ช่วงเวลาที่จัดว่า “เลวร้าย” ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
ช่วงเวลาที่จัดว่าเลวร้ายในประวัติศาสตร์ คงมีหลายช่วงเวลา
แต่สำหรับปีค.ศ.536 (พ.ศ.1079) คือช่วงเวลาที่นักประวัติศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์หลายคนยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่า “เลวร้าย” ที่สุด
แต่ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ลองหาคำตอบจากบทความนี้ครับ
ในปีค.ศ.536 (พ.ศ.1079) พื้นที่จำนวนมากในโลกตกอยู่ในความมืดเป็นเวลานานกว่า 18 เดือน เนื่องจากได้เกิดหมอกปริศนาปกคลุมไปทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง และบางส่วนของเอเชีย
เมฆหมอกได้บดบังแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน ทำให้อุณหภูมิโลกลดต่ำลง การเพาะปลูกก็ไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม เกิดความขาดแคลนอาหารไปทั่ว ทำให้ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต
อาจเรียกได้ว่าโลกเริ่มเข้าสู่ยุคมืดอย่างแท้จริง
ในภายหลัง นักวิจัยได้ค้นพบสาเหตุหลักของการเกิดหมอกนี้แล้ว โดยพบว่าในปีค.ศ.536 (พ.ศ.1079) ได้เกิดภูเขาไฟระเบิดในไอซ์แลนด์ ทำให้ฝุ่นควันปลิวว่อนกระจายข้ามไปทางเหนือ และเกิดเป็นหมอก
สำหรับชีวิตของผู้คนในช่วงเวลา 18 เดือนที่เต็มไปด้วยเมฆหมอกนั้น มีบันทึกว่า
“ทั้งปีนั้น ดวงอาทิตย์ส่องแสงโดยปราศจากแสงสว่าง ดูราวกับดวงจันทร์”
ในยุค 90 (พ.ศ.2533-2542) นักวิจัยจากหลายแหล่งได้ตรวจสอบต้นไม้ในไอร์แลนด์ และก็พบว่าในปีค.ศ.536 (พ.ศ.1079) น่าจะต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น
จากการศึกษาและค้นคว้า ทำให้สรุปได้ว่าในปีค.ศ.536 (พ.ศ.1079) อุณหภูมิในฤดูร้อนของยุโรปและเอเชียอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ในประเทศจีนนั้น มีหิมะตกในฤดูร้อน
สาเหตุของความผิดเพี้ยนทั้งหมดนี้ ก็เนื่องจากฝุ่นควันจากภูเขาไฟได้บดบังแสงอาทิตย์จนหมด
ผลกระทบจากการระเบิดของภูเขาไฟในปีค.ศ.536 (พ.ศ.1079) ได้สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว หากแต่ยังถูกซ้ำเติมด้วยการระเบิดของภูเขาไฟอีกครั้งในปีค.ศ.540 (พ.ศ.1083) และค.ศ.547 (พ.ศ.1090) และใช้เวลานานกว่าโลกจะเริ่มฟื้นฟูกลับมาเป็นดังเดิม
ช่วงเวลาแห่งความหนาวเหน็บและหิวโหยในยุโรปซึ่งเป็นผลจากการระเบิดของภูเขาไฟดังกล่าว ทำให้ภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน และรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อเกิดภาวะการระบาดของกาฬโรคครั้งแรกในปีค.ศ.541 (พ.ศ.1084)
การระบาดของกาฬโรคครั้งนี้ได้คร่าชีวิตประชากรในจักรวรรดิไบแซนไทน์ หรืออาณาจักรโรมันตะวันออก ไประหว่าง 1 ใน 3 ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งดินแดน
บางทียุคปัจจุบันอาจจะไม่ใช่ยุคที่เลวร้ายที่สุดก็เป็นได้
- 17
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
