24 ก.ย. 2021 เวลา 11:54 • การศึกษา
หากใครที่เคยได้อ่านมังงะ หรือ ดูอนิเมะ attack on titan (ผ่าพิภพไททัน) หรือ進撃の巨人(Shingeki no Kyojin) คงจะต้องเคยได้ยิน ชื่อของ Ymir(ยูมี หากอ่านตามในมังงะ) อยู่บ้าง ซึ่งยูมีที่จะพูดในที่นี้ จะหมายถึง Ymir Fritz ซึ่งเป็นผู้ที่ครอบครองพลังไททัน คนแรกในโลกของ attack on titan ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ ๒๐๐๐ปีก่อน ซึ่งเรื่องตำนานเรื่องเล่าเรืองเดียวกันนี้ก็จะแตกต่างกันออกไป ฝ่าย เอลเดีย(Eldia) ผู้ได้รับประโยชน์จากการใช้พลังไททันของ Ymir ก็จะบอกว่าพลังไททันคือพลังที่พระเจ้าได้ประทานมาให้ แก่ Ymir แต่ทางฝั่งมาร์เลย์(Marley) ซึ่งเป็นศัตรูคู่ขัดแข้งกับเอลเดีย จะเล่าสู่ลูกหลานฟังว่า Ymir ได้ทำพันธะสัญญากับปีศาจจึงได้รับพลังไททันมา แต่ไม่ว่าพลังไททันจะมาจากเทพหรือปีศาจ พลังไททันก็ได้ถูกใช้ในสงครามระหว่าง สองจักรวรรดิ์ในเรื่องในที่สุด และทำให้จักรวรรดิ์ เอลเดีย ยึด มาร์เลย์ เป็นเมืองขึ้นได้
ฝ่ายมาร์เล่ย์ เล่าว่าที่ยูมร์ได้รับพลังไททันมา เพราะทำพันธสัญญากับปีศาจ
แต่แล้วก็มีเหตุที่ทำให้ Ymir Fritz ต้องตายลงกษัตริย์ Fritz จึงสั่งให้พระโอรส และพระธิดา มาเรีย โรเซ่ และซีน่า กินซากศพแม่ตัวเอง เพื่อสืบทอดพลังไททัน จนสุดท้ายพลังไททันได้แบ่งออกเป็น ๙ ตน และพลังของยูมีร์ดั่งเดิม ได้กลายเป็นพลังไททันบรรพบุรุษในที่สุด จากนั้นเป็นต้นมาก็ได้มีการสืบทอดพลังไททันกันจากรุ่นสู่รุ่นผ่านการกินศพของผู้ที่เป็นเจ้าของพลังไททันยุคก่อนและต่างฝ่ายต่างก็ใช้พลังไททันที่ตนครอบครองเพื่อการทำสงคราม ขยายอาณาเขตของตนเองและกดขี่เชลยและอาณาจักรที่ตนไปยึดครองไว้เป็นทาส
ฝ่ายเอลเดียใช้พลังไททันในการสร้างอาณาจักรและนับถือพลังนี้เป็นพลังของเทพ
จนเนื้อเรื่องดำเนินมาถึง ยุคสมัยของเอเรน ตามเนื้อเรื่องในมังงะ ตอนที่๑ "แด่เธอในอีก 2000 ปีจากนี้: การล่มสลายของเขตชิกันชิน่า 1" To You, in 2000 Years: The Fall of Shiganshina, Part 1
(二千年後の君へ ―シガンシナ陥落①―)
หากพูดถึงอนิเมะ attack on titan (ผ่าพิภพไททัน)แล้วจะพบว่า อนิเมะเรืองนี้ มีความเป็นตะวันตกค่อนข้างสูงมากกว่าตะวันออก ทั้งการเลือกใช้ชื่อตัวละคร ถึงฉากต่างๆ มักจะเป็นภาษาเยอรมันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เอเรน เยเกอร์ (Eren Jäger)ลีไว แอคเคอร์แมน (Levi Ackerman) แจน เคียร์ชไตน์ (Jean Kirstein) คอนนี่ สปริงเกอร์ (Connie Springer)ซาช่า เบลาส์ (Sasha Blouse) คริสต้า เลนซ์ (Christa Lenz) หรือชื่อจริง ฮิสทอเรีย ไรส์ (ヒストリア・レイス Historia Reiss) ล้วนแล้วแต่มีความเป็นตะวันตก(เด่นที่สุดก็เยอรมัน)สูงทั้งสิ้น
