9 ก.ย. 2021 เวลา 10:23 • ข่าว
ปรับไลฟ์สด 2 พส. เน้น “คนละครึ่ง”
มหาสมปอง-มหาไพรวัลลย์ปรับ “ไลฟ์สด” ใหม่เน้นให้ธรรมมะแทรกความฮาแบบ “คนละครึ่ง”
#Station101 #SlowDownAndListen #101NewsAndTalk #เพิ่มทุกมุมคิดพลิกทุกมุมข่าว #101News #คลื่นข่าวอันดับ1บนหน้าปัดวิทยุ #พระมหาสมปอง #พระมหาไพรวัลย์
เมื่อวันที่ 9 ก.ย.64ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนฯโดยเชิญพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์วัดสร้อยทองมาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกรณีเกิดกระแสวิจารณ์ถึงการออกมาไลฟ์สดทางโซเชียล
พระมหาสมปอง ให้สัมภาษณ์ถึงก่อนเข้าร่วมประชุมว่า วันนี้ไม่ได้เครียดอะไร ทางคณะกมธ. นิมนต์มา เราก็ยินดีที่จะมาและตอบทุกคำถามอยู่แล้ว กมธ.อาจจะสงสัยบางเรื่องอาจจะทำแบบนี้ได้หรือไม่ เราก็จะตอบให้หมด
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ มีบางฝ่ายมองว่าการไลฟ์สดที่ผ่านมาผิดพระธรรมวินัย ที่ไม่สำรวม พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า ไม่กังวล เมื่อวานได้คุยกับหลายท่านว่าสิ่งที่ทำไปนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เรื่องเสียงหัวเราะไม่น่ามีปัญหา ด้านพระมหาสมปอง กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้ไม่กังวล เพราะอาตมาคิดว่าผู้หลักผู้ใหญ่เป็นห่วงและกมธ.ก็มีหน้าที่อุปถัมภ์ คุ้มครองพระพุทธศาสนา ดังนั้น เราคิดว่าจะคุ้มครองและดูแลเรา อย่างไรก็ตาม หากใครเชิญให้ไปชี้แจง อาตมาก็จะไปและอาตมาอยากจะถามด้วยว่า กมธ.ศาสนา ที่คุ้มครองและอุปถัมภ์ศาสนา เราทำงานมาไม่ค่อยมีใครอุปถัมภ์ ไปบรรยายที่นั่นที่นี่ ส่วนใหญ่โรงเรียนก็ดูแลเรา ต่อไปพระรุ่นใหม่ที่กำลังฝึกฝนตัวเองขึ้นมาแทน กมธ.จะดูแลอย่างไร
หรือว่ามีใครมาด่าลูกๆท่าน ซึ่งเราก็ดูเหมือนลูกศาสนา ท่านจะคุ้มครองเราอย่างไร จะคุ้มครองหรือทำลายเราโดยเรื่องนี้อาตมาคิดไว้ในหัว ก็ไม่รู้จะกล้าถามหรือไม่ “เราจะ “ล.ร.ร.” เราจะ “ไลฟ์เรียบร้อย” พระมหาสมปอง กล่าวและว่า “เชื่อมือเราเถอะ อาตมาบรรยายธรรมมา 20 กว่าปี ตั้งแต่ยังไม่ออกทีวี เราทำงานเก็บข้อมูลผู้ฟังอย่างไร ให้อะไรตอนไหน เรามีจังหวะนั้นอยู่แน่นอน แต่การไลฟ์วันแรกก็อย่างที่บอกยังงงกับเด็กนักเรียนอยู่ แล้ว ผอ.มาดุว่า 2 คนนี้สอนอะไรกันเสียงดังไปห้องข้างๆ แล้วท่านก็มาบอกว่าควรจะสอนอย่างนี้อย่างนั้น เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งอาตมามองตรงนั้นมากกว่า” ขณะที่พระมหาไพรวัลย์ กล่าวเสริมว่า การไลฟ์ไม่ถึงกับเหมือนเดิม เราจะปรับให้ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้ขอให้พระมหาสมปองและพระมหาไพรวัลย์ฝากธรรมะ โดยพระมหาสมปอง กล่าวว่า “จงลืมเสียเถิดความหลัง แล้วสร้างปัจจุบันเพื่ออนาคต” บางท่านก็ยึดติดกับความหลัง และไปรื้อฟื้นเรื่องต่างๆ เหมือนกับไปรื้อฟื้นคลิปเก่าๆ ของพระมหาไพรวัลย์ ที่มีคนฟังหลักสิบหลักร้อย แต่ถ้ารื้อฟื้นแล้วเป็นบทเรียนที่เป็นประโยชน์ก็ดี แต่อย่างไรเราก็สร้างปัจจุบัน เน้นเผยแพร่ศาสนา เหมือนเรามาพรีเซ็นหน้าห้อง แล้วพระอาจารย์บอกว่าอันนี้ไม่ดีต้องกลับไปแก้ไข เราก็พร้อมทำอยู่แล้ว เราเป็นพระเด็กๆ จึงพร้อมที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น
