29 ก.ย. 2021 เวลา 23:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หลักพื้นฐานที่ควรรู้
1
ก่อนลงทุนหุ้นกลุ่ม “โรงไฟฟ้า”⚡️
หากเป็นในปัจจุบันนี้พวกเราก็คงจะปฎิเสธไปไม่ได้เลยนะครับว่า “ไฟฟ้า” ก็ได้กลายเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
เพราะเรียกได้ว่าอุปกรณ์รอบตัวเราแทบจะทุกอย่างนั้นก็ล้วนแล้วแต่มีเรื่องของกระแสไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่โลกของเราเริ่มตระหนักถึงพิษภัยและความเสียหายจากการสร้างมลภาวะจากแหล่งพลังงานแบบดั้งเดิมกันแล้วเช่นนี้
จึงทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าจึงเป็นกลุ่มหุ้นที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอนั่นเอง ซึ่งหลังจากที่สถานการณ์ของ Covid-19 ในภาพรวมได้เริ่มมีการคลี่คลายแล้ว กระแสการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าก็ถือว่าเริ่มมีสื่อพูดถึงมาสักระยะแล้วนะครับ
ดังนั้นเรื่องบวกของหุ้นโรงไฟฟ้าในปีหน้าก็คือธีม Reopening คล้ายๆกับหุ้นกลุ่มอื่นที่เคยได้รับผลกระทบจากโควิดนอกจากนี้ยังมีประเด็นของแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับใหม่ (PDP 2022)
2
ที่ทำให้เราเห็นว่ารัฐบาลต้องการที่จะเพิ่มสัดส่วนของ Renewable Energy ให้กลายเป็น 50% และการให้ความสำคัญกับรถยนต์ EV & แบตเตอรี่ไฟฟ้า (Energy storage) อยู่อีกด้วย
เดี๋ยวเรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่าหลักพื้นฐานที่ควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นกลุ่ม “โรงไฟฟ้า” นั้นจะมีอะไรบ้าง ?
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ
👍🏽ปัจจัยบวกของหุ้นโรงไฟฟ้า
การหาโรงไฟฟ้าใหม่
เพราะถ้าหากว่าไม่มีการหาหรือสร้างโรงไฟฟ้าใหม่รายได้ของบริษัทก็จะน้อยลงเรื่อยๆตามลักษณะสัญญาที่ขายให้กับEGAT
1
👎🏽ปัจจัยลบของหุ้นโรงไฟฟ้า
น้ำมันแพง
น้ำมันแพงเป็นปัจจัยลบของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเพราะจะไปกดดันทางอ้อมให้แก๊สธรรมชาติซึ่งเป็นต้นทุนของการผลิตไฟฟ้านั่นเอง
Demand การใช้ไฟฟ้าที่ลดลง
ข้อนี่ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับเพราะถ้าความต้องการสินค้า(ซึ่งในที่นี่ก็คือไฟฟ้า)มีลดลง รายได้และกำไรของหุ้นโรงไฟฟ้าก็ลดลงตามไปด้วย
การปิดซ่อมบำรุงนอกแผน
เพราะยิ่งปิดนานก็ยิ่งสูญเสียรายได้ และจะยิ่งเสียหายต่อถ้าปิดนานเกินกำหนดเวลาที่สามารถเคลมกับประกันได้ซึ่งปกติมีอยู่ราวๆ 60 วัน
ความล่าช้าในการเปิดทำการ และบริษัทที่มีโรงไฟฟ้าเก่า
⚡️ประเภทโรงไฟฟ้า
ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (Independent Power Producer : IPP)
ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่มีกําลังการผลิตติดตั้ง มากกว่า 90 เมกะวัตต์
1
ลักษณะรายได้ : กลุ่ม IPP ส่วนใหญ่แล้วจะทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ EGAT(กฟผ.) ที่จะทำให้มีรายได้ขั้นต่ำตามกำหนดหรือ Minimum take และรายได้จากปริมาณการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบจริงตามปริมาณการใช้ของผู้บริโภคในประเทศ
ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (Small Power Producer : SPP)
ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนซึ่งผลิตไฟฟ้าขายให้ กฟผ. โดยมีกําลังผลิตไฟฟ้าระหว่าง 10 – 90 เมกะวัตต์
ลักษณะรายได้ : กลุ่ม SPP จะมีรายได้มาจากสองทางคือ Minimum take ซึ่งทำสัญญาระยะยาวกับ EGAT และการจำหน่ายไฟฟ้าโดยตรงให้กับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ใกล้เคียง
ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก (Very Small Power Producer : VSPP)
ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนซึ่งผลิตไฟฟ้า ขายให้การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) โดยมีกําลังผลิตไฟฟ้าไม่เกิน 10 เมกะวัตต์
✅เกณฑ์การคัดหุ้นเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้า
มองหาโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างชัดเจน ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ & กำไรมีความสม่ำเสมอและมีโอกาสเติบโตอย่างชัดเจนเช่นกัน
มองหาบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถดูได้จาก Net D/E(อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน) และเงินสดในมือเพราะยิ่งมีเงินสดมากก็ยิ่งทำให้การเพื่อไปซื้อกิจการใหม่ๆทั้งในประเทศ & ต่างประเทศมีมากขึ้น ส่วนหนี้สินที่ต่ำก็จะทำให้บริษัทมีเพดานในการกู้เงินสูงขึ้น
1
⚠️ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ทิศทางของ Bond yield & ดอกเบี้ย เพราะถ้าหาก Bond yield & ดอกเบี้ย เป็นขาขึ้นต้นทุนของโรงไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น
แนวโน้มการร่วมทุน, Joint venture หรืออะไรที่ก่อให้เกิดการ Synergy กันข้ามอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูงในยุคสมัยนี้เพื่อความแปลกใหม่ & ยั่งยืน
โอกาสเกิดรูปแบบการซื้อ-ขายไฟฟ้าเสรีในระดับขายปลีก ซึ่งจะส่งผลบวกให้กับผู้ผลิตไฟฟ้ามากขึ้น
และทั้งหมดที่ว่ามาก็คือหลักพื้นฐานที่ควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นกลุ่ม “โรงไฟฟ้า” ที่พวกเรา หุ้นพอร์ทระเบิด อยากจะเอามานำเสนอไว้เพื่อเป็นประโยชน์กับทุกท่าน
หวังว่าจะทำให้เพื่อนๆนักลงทุนพอจะเข้าใจในหลักการของการเลือกหุ้นโรงไฟฟ้ากันไปบ้างแล้วนะครับ สำหรับวันนี่ก็คงจะมีเนื้อหา & ความรู้ดีๆมาฝากทุกคนไว้เพียงนี้
ยังไงต้องขอตัวลาไปก่อนเลยแล้วกันครับทุกท่าน สวัสดีครับ...
เพิ่มทักษะปั้นพอร์ทโตระเบิดรุ่นที่ 2
คอร์สออนไลน์ที่จะพาเปิดโลกการลงทุนแนว VI Hybrid Technical
ใครสนใจทักได้ทาง inbox ครับ
*รับจำนวนจำกัด
**ราคาพิเศษกำลังจะหมดเขต
***รุ่นสุดท้ายของปีทอง
หรือคลิ๊ก
โฆษณา