15 ก.ย. 2021 เวลา 00:00 • หนังสือ
เวลาเดินในเมือง เห็นหลายชีวิตเดินสวนทางไปมาเหมือนฝูงมดในป่า ผมเคยถามตัวเองเล่น ๆ ว่า แต่ละคนรู้ไหมว่าจะไปทางไหนในชีวิต
1
รู้และเดินไปเรื่อย ๆ
หรือไม่รู้และเดินไปเรื่อย ๆ?
มีใครกี่คนที่หลงทางแต่ไม่รู้ว่าตัวเองหลงทาง?
อย่างน้อยสักครั้งในชีวิต แทบทุกคนจะถามตัวเองว่า เราเกิดมาทำไม
ผมถามมาตั้งแต่เด็กแล้ว ถามมากกว่าหนึ่งครั้ง และคำตอบก็เปลี่ยนไปตามวัย ความรู้ และประสบการณ์
บางทีมนุษย์อาจเป็นสายพันธุ์เดียวที่ตั้งคำถามนี้ เมื่อสมองของเรามีคุณสมบัติที่จะคิดเรื่องลึกซึ้ง
1
หลายคนสงสัยการดำรงอยู่ของตัวเองในโลก และแสวงหาความหมายของชีวิต พวกเขาตั้งคำถามเดิม ๆ ที่ถูกถามมาหลายพันปีแล้ว และแต่ละศาสนาและความเชื่อมีทฤษฎีและคำตอบต่างกันออกไป
อะไรคือจุดหมายของชีวิต? ชีวิตมีความหมายหรือไม่?
หลายคนตอบว่าจุดหมายคือความสุข
1
บางคนบอกว่าความสุขคือมีฐานะและร่ำรวย ถึงจะตอบว่าความร่ำรวย ก็อาจโยงกลับมาที่ความสุขอีกเช่นกัน เพราะคนส่วนมากผูกความสุขกับความรวย กลายเป็นค่านิยมไป
ทว่ามีตัวอย่างมากมายที่ชี้ว่าความสุขไม่ได้เกิดมาจากความรวยความจน
เช่นเดียวกับความเร็วความช้า ความร้อนความเย็น รวยหรือจนก็เป็นเพียงค่าสัมพัทธ์
เพราะเงินทองในปริมาณเท่ากัน คนหนึ่งรู้สึกว่าพอ อีกคนหนึ่งรู้สึกว่าไม่พอ
ค่าสัมพัทธ์นี้เมื่อปรุงแต่งในใจ ก็ทำให้เราสุขหรือทุกข์ได้
2
บางทีปัญหาของมนุษย์คือมองเป้าหมายของชีวิตที่ ‘ความสุข’ อย่างเดียว มีทัศนคติและกรอบคิดว่า ความสุขคือการมีเงิน เป็นเจ้าของสิ่งต่าง ๆ
การตั้งเป้าหมายของความสุขแบบนี้ อาจเป็นต้นเหตุของทุกข์
เพราะความสุขไม่ใช่ขุมทรัพย์ที่พบด้วยการเดินตามลายแทง
เอาละ สมมุติว่าจุดหมายของชีวิตคือความสุขจริง เราก็ยังตีความ ‘ความสุข’ ได้หลายอย่าง สุขทางกาย สุขทางใจ
ทั้งสุขทางกายและสุขทางใจก็ตีความได้อีก และมีหลายระดับ
ใช่ไหมว่าเรามองแค่ในกรอบคิดของความสุข เพราะเรามองเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้
เมื่อเครื่องมือเดียวของเราคือค้อน เราก็มักมองทุกคำถามเป็นตะปู
บางทีจะเข้าใจมนุษย์จริง ๆ เราอาจต้องเข้าใจ ‘ชีวิต’ และการจะเข้าใจชีวิต อาจต้องเข้าใจทุกชีวิต มิเพียงชีวิตบนโลก แต่ชีวิตทั้งจักรวาล มิเพียงจักรวาลนี้ หากทุกจักรวาล (ถ้ามี)!
ปรัชญาพุทธบอกว่า ความสุขเป็นมายา เป็นสิ่งสมมุติ ความทุกข์ก็ไม่ใช่ของจริง เราปรุงแต่งมันเป็นรูปขึ้นมาเอง
การปรุงแต่งนี้ทำให้ในเรื่องเดียวกัน คนหนึ่งสุข อีกคนทุกข์
เช่นเดียวกับที่เรามองว่าความสุขเป็นอย่างนี้ ความทุกข์เป็นอย่างนั้น แต่จริง ๆ แล้วอาจไม่มีความสุขความทุกข์ ทั้งสองอย่างอาจเป็นมายาแห่งทวิลักษณ์ที่เราสร้างขึ้นมาเอง
แต่เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาตั้งคำถามผิด บางทีมันไม่ควรเป็นคำถามตั้งแต่แรก บางทีไม่สำคัญว่าใครส่งเรามา ไม่สำคัญว่าเราเกิดมาทำไม ที่สำคัญคือเรารู้ไหมว่าเรากำลังทำอะไรบนโลก?
