16 ก.ย. 2021 เวลา 13:00 • การตลาด
เมื่อผู้ใช้งานบัตรเครดิตที่เป็นกลุ่ม LGBTQA+ (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender, Queer, Questioning, Asexual, Ally + Other Identities) ตั้งคำถามว่าการใช้งานบัตรเครดิตปลอดภัยจริงหรือ ?
เรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับคนข้ามเพศ (Transgender) ที่มีประสบการณ์แย่ ๆ กับบัตรเครดิต เมื่อชื่อจริงไม่ได้แสดงตัวตนของพวกเขา ดังนั้นอย่าให้ชื่อบนหน้าบัตรมาตัดสินความเป็นชาย-หญิงที่ไม่ใช่อัตลักษณ์ทางเพศที่แท้จริง
คนที่ชื่อ David ไม่จำเป็นต้องเป็นชาย ในขณะเดียวกันคนที่ชื่อ Mary ก็ไม่ได้แปลว่าเขาคือหญิง เมื่อชื่อบนหน้าบัตรมีเพื่อป้องกันความปลอดภัยการถูกโจรกรรม แต่ไม่ได้ปกป้องความรู้สึกของเจ้าของบัตร สมมติว่าวันหนึ่ง David จ่ายเงินซื้อของ ณ ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง แต่แล้วก็ถูกพนักงานมองด้วยสายตาแปลกใจหลังจากได้รับบัตรเครดิตเพราะชื่อเขาคือ ‘David’ แต่ร่างที่ปรากฎตรงหน้าแคชเชียร์คือสาวสวยผมบลอนด์
วันนี้เพจรีวิวทุกอย่างที่อ่านออกจะเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับแคมเปญ #AcceptanceMatters ภายใต้แบรนด์ MasterCard ที่พึ่งรับรางวัล Brand Experience and Activation บนเวที Cannes Lions ปี 2021 ที่พึ่งจัดไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
โฆษณานี้มีความยาว 1 นาทีชื่อว่า ‘True Name’ ที่เล่าเรื่องของคนข้ามเพศ (Transgender) ที่มีประสบการณ์แย่ ๆ ในการใช้บัตรเครดิต ในเนื้อเรื่องมีหญิงที่แปลงเพศเป็นชายเข้าไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แล้ววินาทีที่ต้องจ่ายเงิน เขากังวลที่ต้องยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน เมื่อยื่นบัตรเครดิตไปก็อาจถูกดูหมิ่น, เหยียดหยาม , ทำให้ลำบากใจ ในบางกรณีก็ถูกทำร้ายร่างกาย เพราะแค่ว่าชื่อบนหน้าบัตรไม่แมตช์กับตัวตนตรงหน้า
ประเด็นของโฆษณานี้มุ่งเน้นไปที่เรื่องความปลอดภัยของบัตรเครดิตที่ออกแบบมาเพื่อการทำธุรกรรมทางการเงินที่สะดวกสบายและป้องกันการถูกโจรกรรมได้ แต่กลับไม่ทำให้ผู้ใช้บัตรรู้สึกปลอดภัยก็เพราะชื่อบนหน้าบัตรกับตัวตนทางเพศไม่สัมพันธ์กัน
ทำให้พวกเขารู้สึกถูกคุกคามด้วยสีหน้าและสายตาของบุคคลอื่นทุกครั้งเมื่อใช้บัตร สุดท้ายแล้ว MasterCard ก็พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ด้วยการเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตเจ้าแรกที่ยินดีให้ผู้ใช้บัตรเครดิตของเขาตั้งชื่อที่เหมาะกับตัวตนที่แท้จริงได้
โฆษณา True Name ถูกฉายครั้งแรกในปี 2019 ตรงกับเดือน Pride ถ่ายทำโดยเอเจนซี่ McCann New York เบื้องหลังของแคมเปญนี้มาจากรายงานว่ากว่า 32% ของคนข้ามเพศที่ใช้บัตรเครดิตถูกคุกคามด้วยคำพูดและสายตา รวมถึงถูกปฏิเสธการให้บริการจากร้านค้าซึ่ง MasterCard เชื่อเรื่องการให้ความสำคัญกับการยอมรับความแตกต่างของเพศสภาพซึ่งเคยออกมาใช้ #AcceptanceMatters มาแล้วจึงขอเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการเงิน ริเริ่มให้ลูกค้าตั้งชื่อบนหน้าบัตรได้เองและหวังว่าอยากให้แบรนด์อื่น ๆ มีส่วนร่วมในการให้สิทธิ์เหล่านี้แก่ลูกค้าของตนด้วย
ความประทับใจที่มีต่อโฆษณานี้คือการทำความเข้าใจกับปัญหา (Pain point) ที่เกิดกับผู้ใช้งานกลุ่ม LGBTQA+ แล้วหาวิธีการแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด ซึ่งเราได้หาข้อมูลมาก่อนจะเป็นแคมเปญ ‘True Name’ MasterCard เคยทำแคมเปญบัตรสีรุ้งเพื่อแสดงสัญลักษณ์สนับสนุนสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศมาก่อนจึงได้ข้อมูลเชิงลึกว่าการแสดงสัญลักษณ์แค่นี้มันยังไม่พอ
ปัญหาคือชื่อบนหน้าบัตรและยอมรับว่ายังมีกลุ่มคนที่เลือกปฏิบัติกับกลุ่ม LGBTQA+ อยู่จึงเกิดแคมเปญนี้เพื่อให้สิทธิ์กับลูกค้าที่ต้องการสร้างอัตลักษณ์ให้ตรงเพศตนเอง หลาย ๆ คนคงจะมีคำถามเรื่องความปลอดภัยว่าหากใช้ชื่อสมมติแล้วบัตรนี้จะปลอดภัยอยู่หรือไม่ ? คำตอบคือปลอดภัยแน่นอน เพราะชื่อตามกฎหมายยังคงอยู่ผูกกับเลขที่บัตรอยู่ แต่แค่ไม่แสดงในหน้าบัตรเท่านั้นเอง ในตอนนี้ True Name ถูกยอมรับให้ใช้ในเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ใช่เฉพาะบัตรเครดิตเท่านั้นแต่ยังรวมถึงบัตรเดบิตด้วย และ MasterCard กำลังพยายามเจรจาให้ธนาคารในเมืองอื่น ๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกายอมรับข้อตกลงนี้
โฆษณา