18 ก.ย. 2021 เวลา 13:00 • หนังสือ
‘มนุษย์ซึมเศร้ากับเรื่องเล่าสีขาวดำ’
โรคซึมเศร้าจะไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอีกต่อไป ถ้าเราเปิดใจศึกษาข้อมูลเเละมองมันอย่างเข้าใจจริงๆ
เเท้จริงเเล้วภาวะซึมเศร้านั้นมีอยู่ในทุกคน เเต่จะมีระดับของความรุนเเรงที่มากน้อยต่างกันไป ที่บอกเเบบนี้ เพราะว่าคงไม่มีใครที่เกิดมาเเล้วไม่เคยมีความทุกข์หรือไม่เคยร้องไห้กับอะไรสักอย่าง ก่อนหน้านี้เราเคยรู้สึกว่าโรคนี้เป็นเรื่องที่ไกลตัว เเต่ในตอนนี้โรคซึมเศร้ากลายเป็นโรคที่ใครต่อใครก็พูดถึง เเล้วเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าโรคนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเราหรือคนที่เรารักเมื่อใด
‘มนุษย์ซึมเศร้ากับเรื่องเล่าสีขาวดำ’ เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์จริงของชายคนหนึ่ง(ผู้เขียน) เเละเพื่อนของเขาที่เคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเเล้วเข้ารับการรักษาจนหายดี เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวกำลังจะเป็นโรคนี้เเล้วยังไม่รู้ว่าควรที่จะรับมือกับมันอย่างไร วันนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกเลยจะพาทุกคนมารู้จักกับหนังสือเล่มนี้กันค่ะ 🙂
เนื้อหาหลักๆในหนังสือเล่มนี้จะเเบ่งออกได้เป็นสามส่วน คือ สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้า, อาการของผู้ที่เป็นซึมเศร้า เเละเเนวทางในการรักษา
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้ามีได้หลายอย่าง โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะนี้คือการเจอกับเรื่องที่กระทบต่อจิตใจอย่างรุนเเรง เช่น ปัญหาความรัก, ปัญหาครอบครัว เเละปัญหาด้านการเงิน อีกสาเหตุคือวิธีการมองโลกของตัวเราเอง จนทำให้ในบางคนที่ชอบความสมบูรณ์เเบบมากๆมักจะรับไม่ได้เมื่อเกิดปัญหาขึ้นเเละโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง
1
สำหรับอาการของผู้ที่เป็นซึมเศร้าผู้เขียนได้ให้นิยามของคำว่า ‘ซึมเศร้า’ ไว้ว่า ‘การไม่มีความสุขทั้งๆที่ควรจะมีความสุข’ ซึ่งเเต่ละคนจะมีอาการที่มากน้อยเเตกต่างกันไป บางคนอาจจะกินอาหารหรือทำงานอดิเรกที่ชอบเเล้วไม่มีความสุขเหมือนเเต่ก่อน บางคนอาจจะร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเหตุผล หรือในบางคนก็จะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า
เเต่ก็จะมีคำถามตามมาว่า ‘หากเราเริ่มรู้ตัวว่าเรามีอาการ เราจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไหร่ถึงควรไปพบจิตเเพทย์?’ ผู้เขียนได้ให้คำเเนะนำไว้ว่า เมื่อเราเริ่มรู้สึกว่าอารมณ์ของเรานั้นผิดปกติจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเเล้วเราก็ควรไปพบ อีกทั้งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเราเข้าข่ายเป็นโรคนี้ไหม ทางที่ดีหากเริ่มสงสัยว่าตัวเองจะเป็นก็ควรที่จะไปพบเลย
ส่วนการรักษาก็จะมีได้หลายรูปเเบบทั้งการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ การหาทางเเก้ไขปัญหาที่กระตุ้นให้เกิดอาการซึมเศร้า โดยจะเเนะนำให้ทำควบคู่ไปกับการดูเเลตัวเองเเละการทำสิ่งที่เราชอบ เช่น การออกกำลังกาย เเละการหางานอดิเรกที่ช่วยผ่อนคลายทำ
เเต่สุดท้ายเเล้วทางออกที่จะช่วยเเก้ได้ดีที่สุดคือการหาทางเเก้ไขปัญหาที่กระตุ้นให้เกิดอาการซึมเศร้า ซึ่งหากเราไปพบเเพทย์เราจะได้พบกับนักจิตบำบัดที่จะมาพูดคุยกับเราเพื่อช่วยกันหาทางออก เช่น หากเราเจอปัญหาที่หนักมากๆ เค้าจะเเนะนำให้เราลองนึกว่าผลกระทบที่เเย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้คืออะไร ให้ความสำคัญกับเรื่องที่เราสามารถเเก้ไขได้ก่อน เเละไม่วิตกกับเรื่องที่เเก้ไม่ได้มากจนเกินไป