2
ลองคิดดู เราเกิดมาในโลกด้วยตัวเปล่า ไม่มีอะไรเป็นของเราจริง ๆ ทุกอย่างในโลกนี้ เราหยิบยืม เช่า ขโมย ปล้น มาจากธรรมชาติทั้งสิ้น และเวลาจากโลก เราก็ต้องคืนทั้งหมด แม้แต่ร่างกายของเราเอง
7
ความสุขทุกข์จึงอาจเป็นเพียงมายาภาพ ชั่วขณะที่เรายังหายใจได้
1
มันเป็นเพียงมายา ชั่วคราว ไม่จีรัง มันมิอาจจีรัง เพราะเป็นโครงสร้างของจักรวาลอย่างนี้เอง
1
ชั่วคราวหรือไม่ชั่วคราวก็เป็นมายาอีกเช่นกัน
2
การเกิดการตายก็เป็นมายา เมื่อเข้าใจเรื่องมายา เราก็จะอยู่ในโลกได้อย่างมีความสงบขึ้น และความสงบก็คือ ‘ความสุข’
1
คนเราต้องการอะไรจริง ๆ ถ้ามิใช่ความสงบ?
1
ความสุขจึงอาจอยู่ที่มุมมอง ทัศนคติ และเป็นอิสระจากกรอบของความสุข
บางทีความสุขอาจเป็นแค่ผลพลอยได้ (by-product) ของการดำเนินชีวิต และมันเป็นแค่ความสงบสงัดสันติมากกว่าสุขลิงโลด
2
ผมเลิกถามตัวเองมานานแล้วว่า เราเกิดมาทำไม ส่วนหนึ่งเพราะมันอาจไม่จำเป็น ส่วนหนึ่งอาจเพราะมันยังไม่ถึงเวลาตั้งคำถามนี้ บางทีมนุษย์อาจไม่สามารถเข้าใจคำถามนี้ เราเป็นเพียงมดตัวหนึ่ง เดินไปเดินมาในป่ากว้าง ปฏิสัมพันธ์กับมดตัวอื่น เรายังไม่สามารถจะรู้ว่าป่ากว้างแค่ไหน มีกี่ป่า ทำไมจึงมีป่า ใครสร้างป่า อาจเพราะอายุขัยของเราสั้นเกินไป และบางทีเพราะเราไร้ความสำคัญ และบางทีเราต้องหลงทางไปตลอดเวลาของมนุษยชาติบนโลกใบนี้
3
บางทีเราอาจคิดมากไป?
บางทีการมีชีวิตก็คือการหายใจ กิน นอน ทำเรื่องต่าง ๆ?
1
เวลาเดินในเมือง เห็นหลายชีวิตเดินสวนทางไปมาเหมือนฝูงมดในป่า เราแต่ละคนรู้ไหมว่าจะไปทางไหนในชีวิต
บางทีมันไม่มีสาระอะไร สาระเป็นเพียงสิ่งสมมุติ?
ระหว่างนี้ก็ใช้ชีวิตไปตามธรรมดา ง่าย หิวก็กิน กระหายก็ดื่ม ง่วงก็นอน
เราจะซื้อความสุขจากภายนอกได้อย่างไร ในเมื่อมันเกิดขึ้นเองภายในใจ เรามักเชื่อว่าคนที่เรารักทำให้เรามีความสุข แต่ความจริงเราต่างหากทำให้เรามีความสุข โดยสร้างมายาว่าคนอื่นทำให้เราสุข
3
ความแข็งแรงของร่างกายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก เช่น จากการออกกำลังกาย แต่ความสุขเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างใน ภายในหัวใจเท่านั้น
ความสุขไม่ได้มาจากการประทานของใคร เราต้องสร้างขึ้นมาเอง
มันเป็นสิ่งที่ซื้อไม่ได้ แต่ปลูกได้
หาไม่พบ แต่ค้นพบได้
1
สูญหายได้ แต่ก็สร้างใหม่ได้
ถ้าเราเข้าใจที่มาที่ไปของชีวิต เราก็อาจสามารถมองได้ว่า ความสุขไม่ใช่ของตายตัว ไม่ใช่ของใหญ่โต
1
ถ้าเราเข้าใจสัจธรรมนี้ เราก็อาจเลิกดิ้นรนแสวงหาสิ่งต่าง ๆ ตามคนอื่น หรือเป็นทุกข์เมื่อไม่ได้ หรือได้ไม่เท่าคนอื่น
เพราะความสุขเล็ก ๆ ก็คือความสุข
จากหนังสือ #ความสุขเล็กๆก็คือความสุข / https://bit.ly/2Q05gHz
โฆษณา