22 ก.ย. 2021 เวลา 22:27 • ข่าว
งบประมาณทางทหารของอเมริกา เทียบกับประเทศอื่นๆ:
รัฐบาลอเมริกาอนุมัติงบประมาณทางทหารไว้สูงกว่าประเทศอื่นๆ อีกมาก แต่การผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์กลับสู้รัสเซียไม่ได้ มีแต่สื่อจำพวกโปรอเมริกาเท่านั้นที่พยายามบอกว่าอเมริกามีอาวุธยุทโธปกรณ์อันดับ ๑​ ของโลก
1
๑.อเมริกาทุ่มงบไป ๗๗๘ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
๒.จีน ๒๕๒​ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
๓.อินเดีย ๗๒.๙ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
๔.รัสเซีย ๖๑.๗ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
๕.อังกฤษ ๕๙.๒ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
๖.ซาอุฯ ๕๗.๒ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
อเมริกาทุ่มเงินไปกับอาวุธเยอะ และก็มีคอร์รัปชั่นเยอะกว่าประเทศอื่นๆ เพราะมีสส.อเมริกันหลายคน ทำงานให้กลุ่มนายทุนที่มีหุ้นอยู่ในบรรษัทอุตสาหกรรมผลิตอาวุธ (Military Industrial Complex=MIC)
วันๆ นักการเมืองพวกนี้คิดแต่จะทำสงครามนอกประเทศ เพื่อระบายอาวุธที่มีอยู่ซึ่งมีมากมายให้ออกจากคลังแสง จากนั้น ก็มอบงบประมาณให้กลุ่ม MIC ไปผลิตอาวุธใหม่ๆ มาตุนไว้ในคลัง เสร็จแล้ว ปีหน้าก็หาทางทำสงครามระบายอาวุธออกจากคลังต่อ
บรรษัทผลิตอาวุธจึงได้งบประมาณจากรัฐมหาศาลต่อปี นักการเมืองก็ได้ค่าคอมมิชชั่นเป็นประจำเป็นการตอบแทน อเมริกามีเงินทุ่มไปอย่างสุรุ่ยสุร่ายกับทางทหารเยอะ แต่ไม่มีเงินสำหรับคนจนไร้บ้านซึ่งว่ากันว่ามีถึง ๑ ล้าน ๕ แสนไปแล้ว
2
เห็นหรือยังครับว่านายทุนผลิตอาวุธในอเมริกามีบทบาทในนโยบายต่างประเทศมากน้อยแค่ไหน?
1
นายทุนมีหลายกลุ่ม กลุ่ม Big pharmas นี่ก็หากินในการผลิตยาด้วยวิธีสร้างโรคระบาดขึ้นมา
นายทุน Big Tech ก็สร้างไวรัสขึ้นมาป่วนคอมพิวเตอร์แล้ว ก็สร้างโปรแกรมฆ่าไวรัสมาขาย
นายทุนผลิตอาวุธก็กระตุ้นให้รัฐบาลทำสงครามเพื่อระบายอาวุธออกจากคลัง ตนจะได้งบผลิตอาวุธ สงครามจึงมีทุกๆ ปี
1
ผมบอกท่านหลายหนแล้วและจะบอกต่อไปอีกว่าอย่าหลงเชื่อประชาธิปไตยจอมปลอมของอเมริกา *ทุนนิยมประชาธิปไตย* แบบอเมริกาคือ *ระบอบการปกครองของนายทุน เพื่อนายทุนและโดยนายทุน* โดยแท้
1
แล้วนายทุนก็เจียดเศษเงินไปก่อตั้งมูลนิธิให้ทุนนักวิชาการเรียนหนังสือและจ้างนักวิชาการโปรอเมริกันหลายๆ แห่งทั่วโลกให้แต่งตำราล้างสมองผู้คนว่า *ประชาธิปไตยแบบทุนนิยมของอเมริกา* เป็น *ประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน*
1
อุดมการณ์แบบนี้เป็นแค่ *ทฤษฎี* ที่มีอยู่แต่ในตำราเท่านั้นแหละครับ ความจริงที่มีอยู่ในสังคมอเมริกันได้ล้มทฤษฎีที่ว่านี้ไปนานแล้ว
แต่นักวิชาการชาวไทยไม่รู้เพราะพัฒนาภูมิปัญญาไม่ทัน พูดง่ายๆ ก็คือตามไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของนายทุนมะกันต่างหากครับ
1
โฆษณา