาดทุนที่ผ่านมาได้ และหากพิจารณาลึกเข้าไปจะพบว่า
“แต่ละคนมีช่วงเวลาดี-ร้ายกันคนละเวลา” ซึ่งหมายถึง การเคลื่อนไหวตลาดหุ้นจะเปลี่ยนแปลงไปตลอด โดยจะเหวี่ยงเข้าไปทางถนัดของอีกคน และในเวลาต่อมาก็เหวี่ยงออกไปหาอีกคน ดังนั้น จึงไม่มี Logic ไหนที่ทำกำไรได้ทุกเวลา มืออาชีพเขาเคารพกับกฏในเรื่องนี้ ซึ่งแตกต่างจากรายย่อยทั่วไป ที่พอรอบกำไรของ(กลยุทธ์)ตัวเองมาถึง กลับไม่เชื่อเรื่องนี้ และเลือกใช้ความรู้สึกส่วนตัว Bias การตัดสินใจ จึงทำให้ไม่สามารถเก็บรอบกำไรได้อย่างประสิทธิภาพ หากใครที่รู้ตัวว่ากำลังเกิดปัญหานี้อยู่ เรามีเคล็ดลับที่ได้ผลดีที่สุดมาแนะนำ คือ “ทำตามระบบเทรดของตัวเองในทุกการซื้อขาย”
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราอยากบอกไปต่อกับนักเล่น TFEX ทุกคน โดยต้องการแสดงให้เห็นถึง “แนวคิด&ทัศนคติของคนที่ประสบความสำเร็จ” เพื่อให้รู้ว่าในการเล่น TFEX ในระยะยาวสิ่งสำคัญคือเรื่องของการจัดการกลยุทธ์ ความคิด และอารมณ์ ไม่ใช่เรื่องโชคลาภหรือดวง และการเป็นคนที่ได้กำไรไม่สวยงามอย่างที่หลายคนเข้าใจ โดยในระหว่างทางพวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผลทั้งทางพอร์ตและทางใจ ทั้งเหตุการณ์สุดหยั่งถึงอย่างการ Circuit Breaker, New High สวนสถานการณ์โควิด หรือจะเป็นเรื่องบั่นทอนอารมณ์อย่างการเห็นคนอื่นโพสกำไรในวันที่พอร์ตเราติดลบ โดยหากถ้ามันไม่กระทบต่อ Mindset ของใครก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้ สิ่งที่เราอยากขอบคุณมากที่สุด คือ Data ของทั้งกลุ่มนักลงทุนตัวอย่างทั้งในอดีตและในปัจจุบัน ที่ช่วยให้เราสามารถแปรเปลี่ยนเป็นผลลัพธ์ และสร้าง Mindset ที่เหมาะสมให้กับตัวเราได้ โดยในปัจจุบันพวกเราเป็น 1 ในนักลงทุนสายเชิงปริมาณ (Quantitative Trader) ที่อยู่รอดและทำกำไรในตลาด TFEX มาได้เกือบ 10 ปีเต็ม และจากนี้ไปเราตั้งใจจะถ่ายทอดมันออกมาแบ่งปันสู่สังคม โดยนักลงทุนท่านใดที่มีจริตและชื่นชอบในเรื่อง Data Analyst & Science ก็ลองติดตามกันมาตามเครดิตนะครับ ในเดือนนี้เราจะปล่อยความรู้เกี่ยวกับ Quant เบื้องต้นตลอดทั้งเดือน เพื่อให้มือใหม่ได้เข้าใจและเริ่มต้นอย่างถูกต้อง หวังว่ามันจะช่วยทำให้เพื่อน ๆ ได้ใช้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ขอบคุณครับ
โดย Class แรกเริ่มวันเสาร์นี้ช่วงเวลา 13.00 น. ที่สำคัญเข้าฟังฟรี‼️ แถมแจกโปรแกรม Amibroker ตัวแท้ ที่ Quant Trader ระดับโลกใช้กันมากที่สุด พร้อม Private Class สอนการใช้งาน จำนวน 10 สิทธิ รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท ติดตามรายละเอียดได้ที่ Link 👇🏻
💬 สามารถพูดคุย สอบถาม หรือร่วมแชร์ข้อมูลกับเราได้ ในห้อง Line Open Chat “TFEX For Future”
👇🏻 คลิก link เข้ากลุ่มได้
📣 "โปรลับ" ‼️ สำหรับสมาชิกคนพิเศษ
📍 เราให้ได้มากกว่า แค่คำว่า...”ค่าคอมถูก”
ง่ายๆ แค่คลิก👇🏻link แล้วกรอกข้อมูล📄
✳️ฝากติดตาม TFEX For Future ช่องทางอื่นด้วยนะครับ
โฆษณา