รวมถึง สถานที่และเมืองต่างๆ ก็อ้างอิงมาจากสถานที่จริงในเยอรมัน และเหตุการณ์ในเรื่อง ก็ให้ภาพของเยอรมันยุคปลายๆยุคกลาง ต่อเนื่องมาถึงยุคปฎิวัติอุตสาหกรรม และต่อเนื่องมาถึงสมัยสงครามโลกทั้งสองครั้งทั้งสิ้น (ซึ่งพลังไททันในเรื่องก็ได้กลายมาเป็นอาวุธในการทำลายล้างกัน และผู้แต่งจงใจใช้มันเป็นตัวแทนของอาวุธสงครามตัวอย่างเช่น ตอนที่เจ้าของพลังไททันมหึมา ใช้พลังดังกล่าว จะมีแรงระเบิดขนาดใหญ่มาทุกครั้ง ซึ่งแรงระเบิดนี้ มีที่มาจากความรุนแรงของระเบิดปรมณู และพลังของไททันเกราะเป็นตัวแทนของรถหุ้มเกราะ ไททันเกวียนเป็นตัวแทนของยานรบทหารราบ เป็นต้นซึ่งผู้เขียนมังงะต้องการใช้สะท้อนถึงความโหดร้ายของสงครามนั้นเอง)
โดยเนื้อเรืองของมังงะเรืองนี้จัดได้ว่ามีความรุนแรงสูงมาก และการดำเนินเนื้อเรืองค่อนข้างสะท้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆบนโลกใบนี้ทั้งสิ้น ทั้งเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่ได้แบบมาจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว การสร้างเขตกักกันของมาร์เลย์ ที่กระทำต่อเอลเดีย ชาวมาร์เลย์กิตติมศักดิ์ ซึ่งล้อกับคำว่าอารยันกิตติมศักดิ์ของนาซีรวมถึงเกาะพาราดี ที่มีลักษณะคล้ายกับเกาะมาดากัสก้า ที่นาซีเยอรมัน เคยวางแผนจะเนรเทศชาวยิวไปที่นั้น ก็มีที่มาจากตรงนี้
ถึงแม้นฉากในเนื้อเรื่องและตัวละครจะเป็นเยอรมันสูง แต่ตำนานเรือง Ymir ผู้เป็นต้นกำเนิดของไททัน กลับมีที่มาจากตำนานของนอร์ส ที่เล่าว่า Ymir คือไททันผู้เป็นต้นกำเนิดของไททัน(ยักษ์) และเทพเจ้าทั้งมวลของนอสต์(หนึ่งในนั้นคือ โอดิน บิดาของ ทอร์) แต่สุดท้าย Ymir ก็ถูกลูกหลานของตนเองฆ่าจนตายแล้วร่างกายของยูมีก็ถูกนำไปสร้างดินแดน ต่างๆ (ซึ่งไม่ใช่รายละเอียดที่เราจะพูดถึง หาสนใจให้ดูรายละเอียดได้ที่ช่อง ของน้องวิว ที่ช่อง Point of View ,หลงไปในประวัติศาสตร์ by หมอเอ้ว ชัชพล และสุริยบุตร ได้อธิบายไว้แล้วจะไม่ขอเล่าอีก)
เป็นที่น่าสนใจว่า “Ymir” ซึ่งคำนี้ สามารถสืบค้นรากคำจนพบเสียงที่สืบสร้างเสียงดั่งเดิมได้ในภาษาตระกูลอินโดยุโรเปียน /*yemH-/(แปลว่าฝาแฝด “twin”) ซึ่งรากคำของคำนี้ตรงกับ यम (yáma) ที่แปลว่า"แฝด"ในภาษาฮินดี และยังเป็นชื่อเทพเจ้าองค์หนึ่ง ซึ่งก็คือ “พระยม” ผู้ปกครองโลกแห่งความตายของชาวอารยันโบราณอีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดสมมุติฐานว่าแท้จริงแล้ว เรื่องของพระยมของอารยัน และ ยูมีร์ ของนอร์ส อาจมีที่มาจากแหล่งเดียวกัน?
