[สรุป] Range Part 1/2 : ทำไมคนแบบเป็ดๆ 🐤 ถึงประสบความสำเร็จในโลกที่ต้องการความรู้เฉพาะทาง
หายหน้าหายตาไปสักพักครับ วันนี้ขอกลับมาพร้อมกับหนังสือที่เหมาะกับคนเป็ดๆอย่าง RANGE : Why Generalist Triumph in Specialized World ครับ โดยรอบนี้ขอแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทนะครับ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการเล่นกีฬาหลายประเภทคือ ร่างกายของ Roger นั้นถูกพัฒนาอย่างรอบด้าน , ทักษะและปฏิกิริยาที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทุกสิ่งที่สะสมมาจากกีฬาอื่นกลายเป็นส่วนช่วยให้เค้าเล่นเทนนิสได้เก่งขึ้นนั่นเองครับ
จึงกลายเป็นเรื่องราวของขั้วตรงข้ามที่ไปย้อนแย้งกับ Early Specialization เพราะการฝึกฝนแบบหลากหลายก็สามารถประสบความสำเร็จจนกลายเป็น 🐐 GOAT - Greatest of All Time ได้ไม่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นการเป็นเป็ดมาก่อนก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ประสบความสำเร็จครับ
🧐 Fermi Problem : ปัญหายียวน ที่สะท้อนชีวิตจริงได้มากกว่าข้อสอบมหาลัย 🧐
ถ้าใครเคยสัมภาษณ์งานกับบริษัทชั้นนำจะต้องเคยเจอกับ Fermi Problem มาอย่างแน่นอนครับ โดย Fermi Problem คือคำถามที่วัดความรู้รอบตัวและการคิดวิเคราะห์ที่ดี ซึ่งจะคล้ายกับปัญหาที่คนเรามักจะต้องเจอในชีวิตจริงได้ครับ
ยกตัวอย่างเช่น คุณคิดว่าใน New York มี Piano Tuner (นักตั้งเสียงเปียโน) อยู่กี่คน ?
ดังนั้นการรู้รอบด้านก็จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ เหมือนกับกรณีของ Nicolas Copernicus ที่สามารถค้นพบว่าโลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ในยุคสมัยที่ทุกคนเชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
ที่ Nicolas สามารถค้นพบเรื่องนี้ได้ก็เพราะความขี้สงสัยและพยายามขวนขวายหาความรู้นอกเหนือจากความเชื่อเดิมๆ เพื่อมาสนับสนุนทฤษฎีและตอบข้อสงสัยของตัวเองได้ด้วยเช่นกันครับ
หรืออย่าง Leonardo Da Vinci ที่ทุกคนมักรู้จักเค้าจากผลงานศิลปะ แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วเค้าคือคนที่รู้รอบด้านสุดๆคนนึงในประวัติศาสตร์โลกเลย ทั้งด้านวิศวกรรม ที่ถูกยกย่องให้นักประดิษฐ์เบอร์ต้นๆของยุคนั้นเช่นกัน
*** ที่กล่าวถึงก็เพราะ ตาลุงหนวดเฟิ้มข้างหนังสือในรูปคือ Figure ที่ทำมาเป็นตัวของ Leonardo Da Vinci ครับ 🤣🤣
มีศิลปินอีกคนนึงนอกเหนือจาก Da Vinci ที่เป็นตัวอย่างของเป็ด (Generalist) ที่ทำได้หลายอย่าง เพราะเปลี่ยนสายอาชีพบ่อย บ่อยจนดูเหมือนจะไม่ก้าวหน้า แต่สุดท้ายแล้วเค้ากลับกลายเป็น Artist ที่แทบไม่มีใครบนโลกนี้ไม่รู้จัก ผลงานของเค้ามีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ศิลปินคนนี้คือ Vincent Van Gogh นั่นเองครับ
ถ้าใครคิดว่า Van Gogh คือศิลปินที่มีพรสวรรค์มาแต่กำเนิด แล้วก็วาดรูปมาตลอดชีวิต คุณคิดผิดไปมากเลยครับ เพราะจริงๆแล้ว Van Gogh เรียนวาดรูปตั้งแต่สมัยเด็กจริง แต่วาดไม่ได้เรื่อง และไม่ชอบจนลาออกจาก รร.
โดยเฉพาะเด็กๆในวัยเรียนที่ยังมี Sampling Period (ระยะเวลาทดลอง) ที่เยอะ ควรจะลองอะไรให้หลากหลายเก็บประสบการณ์ให้ได้มากๆ แล้วความรู้ที่กว้างขวางเหล่านั้นมันจะมีประโยชน์ในอนาคตแน่นอนครับ
เหมือนกับที่ Steve Jobs เคยบอกว่า Font ของ Mac นั้นเค้าได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ได้บังเอิญไปลงเรียนวิชา Caligraphy ในมหาวิทยาลัย โดยที่ตอนนั้นเค้าเองก็ไม่ได้คิดหรอกว่ามันจะมีประโยชน์กับตัวเค้าในอนาคต
ยังไม่ Wow เท่าเล่มขึ้นหิ้งหลายๆเล่ม แต่คนเขียนเก็บข้อมูลมาดีมาก และมี Case Study เปรียบเทียบที่โคตรดี แบบอ่านแล้วร้องอ๋อ เปรียบเทียบได้เห็นภาพมากๆครับ
อ่านง่าย ศัพท์ไม่ยาก และได้ความรู้รอบตัวเยอะด้วยเนื่องจาก David แกยกตัวอย่างรอบด้านมากๆตั้งแต่นักกีฬา นักวิทยาศาสตร์ นักธุรกิจ ไปจนถึง สถานีอวกาศ NASA เลยครับ สนุกแน่นอนถ้าใครชอบแนะนำให้จัดเลยครับ