"ขนมทองเอก"
มีความหมายความเป็นที่หนึ่ง
สูตรและวิธีทำ
...ถึงคุณผู้อ่านที่รัก...
ใครหลายคนอาจจะแค่ชอบความสวยงามของขนมตระกูลทอง แต่ถ้าให้รับประทานก็กลัวเหลือเกินกับความหวานล้ำของรสชาติขนมประเภทนี้
มีคนที่ฉันรู้จักจำนวนไม่น้อยชื่นชอบรับประทานขนมตระกูลทองเป็นชีวิตจิตใจ โดยหาได้เกรงกลัวโรคเบาหวานไม่
ฉันคิดว่าถึงขนมตระกูลทองจะมีความหวานที่แสนซาบซ่านทรวง แต่ความงามและเสน่ห์ของขนมเหล่านี้ ก็เย้ายวนใจเสียเหลือเกิน ถึงจะกล้าๆกลัวๆต่อรสชาติสักปานใด ก็อดไม่ไหวที่จะหยิบมาลิ้มลองสักชิ้นสองชิ้น ยิ่งได้รับประทานกับชาร้อนๆหอมๆ ก็ฟินอยู่นา...
นึกถึงคุณครูขนมไทยที่สอนฉันทำขนมประเภทนี้อย่างพิถีพิถัน เขาเป็นหนุ่มน้อยหน้าใสที่เก่งเกินวัย สูตรที่ฉันทำนี้เป็นสูตรที่ได้เรียนมาจากเขา ฉันขอยกเครดิตในบทความนี้ให้ครูหมดเลย เผื่อว่าหากเขาได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน
สูตรขนมทองเอกสูตรนี้ ทำให้ใครชิมก็ต่างชื่นชอบ เพราะมีรสชาติหวานน้อย เหมาะกับยุคสมัย ใครที่ไม่ชอบรับประทาน ถ้าได้ลองสักหน่อย ก็อาจจะเปิดใจได้ไม่มากก็น้อย ขนมไทยจะได้ไม่สูญหายไปตามกาลเวลา
ขนมทองเอก ฉันได้มีโอกาสเขียนบทความเรื่องนี้ในบีดีแล้ว แต่ก็อยากนำมาเขียนอีก
เพราะชีวิตของฉันก็วนเวียนอยู่กับการทำขนมไทยนี่แหละ
สูตรและส่วนผสมของขนมตระกูลทองไม่มีอะไรซับซ้อน หากแต่วิธีการทำและเทคนิคต่างๆ ต้องใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ โดยการหมั่นฝึกฝนอยู่บ่อยๆ มาเขียนบทความในบีดีมีข้อดีสำหรับฉันก็ตรงที่ได้ทบทวนความรู้ของตัวเองด้วย
มาว่ากันที่เรื่อง'ขนมทองเอก'
ขนมทองเอกที่ได้ลักษณะที่ดีคือ เนื้อขนมไม่นิ่มจนเกินไปและมันเยิ้ม เนื้อไม่แข็งจนตกทราย
"เนื้อด้านนอกมีความแห้งเล็กน้อย
แต่เมื่อกัดเข้าไปด้านในมีความนุ่ม คล้ายๆขนมอาลัวแต่ไม่เหมือนกันนะ เนื้อขนมมีความซอฟท์กว่าอาลัว"
ขนมทองเอก นิยมมอบให้กันในงานมงคล เช่น งานแต่งงาน งานเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง
มีความหมาย "เป็นที่หนึ่ง, เป็นหนึ่งเดียว"
สูตรขนมทองเอก
(เครดิต: สูตรของคุณครูสุดหล่อของฉัน)
กะทิ 240 กรัม
น้ำตาลทราย 150 กรัม
ไข่แดงของไข่ไก่สดๆ 6 ฟอง
แป้งสาลีทำเค้กตราพัดโบก 100 กรัม
สีผสมอาหารสีเหลืองไข่เล็กน้อย
**แป้งสาลีทำเค้กตราพัดโบก 30 กรัม
(สำหรับทำแป้งนวล)
**พิมพ์ขนมทองเอก
วิธีทำ
1. คั่วแป้งสาลีที่ใช้ทำแป้งนวล 30 กรัม ในกระทองไฟอ่อนๆจนสุก อย่าใช้ไฟแรงแป้งจะไหม้
2. นำแป้งสาลี 100 กรัม มาอบควันเทียน ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือนานกว่านี้ก็ได้
3. ผสมน้ำตาลทรายและกะทิเข้าด้วยกัน เคี่ยวไฟกลางค่อนข้างอ่อน จนเป็นฟองเต็มกระทะ และมีลักษณะข้นเล็กน้อยดังรูป
4. ปิดไฟพักไว้ประมาณ 10 นาที รอให้กะทิอุ่น จากนั้นใส่ไข่แดงทีละฟอง ค่อยๆคนส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่สีเหลืองไข่สักสองหยดเพื่อเพิ่มสีสัน
5. ค่อยๆร่อนแป้งสาลีลงไปทีละน้อย แล้ว คนให้เข้ากัน นำไปกวนไฟกลางค่อนข้างอ่อน จนกระทั่งร่อนออกจากกระทะ ยกลงจากเตารอให้เย็น
6. นำแป้งขนมทองเอกใส่ในถุงพลาสติกเพื่อกันลม เนื้อขนมจะได้ไม่แห้งไปเสียก่อน
7. นำเนื้อขนมมาอัดลงในพิมพ์ไม้ที่โรยด้วยแป้งนวลบางๆ
8. จากนั้นนำไปติดทองคำเปลวแท้ให้สวยงามตามชอบ
เคล็ดลับ
1. ไข่ที่นำมาใช้ทำขนมจะต้องเป็นไข่สด ขนมจะได้ไม่มีกลิ่นคาวไข่
2 . กะทิใช้กะทิกลางๆ ไม่เข้มข้นจนเกินไป เพราะจะทำให้เวลากวนกะทิจะแตกมัน
3. เคี่ยวน้ำเชื่อมกะทิให้เข้มข้นพอเหมาะ หากข้นไปก็จะทำให้ได้ขนมเนื้อแน่นและตกทราย หรือถ้าความเข้มข้นยังไม่ได้ที่ก็จะทำให้เนื้อขนมนิ่มเหลว มีน้ำมันเยิ้ม
4. ใช้ไฟแรงกวนขนมมากเกินไป ก็จะทำให้กะทิแตกมัน ขนมไหม้และตกทราย ถ้าใช้ไฟอ่อนเกินไปกะทิก็แตกมันได้เช่นกัน
ต้องใช้ไฟพอดีๆ จุดนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนทำบ่อยๆ
โปรติดตามตอนต่อไป
"มดดี้"
สามารถติดตามอีกหนึ่งช่องทางได้ที่
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
