1 ต.ค. 2021 เวลา 08:03 • การศึกษา
"อย่าปิดกั้นการเรียนรู้" - ทิชาดันแคมเปญต้านรัฐตรวจสอบนิทาน "วาดหวัง"
ผอ.ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ชวนประชาชนลงชื่อต้าน 'ผู้มีอำนาจ' หยุดปิดกั้นการเรียนรู้เด็กไทย พร้อมย้ำ อย่าแบนนิทาน ‘วาดหวังหนังสือ’ แต่อีกทางหนึ่งก็ขอบคุณ เพราะ "ยิ่งห้าม ยิ่งยุ ยิ่งปิด ยิ่งเปิด" - ผู้จัดพิมพ์เผย มียอดสั่งซื้อหนังสือเพิ่ม แต่ก็มีการคุกคามเกิดขึ้นเช่นกัน
หลังจากคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการ สั่งตั้งทีมเฉพาะกิจตรวจสอบนิทานเด็กที่มีลักษณะคล้ายตำราเรียน และมีเนื้อหาเข้าข่ายบิดเบือน ซึ่งจัดจำหน่ายให้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5 ขวบ โดยให้เหตุผลว่า "อาจให้เด็กเข้าใจคลาดเคลื่อน หากไม่ได้รับการชี้แนะอย่างถูกต้องโดยครูหรือผู้ปกครอง" เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้จากหลายภาคส่วน ทั้งอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนและกรรมการคณะก้าวหน้า
ล่าสุด ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ได้ร่วมรณรงค์แคมเปญ หยุดปิดกั้นการเรียนรู้เด็กไทย อย่าแบนนิทาน ‘วาดหวังหนังสือ’ ผ่านเว็บไซต์ change โดยระบุว่า ‘วาดหวังหนังสือ’ เป็นหนังสือนิทานสำหรับเด็ก เนื้อหาเล่าถึงความฝัน ความหวัง ความแตกต่าง คุณค่าของตัวเอง ความสามัคคี การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสร้างสรรค์ ในชุดมีทั้งหมด 8 เล่ม บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวการ์ตูน สอดแทรกเรื่องพลังพลเมือง และหลักสิทธิมนุษยชนในเวอร์ชั่นที่เข้าใจง่ายที่สุด เป็นหนังสือดีที่ควรแนะนำให้อ่านไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวรุ่น หรือผู้ใหญ่ แต่ตอนนี้รัฐกลับมองว่าหนังสือชุดนี้ เป็นการระดมบ่มเพาะฝังรากล้างสมอง โดยกระทรวงศึกษาหรือแม้แต่นายกฯ เอง ก็มีคำสั่งเร่งตรวจสอบ พร้อมตั้งทีมเฉพาะกิจ ประสานฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ข้อความในแคมเปญระบุว่า "ความกลัวที่ถูกกำหนดโดยผู้มีอำนาจ คือความเก่า ความเสื่อม หมดสภาพ หากรัฐห่วงใยและจริงใจต่อเด็กและเยาวชน ควรทำให้ “การรู้เท่าทันสื่อ” เป็นศาสตร์ เป็นศิลป์ ที่เด็กทุกช่วงวัย สามารถเข้าถึง เข้าใจ รับ ย่อย ใช้ สร้าง ด้วยปัญญา สุดท้ายคือ ให้พวกเขามี 'สิทธิ' ที่จะเลือกแล้วใช้ดุลพินิจของตัวเอง รัฐต้องเลิกใช้วิธีเก่าๆ อย่างการใช้อำนาจปิดกั้นการเรียนรู้ของพวกเขา ซึ่งมันไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว"
นอกจากนี้ แคมเปญยังได้อ้างอิงความเห็นของ 'อังคณา นีละไพจิตร' อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่โพสต์เฟซบุ๊กถึงหนังสือดังกล่าว โดยระบุว่า “นิทานเด็ก ชุดวาดหวัง เป็นเพียงการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมให้เด็กเล็กสามารถเข้าใจได้ง่ายผ่านภาพการ์ตูน ไม่ใช่การปลุกระดมให้เด็กฟันน้ำนมลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐ…[รัฐบาล] จึงควรเปิดใจกว้างยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่ใช่พยายามจำกัดการรับรู้ หรือปิดบังความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม การพยายามนิยมคนดีในสายตารัฐ โดยผลักคนเห็นต่างให้เป็นคนไม่ดีที่ต้องจำกัดให้หมดไป ถือเป็นเผด็จการทางความคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในยุคที่การศึกษาเรียนรู้ไร้พรมแดนและไม่มีขีดจำกัดดังเช่นทุกวันนี้”
แคมเปญดังกล่าวทิ้งท้ายว่า "อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอบคุณ เพราะคำสั่งที่ไม่ฉลาด ทำให้หนังสือ 8 เล่ม มีสถานะเป็นหนังสือต้องห้าม ยิ่งห้าม ยิ่งยุ ยิ่งปิด ยิ่งเปิด” ซึ่งเพจ วาดหวังหนังสือ ผู้จัดพิมพ์หนังสือนิทาน เปิดเผยว่ามีผู้สั่งซื้อหนังสือเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทำให้ตอบข้อความของผู้สนใจได้ล่าช้า จึงขออภัยผู้ที่รอคำตอบ แต่ขณะเดียวกันก็มีการคุกคามเกิดขึ้น จึงย้ำให้หยุดการคุกคามนิทานและสิทธิในการอ่านของลูกหลาน
โฆษณา