30 ก.ย. 2021 เวลา 23:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เกาะติดปัญหา “จีนขาดแคลนพลังงาน”
2
หุ้นกลุ่มไหนควรจับตามอง ?
สวัสดีครับเพื่อนๆ หุ้นพอร์ทระเบิดทุกท่าน หลังจากที่ราคาพลังงานทั่วโลกได้เริ่มไต่จากจุดต่ำสุดในวิกฤตโควิดมาได้สักพักแล้วนั้น ราคาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดและยังคงเป็นขาขึ้นย่างต่อเนื่อง
และก็ได้ทราบมาว่าหลายๆคนนั้นกำลังจับตามองโอกาสในการเกิดปัญหา “ขาดแคลนพลังงาน” ของจีนกันอยู่ ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อมายังหุ้นในบ้านเราแน่นอน
ทำให้ในวันนี้พวกเราเลยสรุปเอาสาเหตุและผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนพลังงานของจีนจากมุมมองของนักวิเคราะห์ค่าย K Securities ทั้งสองท่านคือคุณบอม “สรพล วีระเมธีกุล” และคุณปุ๊ “จักรพงศ์ เชวงศรี” มาให้อ่านกัน
1
เดี๋ยวไปดูกันเลยดีกว่าครับว่าเกิดอะไรขึ้น ? และหุ้นกลุ่มไหนควรน่าจับตามอง ??
1
⚠️Power shortage (ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน)
สำหรับ Part นี้คุณบอม “สรพล วีระเมธีกุล” ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์กสิกรไทย(KSEC) ได้เริ่มเป็นคนอธิบายสาเหตุและปัจจัยต่างๆที่ทำให้จีนอาจจะเกิด Power shortage ได้
1
จากปัจจัยแรกเลยคือจุดมุ่งหมายในการลด CO2(ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) ให้ได้หลังปี 2030 รวมไปถึงการลดปริมาณการนำเข้าถ่านหินด้วยก็เช่นกัน
ประกอบกับ Demand ที่เพิ่มขึ้นมาจากทั้งภาคครัวเรือนที่ต้องพบกับมาตรการในการจำกัดการแพร่ระบาดที่ส่งผลให้ประชาชนจีนต้องอยู่บ้านหรือ Work from home กันเยอะขึ้น เช่นเดียวกันกับ Demand จากภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังวิกฤต
ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่รัฐบาลจีนขอความร่วมมือภาคอุตสาหกรรมให้ลดการใช้ไฟฟ้าลงกว่า 20 มณฑลและเป็นมณฑลหลักของภาคอุตสาหกรรม
1
จึงทำให้เกิดความกังวลว่าจีนอาจจะต้องพบกับปัญหา Power shortage นั่นเอง
⚠️ กระทบยังไง ?
โดยการเกิด Power shortage นั้นก็จะส่งผลให้วัตถุดิบต้นน้ำที่อยู่ในหลายๆอุตสาหกรรมมีราคาพุ่งสูงขึ้น ต่อเนื่องมายังกลุ่มกลางน้ำและปลายน้ำตามตามลำดับ
3
ซึ่งจะทำให้ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) เพิ่มขึ้นและเกี่ยวข้องโดยตรงไปยังอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จึงทำให้ผู้คนเกิดความกังวลเพราะในปีนี้การเติบโต GDP ของจีนก็ถือว่าหดตัวลงมาเหลือ 6% - 8% จากเดิมที่เคยอยู่ในระดับ 8% - 10%
1
และถ้าหากว่าราคาวัตถุดิบต้นน้ำของประเทศผู้ผลิตอย่างจีนมีราคาสูงขึ้น ความเสี่ยงในเรื่องของสินค้าราคาสูงก็ต้องตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
1
ซึ่งอาจจะทำให้เกิดโอกาสในการระบายเงินเฟ้อออกมานอกประเทศของจีนไปด้วย
⚠️หุ้นกลุ่มไหนควรจับตามอง ?
สำหรับ Part ที่สองเป็นหน้าที่ของคุณปุ๊ “จักรพงศ์ เชวงศรี” ผู้อำนวยการอาวุโส บมจ.หลักทรัพย์กสิกรไทย(KSEC)
และหุ้นกลุ่มแรกที่เขากล่าวว่าจะได้รับผลบวกก็คือ “กลุ่มต้นน้ำ” ในอุตสาหกรรมพลังงานนั่นเอง
1
เพราะแนวโน้มราคาพลังงานไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และน้ำมันค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นขาขึ้น จาก Demand ที่เพิ่มขึ้นหลังจากการ เปิดเมืองของหลายๆประเทศ และการกักตุนเชื้อเพลิงไว้ใช้ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
ผลักดันให้ค่าการกลั่นเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลบวกกับ “หุ้นกลุ่มโรงกลั่น” แทบจะทุกตัว
2
ส่วนกลุ่มปิโตรเคมีก็มีราคาที่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน แต่ในระยะยาวต้องคอยดูว่าเมื่อปัญหาพลังงานขาดแคลนของจีนลดลงราคาปิโตรเคมีจะลดลงไปพร้อมๆกับ ต้นทุนคือราคาพลังงานที่สูงขึ้นหรือไม่ ?
โดยในระยะนี้ก็เริ่มมีข่าวว่า OPEC อาจจะนำเอาจำนวนครั้งในแผนการเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมครั้งละ 400,000 บาร์เรล 4 เดือน มาเพิ่มขึ้นทีเดียวในเดือนตุลาคม
แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังเชื่อว่าแนวโน้มราคาพลังงานยังคงเป็นขาขึ้นอยู่จาก Stock ที่มีน้อยและการกักตุนเชื้อเพลิงไว้ใช้ในฤดูหนาวอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วตอนต้น
ขอขอบคุณคำแนะนำดีๆจากนักวิเคราะห์ทั้งสองท่านจากรายการ KS PODCAST ของ K Securities มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
สำหรับวันนี้ หุ้นพอร์ทระเบิด ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ...
เพิ่มทักษะปั้นพอร์ทโตระเบิดรุ่นที่ 2
คอร์สออนไลน์ที่จะพาเปิดโลกการลงทุนแนว VI Hybrid Technical
ใครสนใจทักได้ทาง inbox ครับ
*รับจำนวนจำกัด
**ราคาพิเศษกำลังจะหมดเขต
***รุ่นสุดท้ายของปีทอง
หรือคลิ๊ก
โฆษณา