24 ก.ย. 2021 เวลา 03:51 • การเมือง
ไหนว่าไม่ต้องการแบ่งแยกโลก
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
การเกิดขึ้นของออคัส (AUKUS)  พันธมิตรทางการทหารของ 3 ประเทศ สหรัฐ อังกฤษและออสเตรเลีย ทำให้โลกกำลังเข้าสู่สงครามเย็นยุคใหม่
https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3149574/xi-and-biden-take-un-stage-calls-unity-climate-and-covid-19
สงครามเย็นยุคใหม่นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเคยออกมาเตือนเมื่อ 2 ปีที่แล้วว่าโลกกำลังจะแบ่งเป็นสองขั้วอีกครั้ง คือขั้วสหรัฐและขั้วจีน
ทั้งสหรัฐและจีนต่างมีระบบการเมือง การค้า และเทคโนโลยีของตัวเอง ทั้งสองประเทศต่างใช้ยุทธศาสตร์ด้านการเมืองและการทหารในแบบที่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้
2
ถ้าสหรัฐชนะ จีนจะต้องแพ้ หรือถ้าสหรัฐแพ้ จีนจะชนะ สิ่งที่ทั้งสองประเทศกำลังซัดกันอยู่นี่ไม่สามารถจบลงแบบชนะด้วยกันทั้งสองฝ่ายหรือ win-win ได้เลย
1
ทั้งแนวคิดและการกระทำของสหรัฐและจีนที่ในสงครามเย็นยุคใหม่นี่ อันตรายต่อโลกมาก
จันทร์ 20 กันยายน 2564 นายกูเตร์เรส โผล่หน้าจอออกมาอีกรอบ คราวนี้แกพูดชัดเจนว่า ประชาคมโลกต้องช่วยกันหยุดสงครามเย็นครั้งใหม่
1
เมื่อเทียบกับสงครามเย็นครั้งแรก ซึ่งเป็นสงครามเย็นระหว่างสหรัฐกับสหภาพโซเวียตนั้น ครั้งนี้ถือเป็นการต่อสู้ที่อันตรายกว่าและการบริหารจัดการยากกว่า ตอนที่สหรัฐกับสหภาพโซเวียตซัดกันนั้น ทั้งสองประเทศมีกติกาที่ชัดเจน
1
นายกูเตร์เรสเรียกร้องให้สหรัฐและจีนฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาร่วมมือกันสร้างสรรค์ ก่อนที่ปัญหาระหว่างสองชาติมหาอำนาจจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและกระจัดพลัดพรายออกไปยังพื้นที่อื่นของโลก
เข้าใจถึงความหวังดีของเลขาธิการยูเอ็นครับ แต่ก็รู้สึกเหมือนแกกำลังวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ เพราะผู้อ่านท่านคงทราบว่า ความร้าวฉานระหว่างสหรัฐกับจีนนี่ ไม่มีทางที่จะกลับมาดีเหมือนเดิมได้ นับวันจะยิ่งแตกเละเทะตุ๊มเปะมากยิ่งขึ้น
สองประเทศแตกร้าวกันเองยังไม่พอ ยังลากสมัครพรรคพวกของตัวเองมาร่วมวงทะเลาะด้วย
1
21 กันยายน 2564 นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งที่ 76 ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ
1
ไบเดนพูดมากมายหลายหลายประเด็น ตอนหนึ่งไบเดนบอกว่า “สหรัฐไม่ต้องการทำสงครามเย็นกับใคร และไม่เคยต้องการแบ่งแยกโลกออกเป็นกลุ่ม”
แม้ไม่ได้เอ่ยถึงจีนเลยแม้แต่คำเดียว ฟังคำแถลงความยาว 34 นาทีของนายไบเดนแล้วเคลิ้มครับ แต่คำพูดกับการกระทำของสหรัฐมันไปกันคนละทาง
ออคัสเกิดขึ้นได้แค่อาทิตย์เดียวก็เริ่มเห็นความแตกแยกที่เลขาธิการยูเอ็นออกมาเตือนแล้ว ไม่ต้องไปดูที่ไหนไกลดอกครับ เอาแค่อาเซียนของเราที่ตอนนี้มี 3 ประเทศออกมาแสดงจุดยืน
18 กันยายน 2564 รัฐบาลอินโดนีเซียออกมาแสดงความกังวลต่อการแข่งขันด้านอาวุธและการแสดงพลังอำนาจของ 3 ชาติมหาอำนาจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นประเทศแรก
2
และเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียยึดมั่นในพันธสัญญาการร่วมรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศด้วย
19 กันยายน 2564 มาเลเซียก็ออกมาแถลงถึงความกังวลต่อออคัสกับนโยบายความมั่นคงของอาเซียน
1
มาเลเซียพูดชัดเจนว่าขอให้อาเซียนทั้ง 10 ประเทศเป็นกลางร่วมกัน โดยรักษาหลักการของปฏิญญากำหนดให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเขตแห่งสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของเสาหลักด้านการเมืองและความมั่นคง
มาเลเซียย้ำถึงการปฏิบัติตามสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือสนธิสัญญากรุงเทพฯ ฉบับปี 2538 ที่มีข้อกำหนดห้ามภาคีพัฒนา ผลิต ครอบครอง ได้มาหรือมีอิทธิพลเหนืออาวุธนิวเคลียร์
1
21 กันยายน 2564 กระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์สนับสนุนความร่วมมือไตรภาคออคัส บอกว่าออคัสไม่ใช่การบ่อนทำลาย แต่เป็นการขับเคลื่อนที่ช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
2
ฟิลิปปินส์ลูกน้องเก่าของสหรัฐบอกว่า ตราบใดที่ออคัสยังไม่นำอาวุธนิวเคลียร์เข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการละเมิดสนธิสัญญาปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สงครามเย็นยุคใหม่ไม่ได้สร้างความแตกแยกระดับรัฐเท่านั้นนะครับ เข้าไปดูในโซเชียลมีเดีย ประชาชนกองเชียก็เล่นกันแรง
โฆษณา