1 ต.ค. 2021 เวลา 02:35 • ครอบครัว & เด็ก
เด็กทุกคนเริ่มจาากตรงนี้ เพราะคุณแม่คือสัมพันธภาพแรกของน้อง และถ้าเป็นสัมพันธภาพที่ดีก็จะเป็น "รักแรก" ด้วย สิ่งแรกเลยที่ธรรมชาติให้เด็กทุกคนติดตัวมาคือความสามารถในการเอาตัวรอด ดังนั้นในวัยเข้าเต้า (หรือแม้แต่ให้นมขวด) ตั้งแต่แรกเกิดจน 3 เดือนนั้น ถ้ามีสัญญาณว่าน้องไม่มองหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งมองตาของคุณแม่ แสดงว่าการเริ่มต้นของสัมพันธภาพแรกของน้องนั้นไม่ดี สายใยนั้นกำลังจะเปราะบาง คนที่ต้องรีบแก้ไขคือคุณแม่ค่ะ
มีคนตั้งคำถามว่าปัญหาของการเลี้ยงลูกคือคุณแม่ที่ไม่รู้และไม่ยอมรับว่าไม่รู้ หรือคุณแม่ที่ไม่รู้และไม่ขวนขวายหาความรู้ ในยุคนี้ไม่มีความรู้อะไรที่หาไม่ได้ มีแต่ไม่ใส่ใจที่จะหามากกว่า
อย่าปล่อยอาการไม่มองหน้าคุณแม่ของน้องในขณะที่เข้าเต้าเลยไปจนถึง 5-6 เดือนที่น้องเริ่มคลานนะคะ เพราะการคลานคือการเคลื่อนไหวที่ออกไปจากตัวคุณแม่เพื่อไปสำรวจ และเป็นการมีอิสระภาพ ดังนั้นถ้าน้องไปจากคุณแม่แบบที่สายใยเปราะบาง ตัวตนของน้องในวัยข้างหน้าด้านจิตใจก็จะเปราะบางไปด้วยค่ะ
เพราะการเคลื่อนไหวคือ Brain in Action หรือความคิด ความอ่าน ความต้องการของสมองที่ถ่ายทอดออกมาทางการเคลื่อนไหวของร่างกาย ที่สำคัญคือคุณแม่อ่านมันออกไม๊คะ ส่งเสริมน้องได้ถูกทางเพื่อที่จะพัฒนาการเคลื่อนไหวเพื่อการเรียนรู้ การแก้ปัญหา สร้างความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการมีปฏิสัมพันธกับคนรอบตัวได้หรือไม่
การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวน้องจะใช้หลักการของ Kestenberg Movement Profile ซึ่งใช้โดยนักจิตวิทยาที่ทำงานกับเด็กมาตั้งแต่ปี 1960 Kestenberg Movement Profile ยังเป็นงานวิจัยของ Judith Kestenberg กว่า 30 ปี เพื่อที่จะหาทางเข้าใจความต้องการของเด็กในวัย 0-2 ขวบที่ยังพูดไม่ได้ จึงจะแสดงออกจากการเคลื่อนไหวได้ชัดเจนที่สุด
การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวน้องนั้นจะทำโดยผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่านในประเทศไทยและญี่ปุ่น (ซึ่งเป็นเพียง 2 ท่านในเอเซียที่ทำงานด้านนี้) นอกนั้นยังติดตามให้คำแนะนำต่อถึง 1 ปีค่ะ
คุณแม่ที่สนใจ ขอรายละเอียดได้ที่ Inbox ของเพจ Raising Parents ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ
โฆษณา