นอกจากนี้พระมหาสมปอง ยังได้ฝากธรรมะถึงนักการเมืองว่า เมื่อเราอยากเป็น เราก็ต้องอยากทำงานด้วย เหมือนกับถ้าเราอยากไลฟ์ ก็ต้องอยากให้ธรรมะสอนคนด้วย ฉะนั้น ถ้าท่านมาแล้วดูแลประชาชน ก็สมกับที่ท่านอยากเป็น อย่างที่เขาบอกว่า “ธรรมชาติของตาอยู่ต่ำกว่าสมอง จงอย่าตัดสินแค่การมอง โดยลืมไตร่ตรองด้วยการใช้สมองที่สูงส่ง” ทุกครั้งที่เราดูอะไร เห็นอะไรต่างๆ ก็ตัดสินใจเลย เหมือนกับที่มีคนมาเตือนแต่แรก แต่ใจเขาบอกดูให้จบก่อน พอจบแล้วก็กลายเป็นให้กำลังใจ และชม ถ้าเป็นภาษาดั้งเดิมตอนเด็ก คือดูหนังให้จบม้วนก่อนแล้วค่อยตัดสินเรา และค่อยตัดสินว่าคิดอย่างไร และให้เราแก้ไขอย่างไร ก็บอกกันได้
“ทุกวันนี้โลกของโซเซียลมันเรียล มันจริงมาก ชอบไม่ชอบ ดีไม่ดี แต่จะเป็นเกณฑ์เลยหรือไม่ อาตมาไม่เคยตั้งไว้ เพราะกลัวเขาว่า จะทำให้รู้สึกนอย หรือรู้สึกแย่ ดังนั้นลองชั่งน้ำหนักดู ประโยชน์ หรือโทษ อันไหนหนักกว่ากัน เพราะเราเพิ่มประโยชน์และสิ่งดีมีคุณค่าได้ เหมือนพวกท่านที่สนใจในคลิป เมื่อสักครู่ตอนลงรถ ยังถามพระมหาไพรวัลย์ ว่าเคยคิดว่าจะมีอย่างนี้หรือไม่ อยู่ๆก็มาเจอคนเยอะ ทั้งนี้ พระมหาไพรวัลย์ ได้ตอบกลับว่า “นึกว่ามางานเมืองคานส์”
ก่อนจบสัมภาษณ์ พระมหาไพรวัลย์ ยังกล่าวเสริมว่า ถือคติว่า ถูกต้องทั้งหมดไม่มี ไม่ถูกต้องทั้งหมดก็อาจจะไม่มี ชั่งใจเอา อาตมาว่าจะทำให้ถูกใจทุกคนคงยาก อย่างว่าคนดูหลักแสน คนดูหลักสิบในคอมเม้นต์ยังตีกันเลย
ด้านนายสุชาติ กล่าวภายหลังการประชุมกมธ.ร่วมกับพระมหาสมปองและพระมหาไพรวัลย์ว่า กมธ.ไม่ได้มีมติเชิญพระอาจารย์ แต่เป็นการขอความร่วมมือมาชี้แจงและแลกเปลี่ยนในเรื่องที่สังคมส่วนใหญ่กังวลอยู่ พระอาจารย์ก็ตอบคำถามอย่างชัดเจนและกระจ่าง ในนามของกมธ.ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสามารถทำได้เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไร ก็มีคณะผู้ปกครองสงฆ์ มีเจ้าอาวาสและผู้ดูแลอยู่ กมธ.ไม่ได้มีอำนาจในการชี้ผิดถูกว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไร อย่างไรก็ตามการที่หารือกันในวันนี้คุยกันด้วยความห่วงใยทั้งนั้น ไม่ได้มีประเด็นมาชี้มาถูกหรือผิดเพราะเชื่อว่าสังคมเองก็มีความเห็นที่หลากหลาย
ขณะที่พระมหาสมปอง กล่าวว่า มี 3 ประเด็นหลักคือประเด็นเชิงบวก เรื่องการไลฟ์สดเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ มีความเหมาะสมทันยุค ทันสมัย แต่ประเด็นเชิงลบที่จะนำไปแก้ไข คือ หากมีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นอาจจะไม่สามารถยับยั้งหรือยกเลิกการเผยแพร่ทันที อาจจะทำให้เกิดผลเสีย ซึ่งหมายถึงการไลฟ์สดที่เรียลไทม์เผยแพร่ออกไปในขณะนั้น ท่านก็ให้เราดูเนื้อหามันเหมาะสม ขอเป็นเนื้อหา 70% ความสนุกสนาน 30% ได้หรือไม่ ตอนแรกอาตมาก็คิดว่าทำได้เลยแต่ว่าคิดไปคิดมาขอเป็นเนื้อหา 50% และความสนุกสนาน 50% ได้หรือไม่ซึ่งเป็นเรื่องที่จัดสรรได้
“มีเรื่องหนึ่งที่อาตมาสงสัยมากคือตอนไลฟ์สด มี Official เข้ามาเยอะแล้วมีห้างร้านอยากจะอุปถัมภ์ ยกตัวอย่าง สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องพระพุทธศาสนาช่องหนึ่งจะมาอุปถัมภ์ สามารถทำได้หรือไม่ท่านก็บอกว่าอุปถัมภ์ได้แต่อาจจะตั้งผลิตภัณฑ์เอาไว้โดยที่ไม่ต้องพูดถึงโดยสำนักพุทธก็ชี้แจงว่าสามารถทำได้เลยแต่ให้อยู่ในความเหมาะสม” พระมหาสมปอง กล่าว
พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า จะขอน้อมนำคำแนะนำของกมธ.ทุกท่านที่เห็นด้วยและฝากข้อห่วงใยมา อาตมาก็รับปากว่าหลังจากนี้จะปรับให้เหมาะสมและคำนึงถึงความเป็นห่วงของผู้ใหญ่ทุกท่าน ส่วนประเด็นที่อาจารย์บอกปรับปรุงแก้ไขเรื่องความสำรวมและอากัปกิริยา ซึ่งสามารถทำได้เลย
โฆษณา