ปัญหาของจีนกับเวียดนาม
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
โลกเหลือชาติรัฐคอมมิวนิสต์เพียงไม่กี่แห่ง ติดกับพรมแดนไทยก็คือลาว จากนั้นก็ไปเวียดนามและจีน เป็น 3 ชาติ 3 แผ่นดินที่รวมกันแล้วมีพื้นที่มากถึง 10 ล้านตารางกิโลเมตร
https://en.vietnamplus.vn/vietnamchina-party-relations-highlighted/203631.vnp
ความที่มีลัทธิการปกครองแบบเดียวกันและมีแผ่นดินยังประชิดติดกันก็น่าจะมีความสัมพันธ์อันดี แต่ปัญหาหมู่เกาะพาราเซลและหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ ทำให้จีนกับเวียดนามมีปัญหากัน
เวียดนามพยายามวิ่งหาสหรัฐและประเทศที่ขัดแย้งกับจีนอย่างอินเดียมาถ่วงดุลอำนาจของจีน
เขียนเรื่องจีนกับเวียดนามต้องเตรียมใจอาจโดนเตือนด้านภาษา หลายประเทศแปลคอลัมน์ของหนังสือพิมพ์ฉบับหลักเพื่อทราบทัศนคติของผู้เขียน ประสบการณ์ 24 ปีของคอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลก ( 3 ก.พ.2540 - 21 ก.ย.2564) เราโดนประท้วงจากสถานทูตหลายครั้ง
เราเคยใช้คำว่า South China Sea ที่แปลว่าทะเลจีนใต้ ก็โดนเพื่อนที่เป็นข้าราชการของเวียดนามโทรมาขอให้ช่วยเขียนว่าทะเลตะวันออกได้ไหม เพราะทะเลนี้อยู่ทางตะวันออกของเวียดนาม คนเวียดนามเรียกนามฮ๋าย (จีนเรียกว่าทะเลใต้ เพราะอยู่ทางใต้ของแผ่นดินจีน)
แม้เป็นชาติรัฐคอมมิวนิสต์เหมือนกัน แต่จีนและเวียดนามเคยทำสงครามชายแดน พ.ศ.2522 (จีนเรียกสงครามครั้งนี้ว่า ‘การสั่งสอนบทเรียนแก่เวียดนาม‘ เวียดนามเรียกว่า ‘สงครามปกป้องชายแดนและอาณาเขต’)
ผู้คนของทั้งสองประเทศเกลียดกันมาก แม้แต่นิสิตจีนและเวียดนามในกรุงมอสโกก็เคยปัญหากันอย่างรุนแรงในทุกประเด็น
คอมมิวนิสต์คู่นี้ปรับความสัมพันธ์กันเมื่อ พ.ศ.2534 ผู้นำเวียดนามไปเยือนจีนปีเว้นปี ตั้งแต่เหงวียนวันลิงห์ เลดึ๊กแองห์ โด๋เหมื่อย หวอวันเกียต นงดึ๊กแหม่ง ผู้นำจีนก็เดินทางมาเยือนเวียดนาม
ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 จีนกับเวียดนามประกาศหลักการการอยู่ร่วมกันในศตวรรษที่ 21 (ศตวรรษที่ 21 เริ่มเมื่อ 1 มกราคม 2544) เป็นหลักการ 16 ตัวอักษรและจิตวิญญาณ 4 ดี
หลักการ 16 ตัวอักษรที่ว่านี้ก็คือ “มิตรภาพเพื่อนบ้าน ร่วมมือทุกมิติ มั่นคงยาวนาน มุ่งสู่อนาคต”
ส่วนจิตวิญญาณ 4 ดี ก็คือ “เพื่อนบ้านดี เพื่อนดี สหายดี และการปฏิบัติดี”
ก่อนสงครามชายแดน พ.ศ.2522 ความสัมพันธ์ของคอมมิวนิสต์ 2 ประเทศนี้เป็นแบบ ‘สหายและพี่น้อง’ เริ่มตั้งแต่วันแรกของศตวรรษที่ 21 ทั้งสองมีการเปลี่ยนความสัมพันธ์ให้มาเป็นแบบ ‘เพื่อนบ้านที่เป็นมิตร‘
ความสัมพันธ์ทุกมิติระหว่างจีนกับเวียดนามในปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2534 เพราะทั้งคู่ตระหนักว่าเศรษฐกิจจะดีได้ ความสัมพันธ์ของประเทศที่มีพรมแดนประชิดติดกันต้องดีและมีความช่วยเหลือกัน
ตั้งแต่ พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา จีนกับเวียดนามมีข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เป็นข้อตกลงแต่เพียงในนาม แต่เกิดผลได้จริงทุกตัวอักษร
ข้อตกลงทุกคนจำกันได้ก็มีข้อตกลงทางการค้า ข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคนิค ข้อตกลงการชำระเงิน และความร่วมมือระหว่างธนาคารของทั้งสองประเทศ
ข้อตกลงในการขนส่งสินค้า ข้อตกลงในการหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้ำซ้อน และการป้องกันการฉ้อโกงภาษี ข้อตกลงการค้าชายแดน ฯลฯ
จีนเอาใจด้วยการสั่งสินค้าเวียดนามเข้าไปให้ประชาชนบริโภค จนจีนและเวียดนามเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญอันดับต้น
พ.ศ. 2534 ปีที่เริ่มเปิดความสัมพันธ์กันนั้น การค้าของประเทศคอมมิวนิสต์ทั้งสองมีเพียง 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หลังจากนั้นก็เพิ่มมาเป็นร้อยเป็นพันเท่า จนจีนกลายเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามตั้งแต่ พ.ศ. 2547 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ข้อขัดแย้งที่อาจทำให้จีนและเวียดนามตัดความสัมพันธ์กันเหมือนระหว่าง พ.ศ.2522-2534 คือข้อพิพาทหมู่เกาะ 2 แห่งในทะเลจีนใต้
โลกสากลเรียกว่าหมู่เกาะพาราเซล (จีนเรียกหมู่เกาะชิซา เวียดนามเรียกหมู่เกาะหว่างซา) และหมู่เกาะสแปรตลีย์ (จีนเรียกหมู่เกาะหนานซา เวียดนามเรียกหมู่เกาะเจื่องซา)
ถ้าไม่มีปัญหาทะเลจีนใต้ ไทย พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน จะเป็นภูมิภาคที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ
แม้ไม่ต้องพึ่งตลาดนอกภูมิภาค
พวกเราก็อยู่กันได้สบาย.
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
