[สรุป] Range Part 2/2 : การออกจาก Comfort Zone เพื่อเรียนรู้สายงานอื่น คือกุญแจสู่ความสำเร็จของเป็ด 🐤
ทุกคนคงรู้จักการก้าวออกจาก Comfort Zone กันอยู่แล้วนะครับ และ ก็น่าจะรู้ด้วยว่ามันคือหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยให้เราเก่ง และประสบความสำเร็จมากขึ้นถ้าหากเราออกไปแล้วสามารถทำได้ / เรียนรู้จากมันได้นั่นเอง
ทีนี้เคยสังเกตมั้ยครับว่า จริงๆแล้วการก้าวออกจาก Comfort Zone นั่นแหละที่มักจะทำให้เรามีความเป็นเป็ด (Generalist) มากขึ้น เพราะมันคือการออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ที่อยู่นอกเหนือความรู้/ความสามารถเ Set เดิมๆของเราอยู่
ดังนั้นวันนี้ผมจะมา”เล่า”ถึงเนื้อหาใน Part ที่สองของ RANGE ที่กล่าวถึงการออกไปค้นหาตัวเอง ออกไปทดลองสิ่งใหม่ๆ ที่ถึงแม้มันอาจจะดูไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของเรา แต่มันก็ทำให้เราเก่งขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครับ
มาเริ่มกันเลยครับผม
(ขอบคุณหนังสือดีๆจาก Asia Books ด้วยนะครับ มี ลิ้งค์สั่งซื้อหนังสือท้ายบทความเผื่อท่านไหนสนใจ)
*** คนที่ทำให้ Nintendo มีปรัชญาการแข่งขันแบบนี้คือ Gunpei Yokoi พนักงานรุ่นแรกๆที่ใช้แนวคิดนี้ในการสร้างของเล่นแบบง่ายๆ แต่เข้าถึงคนได้มากจนกลายมาเป็นจุดเด่นของ Nintendo ในปัจจุบัน
ทีนี้เรามาดูในส่วนของ Tools ที่ไม่ใช่สิ่งของกันบ้าง เราจะข้ามไปที่โปรเจคใหญ่ระดับโลกนั่นคือการยิงกระสวยอวกาศของ NASA ครับ
วัฒนธรรมองค์กรของ NASA ที่เต็มไปด้วยวิศวกร และโครงการระดับโลกที่ใช้ความละเอียดและแม่นยำทางเทคโนโลยีที่สูงมาก ทำให้ NASA นั้นตัดสินใจทุกอย่างโดยดูจาก Quantitative Analysis หรือหลักฐานที่แสดงออกมาเป็นตัวเลขเท่านั้น
นั่นหมายความว่าถ้าใครมีความเห็นในเชิง Qualitative ที่ไม่มีตัวเลขมาสนับสนุน NASA จะไม่ให้ความสำคัญเลย แม้มันจะชัดเจนมากแค่ไหนก็ตาม
หลังจากเหตุการณ์ Challenger นี้ก็ทำให้ NASA เริ่มให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative) มากขึ้น ซึ่งก็ช่วยให้โครงการต่างๆหลังจากนั้นเกิดข้อผิดพลาดที่น้อยลง
และนี่คือตัวอย่างของการทิ้งเครื่องมือ หรือ แนวทางปฏิบัติเดิม เพื่อลองวิธีใหม่ๆ ที่นอกจากจะทำให้เราเก่งและได้ปนะสบการณ์ลองผิดลองถูกที่มากขึ้นแล้ว อาจจะทำให้เราเจอเครื่องมือใหม่ที่ดีกว่าเดิมเหมือนอย่างที่ NASA ค้นพบก็เป็นได้ครับ
— — — — — — — — — — —
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็แทบไม่ต่างอะไรกับการก้าวออกจาก Comfort Zone เหมือนที่ผมเกริ่นไว้ในตอนต้นเลยครับ เพียงแต่ผู้เขียนได้บรรยายออกมาในหลากหลายสถานการณ์และหลากหลายมุมมอง
แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือการก้าวออกจาก Comfort Zone เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่รอบตัวให้ได้เยอะๆ และนั่นแหละที่จะทำให้เราเก่งขึ้น และมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่ไม่ก้าวออกมาทำอะไรใหม่ๆเลยนั่นเองครับ
====================
เป็นอันจบการเล่าหนังสือ Range โดยสมบูรณ์ครับ ใครยังไม่จุใจไปหามาอ่านกันต่อได้เลย โดยสามารถสั่งซื้อกับ Asiabooks ได้ที่ Link นี้เลยนะครับ