23 ก.ย. 2021 เวลา 02:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
“ต้องรอด” คำนี้เป็นคำที่ผมและกลุ่มเพื่อน ท่องด้วยกันเสมอมา ในตอนเริ่มต้นเข้าตลาด เรารู้ว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน ส่วนตัวผมเตรียมแผนรองรับสถานการณ์
ต้องรอด
หากไม่รอด ก็กลับไปหางานทำ ณ ตอนนั้น วุฒิ + exp (ประสบการณ์ทำงาน) มีพอเพียง ไม่ไหวจริง ก็กลับไปตั้งหลักใหม่ อันนี้คือแผนสำรอง ณ ตอนนั้น
ถอยได้ แต่ห้ามล้ม
“ค่าใช้จ่าย” อะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกหมด ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต
ค่าใช้จ่ายกับหนี้ค่างวดต่างๆ ต้องทำให้เหลือน้อยที่สุด รายจ่ายต่อเดือน ให้เป็นรายจ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าดูแลบุพการี ส่วนนี้กันไว้เท่าไร เราลำบากได้ แต่ท่านต้องสบายครับ
ส่วนบัตรเครดิต ผมงดใช้ครับช่วงนั้น รายจ่ายบรรทัดรวมสุดท้าย SUM ต้องชัดเจน
ภาระทางการเงินน้อยสุด จะนำมาซึ่งการเทรดที่ดีขึ้น
เผื่อเงินไว้ใช้สัก 1 ปีอย่างน้อย แบบไม่ต้องกดถอนจากพอร์ตเลย
“ส่วนรายรับ” บนการเทรดมันก็มีความเสี่ยง ไม่มีตัวเลขแน่ชัดว่าเราจะได้เดือนเท่าไร แต่ที่แน่ๆ จะแปรผันตรงกับความสามารถและประสบการณ์ของเราครับ
เป้าหมายต่อเดือน ควรมากกว่า รายจ่ายต่อเดือน อย่างน้อย 3 เท่าครับ
เพราะตลาดหุ้น ความผันผวนสูง ถ้าไม่ถึง หารายได้เสริมทางอื่นเพิ่มครับ เก็บหอมรอมริบ เล็กๆ น้อยๆ ก็เอาครับ
หาความรู้
“แหล่งความรู้” ส่วนตัวผม จากที่ผ่านมา แหล่งความรู้ผ่านหนังสือซึ่งราคาจับต้องได้ หรือแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ผ่าน Facebook Page ดีมากครับ พร้อมแล้วอยากขยับเพิ่มงบลงทุนในส่วนของการศึกษา แบบเสียตังค์เพิ่มขึ้น ลงคอร์ส สามารถทำได้ครับ
สร้างวินัยให้พร้อม
การแบ่งเวลาทำการบ้าน ก่อนหลังตลาดปิด ควรสัก 1 ถึง 2 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ วันหยุด ทำ 1 วัน พัก 1 วัน
การตัดขาดทุน
แบ่งเป็นรายตัวกับแบบรวมพอร์ตครับ รายตัวก็ไม่ควรลึกเกิน 20% แล้วแต่กลยุทธ์ ส่วน Total Port ก็ไม่ควรเกิน 20% เช่นกัน
ตั้งหลักได้ รอดได้ เพื่อรอคอยวันที่โอกาสมาถึงครับ
โดย | มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ Full Time Trader
เจ้าของเพจ : Snipertrade
โฆษณา