8 ก.ย. 2021 เวลา 10:16 • ครอบครัว & เด็ก
อยู่เย็น...เป็นสุข
.
.
วันนี้เป็นวันครบแต่งงานครบ 19 ปีของหุยและสามี
หลายคนบอกว่าเราโชคดีเจอคู่ที่ดี
หลายคนเห็นครอบครัวของเราเป็นไอดอล
.
หุยบอกได้เลย ครอบครัวของเราก็เหมือนกับทุกๆคู่
ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ต้องประคับประคอง
คนเรามักจะเลือกคู่ที่เป็นขั้วตรงกันข้าม
มันรู้สึกตื่นเต้น เติมเต็มในส่วนที่ขาด
หุยและสามีก็เช่นกัน เราตรงกันข้ามกันเกือบทุกอย่าง
สิ่งเดียวที่เรามีเหมือนกัน คือ ความเมตตา
ปรารถนาให้คนที่เรารักมีความสุข
ทุกอย่างในการตัดสินใจของเรา
เราจะคิดถึง อีกฝ่ายหนึ่งเสมอ
.
เราแต่งงานมาด้วยความไม่พร้อม
เราไม่มีแม้แต่บ้าน
เรือนหอเป็นบ้านที่แม่สามียกให้พี่ชายสามี
แต่เราอาศัยอยู่ได้
แต่เราไม่ได้กังวลค่ะ เราตั้งใจที่จะสร้างตัวด้วยกัน
.
สามีเป็นมนุษย์เงินเดือน เริ่มต้นจากตำแหน่งเล็กๆ
หุยเองก็เช่นกัน เราไม่ได้มีเงินทองมาอยู่ด้วยกัน
แต่เรามีความรู้ ความสามารถ และเรามีวัยวุฒิที่พร้อม
การอยู่ด้วยกันของเรา คือ ความเข้าใจในสิ่งที่เรามีและไม่มี
.
เราสองคนต้องมองไปที่ความก้าวหน้า
เพราะลำพังสิ่งที่เรามีในตอนนั้น ไม่สามารถเลี้ยงลูกแน่ๆ
ดังนั้น เราสองคนจึงเป็นคนที่พัฒนาตัวเองตลอด
ที่สำคัญคือ เราพัฒนาไปด้วยกัน
เวลาหุยไปเรียนสัมมนาอะไร หรืออ่านหนังสืออะไร
หุยจะเขียนลงในเวบบอร์ดโมมี่พีเดียในสมัยนั้น
หรือ Facebook
สามีจะตามอ่านค่ะ ทำให้เค้ารู้ว่า เราคิดอะไร ศึกษาอะไร
เรียนรู้อะไร สนใจอะไร รู้สึกอย่างไร
เวลาหุยไปเรียนอะไรที่ดีๆ เค้าจะตามไปเรียนด้วย
เวลาเค้าอ่านหนังสือ หรือฟังคลิปอะไร
เค้าจะแชร์ให้หุยด้วย
.
ต่างจากเพื่อนๆหลายๆคู่ที่สามี หรือ ภรรยามาเรียนคนเดียว
แล้วบ่นว่า คู่ชีวิต พูดกันไม่รู้เรื่อง
เป็นเพราะต่างคนต่างไม่ได้สื่อสารกัน
หรือช้อมูลต่างกัน ยิ่งนานวัน Mindset ยิ่งต่าง
ติดต่าง ทำต่าง ก็ทำให้ยิ่งทำอะไรก็ไม่ถูกใจกัน
จนเกิดความขัดแย้ง และเลิกราในที่สุด
.
สามีและหุยมักจะพูดคุยกันในเรื่องที่เราเรียน เราอ่าน
แล้วคิดว่า เราเอามาใช้ในครอบครัว ในงาน ในธุรกิจอะไรได้บ้าง
แม้แต่เรื่องการวางแผนบริหารเงิน
หุยจะเป็นคนศึกษาหาข้อมูล
แล้วให้เค้าวางแผนด้วยกัน
.
หรือแม้แต่การพัฒนาลูก
หุยจะเป็นคนศึกษาหาข้อมูล
แล้วมาหารือกัน เค้าจะศึกษาดูแล้วตัดสินใจด้วยกัน
เพราะเราต้องคำนึงถึงรายได้ของเค้า และการบริหารเงิน
หุยจึงต้องศึกษาระบบการศึกษาของลูก
และพัฒนาลูกด้วยตัวเอง เพื่อชดเชยในสิ่งที่ลูกขาด
โรงเรียนที่เราเลือกในการพัฒนาลูก
เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในวงเงินที่เราจ่าย
แต่ยังไม่เพียงพอกับการพัฒนาเด็กให้มีคุณภาพ
ที่จะสู้กับคนในระดับโลก
.
ตลอดระยะเวลา 19 ปี มองย้อนกลับไป
เราสองคนก็เหน็ดเหนื่อยและเสียสละเยอะมาก
แต่เป็นเพราะเราไม่เคยมองวันนี้
เรามองเห็นแต่วันพรุ่งนี้ วันที่เราประสบความสำเร็จ
ทุกๆปี เราจะประเมินกันว่า ปีนี้เราก้าวหน้าอย่างไรบ้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องพัฒนาการของลูกสองคน
.
การแต่งงานเป็นคู่ชีวิต เหมือนการสร้างทีม
เหมือนเราตกลงสร้างบริษัทนึง
ที่เราจะต้องมีความเชื่อมั่น เชื่อใจ ว่าอีกฝ่ายดีพอและทำได้
เราให้เกียรติกัน ซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัดสินใจ อยู่บนพื้นฐานของคำว่า "เรา"
.
หลายครั้ง เราต้องยอมเลือกที่จะละทิ้งตัวตนเดิมของตัวเอง
เพื่อให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน
หลังจากคลอดลูกคนเล็กเพียง 4 เดือน
ครอบครัวของเราย้ายไปทำงานที่ประเทศเวียดนาม
เพราะสามีต้องไปทำภารกิจใหม่ที่นั่น
หุยยอมที่จะวางทุกอาชีพการงานพาลูกไปอยู่กับสามี
.
ตอนที่ย้ายกลับมาเมืองไทย
หุยมีงานที่ฮานอยและมีโอกาสที่ดี
แต่เมื่อสามีย้ายกลับ ก็ยินดีย้ายตามกลับมา
เพราะสำหรับเรา ครอบครัวที่ได้อยู่ด้วยกัน คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
.
โอกาส ความสำเร็จต่างๆนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน
หน้าที่ที่แท้จริงของมนุษย์ คือ ครอบครัว
เรามาอยู่ด้วยกัน ด้วยสิ่งที่จักรวาลจัดสรร
เรามีหน้าที่ต่อกันเพื่อเรียนรู้ เพื่อช่วยเหลือกัน
เมื่อเราทำหน้าที่ของเราอย่างสมบทบาท
เมื่อนั้น เราจะได้ผลตอบแทนอย่างไม่รู้จบ
.
ชีวิตครอบครัว คือแบบฝึกหัดที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ
หลายคน มองเห็นสิ่งอื่นมีคุณค่าต่อการดูแลใส่ใจคนในครอบครัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูก
เมื่อสอบบทเรียนไม่ผ่าน
ก็จะมีบทเรียนที่ยากกว่า มาให้เราได้ทดสอบ
.
จงทำข้อสอบรวดเดียวให้ผ่าน
ด้วยการยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข
และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ยอมรับหน้าที่นั้นอย่างศิโรราบและสงบสุข
เมื่อนั้นความอุดมสมบูรณ์จะมาเอง
โฆษณา