จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่สื่อออนไลน์และสื่อมวลชนต้องรับผิดชอบเนื้อหาและข้อความหมิ่นประมาทและข้อความที่เป็นเท็จด้วย ที่ไม่ใช่แค่เพียงผู้ที่โพสต์ฝ่ายเดียวที่จะถูกฟ้องร้อง
CNN is the first major publication to bow out of posting on Facebook in Australia. CREDIT:AP
ประเทศตะวันตกทั้งหลายที่เราเห็นว่าเขาเป็นประชาธิปไตย สามารถแสดงออกทางความคิดอย่างไรก็ได้ เป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้การยอมรับ และหลายประเทศยังนำรูปแบบวิธีการนี้มาเรียกร้องสิทธิในการแสดงออกในประเทศของตนเองด้วย ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น
การแสดงออกทางความคิดที่เป็นแนวทางที่ทำให้เกิดการพัฒนา และอำนาจไม่ได้ตกไปอยู่ในมือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้ความคิดดีๆที่สร้างสรรค์ได้ถูกนำมาใช้
แต่ทว่าหลายครั้งที่มีการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์หรือสื่อมวลชนต่างๆ พบว่าเป็นข้อความที่ใช้ความรุนแรงในการนำเสนอ หลายครั้งจะพ่วงถ้อยคำที่เป็นเท็จที่นำมากล่าวหาอีกฝ่าย และหลายครั้งก็ตั้งใจที่ทำการบิดเบือนข้อมูลให้ผู้ที่รับข่าวเข้าใจคลาดเคลื่อน
#VoiceGO คุยกับนักเรียนมัธยม ร.ร.สาธิต มศว และนิสิต มศว ต่างเรียกร้อง #หยุดคุกคามประชาชน และเปิดพื้นที่ให้เด็ก-เยาวชน แสดงออกทางความคิดอย่างอิสระเสรี เพื่อสร้างสังคมที่สงบสันติร่วมกัน และอย่าหาว่า #ชังชาติ เพียงเพราะเห็นต่างจากผู้ใหญ่ . ชมรายการทาง https://youtu.be/n4ZEnI-rqA8
ในประเทศตะวันตกที่เรามองว่าเป็นต้นแบบของการนำเสนอแนวความคิดได้อย่างอิสระ แต่แท้ที่จริงแล้วทุกๆการกระทำต้องตั้งอยู่บนพื้นฐาน ที่ไม่ไปละเมิดสิทธิผู้อื่นและต้องรักษาสิทธิของตนเอง เพราะหากพบว่ามีการปฏิบัติเกินไปกว่าเงื่อนไขนี้ แค่เพียงละเมิดสิทธิก็ถูกฟ้องร้องแล้ว ส่วนข้อความที่รุนแรงและเป็นเท็จเรื่องนี้หนี้ไม่พ้นที่ต้องรับโทษทางกฎหมายอยู่แล้ว และเป็นกฎหมายที่มีโทษที่รุนแรงด้วย
ปัจจุบันการนำเสนอแนวคิดต่างๆของคนไทยก็เริ่มมีการพัฒนาขึ้นมาก เป็นแนวทางที่ดีมีประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งยั้งสามารถนำไปปฏิบัติได้ไม่ยาก แต่กลายเป็นว่าส่วนใหญ่ยังใช้อารมณ์นำ หลายครั้งนำพาข้อความที่ละเมิดสิทธิผู้อื่นไปใช้ด้วย และที่แย่กว่านั้นคือข้อความนั้นยังเป็นข้อความที่เป็นเท็จด้วย
ที่ผ่านมาผู้ที่เป็น Platform ในการเผยแพร่ รับผิดชอบอย่างมากก็แค่เพียงลบข้อความหรือลบวีดีโอออกไป ไม่ต้องมารับผิดชอบทางกฎหมาย ยิ่งหากเป็นสื่อที่ต้องการใช้ผู้คนที่ใช้งานเป็นเครื่องมือทางการเมืองแล้ว ก็อาจจะทำเป็นไม่สนใจปล่อยให้มีการเผยแพร่ต่อไป หลายครั้งทำให้ประเทศนั้นถึงกับล่มสลายไปเลยก็มี
Credit International Center on Nonviolent Conflict
ด้วยเหตุผลของแต่ละ Platform ที่มีระบบคัดกรองข้อความอยู่แล้ว ลองมีใครโพสต์โจมตีหรือไลฟ์โจมตีวัคซีนของอเมริกา หรือนำข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามอเมริการมลงในสื่อของเขา จะไม่มีทางโพสต์ลงได้เลย แล้วทำไมจึงปล่อยให้มีการการโพสต์ข้อความทำร้ายประเทศอื่นๆได้
