16 ก.ย. 2021 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กลุ่ม CP พลิกโฉมรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ‘Asia Era One’
2
บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน ของกลุ่ม CP ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘บริษัท เอเชีย เอรา วัน’ (Asia Era One) เพื่อเตรียมความพร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ภายใต้แนวคิด ‘Reimagining Horizons’ เปิดขอบฟ้าใหม่แห่งโอกาส
3
สฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอเชีย เอรา วัน เปิดเผยว่า การเปลี่ยนชื่อองค์กรในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำความพร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนายกระดับการคมนาคมในประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางการเดินทางในภูมิภาคเอเชียและของโลกด้วยมาตรฐานการเดินรถและให้บริการในระดับสากล
2
“ชื่อบริษัท เอเชีย เอรา วัน มาจากคอนเซปต์ในภาษาอังกฤษ Asia Era One ซึ่งมีความหมายสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ที่เชื่อมผู้คน สังคม และประเทศเป็นหนึ่งเดียว เพื่อประเทศไทยสู่ยุคใหม่แห่งอนาคตของความเจริญรุ่งเรือง ในขณะเดียวกัน ชื่อในภาษาไทย เอเชีย เอรา วัน ยังสื่อความหมายพ้องเสียงกับช้างเอราวัณ พาหนะเทพบุตรของพระอินทร์ ที่มีพละกำลัง และเป็นสัญลักษณ์ของการกระทำดี และสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย” สฤษดิ์กล่าว
6
สฤษดิ์ยังกล่าวถึงวิสัยทัศน์และพันธกิจ ของบริษัทเอเชีย เอรา วัน อีกว่ามีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการเดินทางแห่งเอเชีย ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ยุคใหม่แห่งโอกาสและความเจริญรุ่งเรือง ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการเดินทางรถไฟความเร็วสูงระดับโลก ที่มุ่งมั่นเชื่อมประเทศไทยกับเอเชียให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่เพื่อความภูมิใจของคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ บริษัท เอเชีย เอรา วัน ถือเป็นบริษัทเอกชนผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือ สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) รายแรก ที่ได้รับคัดเลือกจากรัฐบาลไทยให้พัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงในรูปแบบสัญญาการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership: PPP) โดยมีระยะเวลาสัญญา 50 ปี มีมูลค่ากว่า 224,544 ล้านบาท
1
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงการเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักในการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น โดยมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจประมาณ 650,000 ล้านบาท รวมถึงการจ้างงานตลอดช่วงระยะเวลาการก่อสร้างสูงถึง 16,000 อัตรา และการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากกว่า 100,000 อัตรา ใน 5 ปี
2
เรื่อง: ​ดำรงเกียรติ มาลา
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
* Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP
โฆษณา