พระยม 🇨🇳 จีนรับไป 閻魔(阎魔) (เสียงจีนยุคกลาง jiᴇm muɑ) 🇨🇳 ภาษาจีนกลาง Yánmó 🇯🇵ญี่ปุ่นที่รับไปจากจีนえんま(enma) 🇰🇷เกาหลี 염마 (yeomma) 🇲🇲พม่า ယာမာ (yama) 🇰🇭เขมร យម (yum)
🎌และในญี่ปุ่นเอง ก็มีการสับสนคำว่า 夜摩 (Yama) ว่ามีที่มาจาก "พระยม" หรือไม่ เพราะในพจนานุกรมของญี่ปุ่นเองเป็นผู้ระบุว่า夜摩 (Yama) คือพระยม จากการสืบค้น夜摩 คือ 夜摩天 หมายถึง ท้าวสุยามะ ซึ่งเป็นหัวหน้าสวรรค์ชั้นยามะ
ดังนั้น เจ้านรก ( 閻魔 คือ พระยม ) กับหัวหน้าสวรรค์ชั้นที่ 3 (ยามะ) อยู่คนละที่ คนละตำแหน่งกัน แต่คนญ๊่ปุ่นเอง เนื่องด้วยข้อจำกัดของการออกเสียงผ่านระบบคานะของญี่ปุ่นที่ใช้อักษรแทนเสียง ไม่ใช่อักษรที่ใช้เสียง ผสมสระแบบเกาหลี ทำให้เกิดข้อสับสนในส่วนนี้ขึ้น
閻魔 = yama (a เสียงสั้นทั้งคู่ เขียนเป็นภาษาไทยว่า ยม อ่าน ยะ-มะ)
夜摩 = yāma (a ตัวแรกเสียงยาว เขียนเป็นภาษาไทยว่า ยามะ)
พระยม(閻魔) และ ยามะ(夜摩) จึงเป็นคนละบุคคลกันแน่นอน ซึ่งน่าจะเป็นความสับสนของคนญี่ปุ่นเองหละ เพราะทั้งสองคำ รับต่อมาจากจีนเหมือนกัน ในขณะที่ทางจีน ไม่มีสับสน
แต่อย่างไรก็ตามในพจนานุกรมของญี่ปุ่น กลับระบุความหมายที่สอง 閻魔王の異称 = การเรียกพญายมในชื่อที่ต่างไป (คือมีบางคนใช้ แต่ว่าไม่ถูกต้องถ้าว่าตามแหล่งที่มา)
พระยมในเรื่อง ดราก้อนบอล ใช้คำว่า 閻魔 ซึ่งสังเกตุได้ว่า ที่หมวกเขียนอักษร 閻 (en)
หากค้น จากรากคำภาษา🇮🇳อินโดยุโรเปียน🇪🇺 /*yemH-/สืบทอดมาจนถึง Proto-Italic /*jem anos / สืบทอดมากลายเป็นภาษาละติน คำว่า Geminus ซึ่งแตกมาเป็นคำในภาษาละตินอีกจำนวนนึง
รากคำละติน Geminus(เกมินุส) แปลว่าฝาแฝด หรือคล้ายคลึง และยังเป็นที่มาของ Remus(เรมุส) หนึ่งในผู้ก่อตั้งกรุงโรมในตำนานร่วมกับ Romulus อีกด้วย (Remus ถูกนำไปตั้งชื่อเป็น ตัวละครหนึ่งในซีรี่ย์ แฮรี่ พอตเตอร์ ชื่อ remus lupin อีกด้วย)
ซึ่งแตกออกมาเป็นอีกจำนวนหนึ่งในภาษาละติน
bigeminus(บิเจมินุส) สองเท่า
geminī (เกมินี) หมู่ดาวราศีเมถุน
🇺🇸ซึ่งชื่อนี้ยังถูกนาซ่าไปตั้งเป็น โครงการ gemini (เจมิไน) ของนาซ่าอีกด้วย ซึ่งถ้าใครได้อ่านหนังสือ First Man The Life of Neil A. Armstorng ที่เล่าประวัติของ neil armstrong หรือดูภาพยนต์ที่สร้างจากหนังสือเล่มนี้ คงจะได้ว่าเขาเคยเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากโครงการนี้(ตามรายละเอียดได้ที่ spaceth.co นะครับ)
trigeminus (ตรีเกมินุส)สามเท่า สร้างจาก tri- (ไตร สาม“three”) +‎ geminus
🇬🇧 ซึ่งคำนี้ยืมไปสร้างคำในภาษาอังกฤษ trigeminus ซึ่งเป็นเส้นประสาทชนิดหนึ่ง
quadrigeminus(ควาดริเกมินุส) สี่เท่า ซึ่งมาจากรากคำ quattuor (“จตุร หรือ สี่ four”) +‎ geminus (“ double, twin”)ซึ่งกลายมาเป็นคำว่า quadrigemino ในภาษาอิตาลีปัจจุบันนี้ l
septemgeminus (เซ็ตเต็มเกมินุส) เจ็ดเท่า
ingemino(อินเกมิโน) ย้ำ
geminatus(เกมินาตุส) ทวีคูณ .
