13 ก.ย. 2021 เวลา 02:46 • สุขภาพ
ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ต่างคนต่างไป
1
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
รับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพเมื่อ 29 พฤษภาคม 2563 ว่า “วิกฤติโควิด-19 ทำให้เวียดนามโดดเด่นขึ้น (เช่นเดียวกับไทย) องค์การอนามัยโลกประกาศชื่นชมว่าเวียดนามรับมือโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว เด็ดขาด และเผยแพร่ข้อมูลอย่างเปิดเผยและโปร่งใส...”
https://en.nhandan.vn/politics/item/9956502-lao-pm-extends-sympathy-to-vietnam-over-covid-19-outbreak.html
“...นักลงทุนต่างชาติกำลังเร่งย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม...การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศเดือนเมษายน 2563 ที่เข้าเวียดนามเพิ่มกระฉูดถึงร้อยละ 81...”
“...20 วันแรกของเดือนมกราคม 2563 มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาที่เวียดนามเพิ่มถึงร้อยละ 179.5”
ถึงตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วครับ ว่าความเนื้อหอมของเวียดนามจะยังเหมือนเมื่อก่อนหน้าโควิด-19 ระบาดหนักในเวียดนามหรือเปล่า
ตอนนี้นักลงทุนยุโรปในเวียดนามเตรียมย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นเพราะเวียดนามไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูจาก Worldometers.info โควิด-19 ระบาดในเวียดนามอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2564
ขณะที่เขียนคอลัมน์รับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพ เวียดนามมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในเวลา 24 ชั่วโมงสูงถึง 13,321 คน เสียชีวิต 275 คน (เมื่อ 1 กันยายน 2564 มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 803 คน)
ร้อยละ 80 ของผู้เสียชีวิตและร้อยละ 50 ของผู้ติดเชื้อเกิดขึ้นที่นครโฮจิมินห์ซิตี้ และเส้นกราฟผู้ติดเชื้อลากสูงขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
สิ่งที่นักลงทุนยุโรปกังวลที่สุดคือ เวียดนามมีอัตราการผู้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพียงร้อยละ 4.3
https://e.vnexpress.net/news/news/vietnam-records-28-more-local-covid-19-cases-4279402.html
ผู้อ่านท่านคงนึกออกนะครับ ว่ามีคนเวียดนามได้รับการฉีดวัคซีนแล้วแค่ 4.21 ล้านคนจากประชากร 98 ล้านคน นี่เป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในเอเชีย
หลายประเทศตกม้าตายเพราะการจัดการการระบาดของโควิด-19 เดินมาดีๆ ก็มาตกหลุม กว่าจะขึ้นจากหลุมนั้น ก็แทบเอาชีวิตไม่รอด
จากผลสำรวจความคิดเห็นของสภาหอการค้ายุโรปหรือ EuroCham เดือนกันยายน 2564 พบว่าร้อยละ 18 ของผู้ตอบแบบสำรวจ ย้ายฐานการผลิตบางส่วนจากเวียดนามไปประเทศอื่นแล้ว และอีกร้อยละ 16 กำลังพิจารณา
1
ประธานสภาหอการค้ายุโรปแถลงว่าสมาชิกสภาฯ ต้องการแผนการจัดการการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในเวียดนามอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สมาชิกสภาฯ มีแนวทางในการวางแผนกลับมาเปิดธุรกิจได้ต่อไป
นอกจากนั้น ยังขอให้รัฐบาลเวียดนามผ่อนคลายการเดินทางเพื่อให้นักธุรกิจที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้าเวียดนามได้
ตั้งแต่เมษายน 2564 ที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคทั่วประเทศ โรงงานหลายแห่งต้องหยุดการผลิตชั่วคราว บริษัทห้างร้านต่างๆ ต้องหยุดดำเนินการ
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเวียดนามเดือนสิงหาคม 2564 ลดลงร้อยละ 7.4 จากปีก่อน การส่งออกก็ลดลงร้อยละ 5.4 และยอดค้าปลีกลดลงมากถึงร้อยละ 33.7
นอกจากจะสะบักสะบอมจากการล็อคดาวน์จนทำให้ภาคการผลิตมีปัญหาแล้ว ภาคการท่องเที่ยวของเวียดนามก็บอบช้ำหนัก
เวียดนามเคยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 18 ล้านคนใน พ.ศ. 2562 มีรายได้จากการท่องเที่ยว 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9.3 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12 ของจีดีพี
แต่เมื่อปี พ.ศ. 2563 นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเวียดนามเพียง 3.8 ล้านคนเท่านั้น
เวียดนามพยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยวโดยจะนำร่องเปิดเกาะฝูก๊วกเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โดยจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ เข้ามาเที่ยวเกาะฝูก๊วกได้ ทั้งทางเที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินพาณิชย์
เกาะฝูก๊วกอยู่ในอ่าวไทย เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ขนาด 574 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากสักซ้า เมืองชายฝั่งของเวียดนาม 115 กิโลเมตร ห่างจากกัมปอตของกัมพูชา 15 กิโลเมตร และห่างจากแหลมฉบังของไทย 540 กิโลเมตร
1
รัฐบาลเวียดนามพยายามแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ถ้าแก้ไขไม่ได้ ภาพอนาคตที่เวียดนามเคยวาดหวังไว้ อาจเป็นแค่ปราสาททราย สลายหายวับไปกับตา.
โฆษณา