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีเเค่วิธีการดูเเลตัวเองเมื่อเป็นโรคซึมเศร้า เเต่ยังมีการให้คำเเนะนำว่าหากเรามีคนใกล้ตัวเป็นโรคซึมเศร้าเราควรที่จะดูเเลเขาอย่างไร ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดควรที่จะศึกษาข้อมูลของโรคอย่างละเอียดเเละช่วยรับฟังปัญหาอย่างตั้งใจพร้อมทั้งเเสดงออกว่าพร้อมที่จะอยู่เคียงข้าง
อีกทั้งยังมีคำพูดบางอย่างที่ไม่เเนะให้พูดกับคนที่เป็นซึมเศร้า เช่น ‘บอกให้เขามองโลกในเเง่ดี ให้มองคนอื่นว่าทุกข์กว่าเราตั้งเยอะ’ ที่ไม่เเนะนำให้พูดเพราะจริงๆเเล้วความทุกข์ของทุกคนก็ล้วนสำคัญหมด เราวัดไม่ได้ว่าใครจะทุกข์มากหรือน้อยกว่าใครเราควรที่จะรับฟังปัญหาเเละช่วยหาทางออกให้เขามากกว่า เเละไม่ควรบอกว่าสิ่งที่เขากำลังเป็นอยู่เป็นเเค่การคิดมากไปเอง เพราะสุดท้ายเเล้วสิ่งที่คนที่เป็นซึมเศร้าต้องการที่สุดคือคนที่เข้าใจเเละไม่มองว่าพวกเขานั้นเป็นคนที่เเปลกเเยก
1
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เราอ่านเเล้วรู้สึกเข้าใจเเละเห็นภาพตามกับสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อได้ชัดเจนมากๆ ถึงเเม้จะไม่มีการใช้ภาพเลยก็ตาม น่าจะเป็นเพราะรูปแบบการเล่าที่เหมือนในหนังสือนวนิยายที่มีการใช้บทพูดมาช่วยเล่าค่อนข้างเยอะเเละยังมีการนำสิ่งต่างๆมาใช้เปรียบกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้เขียนในตอนนั้น ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ อย่างในช่วงต้นที่ผู้เขียนอธิบายความเศร้าของเขาก่อนที่เขาจะตัดสินใจไปพบเเพทย์ เราอ่านเเล้วรู้สึกเศร้าตามไปกับเขามากๆเลยค่ะ
หลังจากอ่านจบเราอยากเเนะนำให้คนที่เป็นซึมเศร้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้ค่ะ เพราะผู้เขียนเป็นคนที่เคยเป็นโรคนี้เหมือนกันทำให้เขาสามารถเเนะนำข้อมูลของโรคนี้ได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งหนังสือเล่มนี้ยังสามารถเติมกำลังใจให้กับคนที่เป็นโรคนี้ได้เป็นอย่างดี โดยผู้เขียนมักจะบอกเสมอว่าอย่ายอมเเพ้หรือสิ้นหวังในการเข้ารับการรักษา เพราะเขาทราบดีว่าในช่วงเเรกของการรักษามักจะเห็นผลได้ช้า ทำให้บางคนรู้สึกท้อเเละไม่อยากเข้ารับการรักษาต่อ
1
ในสถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้ มีหลายคนที่ท้อแท้ หมดหวัง ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อ เราอยากจะขอยืมประโยคนึงในหนังสือเล่มนี้มาบอกกับทุกคนค่ะว่า ‘It’s just a bad day not a bad life.’ หากใครที่กำลังรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เเย่มากๆ เราไม่อยากให้หมดกำลังใจในการใช้ชีวิตนะคะ เพราะสุดท้ายเเล้ววันเเย่ๆมันก็จะต้องผ่านไปเเน่นอนค่ะ 🙂
1
……………………………………………………..
ชื่อหนังสือ: มนุษย์ซึมเศร้ากับเรื่องเล่าสีขาวดำ
นักเขียน: นายพินต้า
จำนวนหน้า: 224
ราคา: 250 บาท
สำนักพิมพ์: 13357
Overall: 8/10
……………………………………………………..
Score Explanation
Writing Style: 9/10 เป็นหนังสือที่เราอ่านเเล้วรู้สึกเข้าใจเเละเห็นภาพตามได้อย่างชัดเจน
Time worthiness: 7/10 เพราะโดยภาพรวมนำเสนอได้กำลังดีเหมาะกับเรื่องที่ต้องการจะสื่อ
Content Usefulness: 8/10 เป็นหนังสือที่เราคิดว่าสามารถตอบข้อสงสัยเรื่องของโรคซึมเศร้าได้อย่างครบถ้วนตั้งเเต่เริ่มมีอาการจนหายดี
โฆษณา