🇬🇧การเป็นคำว่า gemination การทําสําเนา ในภาษาอังกฤษ
geminatio(เกมินาติโอ)
🇬🇧ในภาษาอังกฤษยืมไปใช้ในความหมายเดียวกันคือ "ทวีคูณ" และคำนี้ถูกนำไปใช้ในวิชา สัทศาสตร์ หมายถึงพยันชนะที่ออกเสียงยาวกว่า ในภาษาอังกฤษ geminate และ🇷🇺รัสเซียยืมไปใช้ гемина́та (gemináta)
ingeminātus (อินเจมินาตุส)"ย้ำอีกครั้ง"สร้างจากรากคำ in- +‎ geminō
🇬🇧ซึ่งภาษาอังกฤษก็ยืมไปใช้เช่นกัน ingeminatus
นอกจากนี้ Geminus ยังถูกสร้างรากคำจากภาษาละติน ในคำศัพท์ภาษาอังกฤษ อีกเช่น
🇬🇧geminus. เป็นสองเท่า
🇬🇧geminal (chemistry) Describing identical atoms or groups attached to the same atom in a molecule)
ซึ่งชื่อบุคคลทั้ง 3 พระยม (Yama) ยูมีร์(Ymir)และ Remus ดั้งเดิมก็มีเค้าความหมายของคำว่าแฝดด้วย เพียงแต่ Ymir อาจพัฒนาไปไกลหน่อย
อนึ่ง Ymir ให้ถูกต้องตามตำหรับของนรอสแล้วจะต้องอ่านว่า [ˈymez̠] (อวีเมียร์) ซึ่งเป็นภาษา Norseโบราณแต่ปัจจุบันอ่านว่า /ˈiːmɪər/(อีเมียร์)แต่ที่ไปอ่านเป็น ยูมีร์ กันหมดเพราะ อิทธิพลของมังงะ Attack on Titan ซึ่งถือความพิเศษอย่างนึงของภาษาญี่ปุ่นคือ เวลาถอดคำอ่าน ไม่ยึดภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจาก Romanisation ของทุกภาษา ที่ไม่ตรงกันอยู่แล้ว มีระบบเฉพาะของแต่ละภาษาและ Romanisation ไม่ใช่สัทอักษร จึงเกิดการลักลั่นในการสะกดคำของแต่ละภาษาในชื่อ Ymir นั้นเอง
สรุป Ymir (ยูมีร์) ในทางวรรณคดีมีอนุภาคที่ตรงกับ พระยม (Yama) และยังมาจากรากคำเดียวกับ Remus (ผู้ก่อตั้งกรุงโรม) และชื่อบุคคลทั้ง 3 ดั้งเดิมก็มีเค้าความหมายของคำว่าแฝดด้วย และชื่อบุคคลทั้งสามมีรากคำเดียวกัน
แอดมิน videō(วิเดโอ)
ภาพจิตกรรมไทย พระยม วาดโดย ATIPONG PADANUPONG ศิลปินชาวไทย
โฆษณา