จุดเปลี่ยนของโลกออนไลน์ครั้งสำคัญของโลกในครั้งนี้ มากจากกรณีที่ศาลสูงสุดของประเทศออสเตรเลีย ได้มีการพิพากษาให้ Cable News Network (CNN) ต้องรับผิดชอบต่อความเห็น (Comments) ต่างๆ ที่ก่อนหน้าที่ CNN ได้แจ้งไปยัง Facebook ให้ดำเนินการเรื่องนี้ แต่ทว่าตนเองกลับไม่ยอมดำเนินการ ทำให้ศาลสูงสุดของออสเตรเลียออกคำสั่งให้ทำการปิดกั้นการเข้าถึงของ CNN
Credit https://www.reuters.com/technology/cnn-quits-facebook-australia-citing-defamation-risk-2021-09-29/
เหตุการณ์ครั้งจึงกลายมาเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกออนไลน์ เจ้าของสื่อต่างๆไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้แล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีการนำเรื่องนี้ไปใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก
ใครที่จะโพสต์ข้อความหมื่นประมาทผู้อื่น ให้ร้ายผู้อื่นหรือใช้ข้อความเท็จในสื่อต่างๆ นอกจากจะถูกฟ้องร้องจากฝ่ายที่ได้รับความเสียหายแล้ว ยังชักศึกเข้าบ้านด้วยการนำพาเจ้าของสื่อหรือ Platform ต่างๆต้องรับผิดชอบตามไปด้วย สุดท้ายแล้วคนที่โพสต์จะต้องรับผิดชอบทั้ง 2 ฝั่งทั้งต้องรับผิดต่อผู้ที่เสียหาย และต้องถูกเจ้าของสื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายกลับด้วย
เรื่องนี้มีข้อดีมากกว่าเพราะจะลดความขัดแย้งในสังคมลงได้ การนำพาข้อมูลเข้าสื่อออนไลน์ ต้องเป็นข้อเท็จจริงเท่านั้น และต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นด้วย
สิ่งที่น่าแปลกใจคือประเทศที่ทำการออกกฎเกณฑ์นี้มา แทนที่จะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการใช้ผู้คนในประเทศเป็นเครื่องมือ มาทำร้ายคนในประเทศด้วยกัน โดยเฉพาะประเทศในโลกที่ 3 หรือแม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วอีกหลายประเทศ ที่เคยถูกการใช้เครื่องมือนี้โจมตี
Cartoon by Rebel Pepper
แต่กลายเป็นประเทศออสเตรเลีย ที่อยู่ในกลุ่ม 5 Eyes และ AUSKUS ที่ทั้งโลกก็รับทราบว่า เป็นลิ่วล้อของอเมริกัน ที่พี่เขาอย่างไรก็เออออไปตามนั้น เป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้
นั่นแสดงให้เห็นว่าการแสดงความเห็นโดยอิสระมีอยู่จริง แต่หากความเห็นนั้นละเมิดสิทธิผู้อื่น ผู้ที่ละเมิดก็ต้องรับผิดชอบต่อผลกรรมที่ตนเองได้กระทำไว้
ต่อไปหากยังมีคนที่ดำเนินการแสดงความเห็นที่ทำร้ายฝ่ายตรงข้าม จะด้วยถ้อยคำที่รุนแรงหรือข้อความที่เป็นเท็จ สามารถสันนิษฐานได้ 2 อย่างคือ คนนั้นต้องรวยมหาศาลที่มาผลาญเงินเล่น หรือคนๆนั้นกำลังจะกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว
“โลกเราจะสวยงามด้วยการมีน้ำใจไมตรีต่อกัน”
อ้างอิง
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
ท่านที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ที่สามารถขายแฟรนไชส์และมีรายได้จากการขยาย
สามารถสร้างรายได้ทั้งรายวันและรายสัปดาห์และรายเดือนได้
ติดต่อได้ที่
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
