Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
•
ติดตาม
12 ต.ค. 2021 เวลา 21:30 • ปรัชญา
“มีสุขก็กลายเป็นทุกข์ได้ถ้าไม่มีธรรมะ”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๔
เวลาเรามาเราก็มาตัวเปล่าๆ เดี๋ยวถึงเวลาเราไป เราก็ไปตัวเปล่าๆ เราไม่ได้เอาอะไรไปเลย ร่างกายนี้เราก็เอาไปไม่ได้ ทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองของเรา เราก็เอาไปไม่ได้ ญาติพี่น้อง สามีภรรยา บุตรธิดา ก็เอาไปไม่ได้ แล้วไปถือว่าเป็นของเราทำไมกัน ถือไปให้ทุกข์ไปเปล่าๆ ทำไมไม่มาลองถือว่าไม่ได้เป็นของเราดูบ้าง ว่าจะรู้สึกยังไง จะรู้สึกเบา จะรู้สึกสบาย แต่ทำไม่ได้เพราะอะไร เพราะต้องมีสิ่งเหล่านี้ มาให้ความสุขกับเรานั่นเอง ถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว เราจะเหมือนขาดลมหายใจ
ร่างกายเราไม่มีลมหายใจดูสัก ๓ นาทีดู ตายไหม ลองลงไปดำน้ำดูสักพักหนึ่ง ดำได้ไม่นานเดี๋ยวก็ต้องโผล่ขึ้นมา ต้องมามีลมหายใจ เราก็เหมือนกัน เราต้องมีร่างกายเพราะเราใช้ร่างกายเป็นเครื่องมือ หาสิ่งต่างๆ มาให้ความสุขกับเรานั่นเอง เราเลยจำเป็นที่จะต้องมีร่างกาย พอมีร่างกายแล้ว เราก็จะได้ไปมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อไป มีคนนั้นมีคนนี้ต่อไป มาให้ความสุขกับเรา แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่เราไปหามาให้ความสุขกับเรา มันก็มีความทุกข์ติดมาด้วย เป็นเหมือนปลาที่มีก้างติดมาด้วย เวลากินปลาแบบไม่ระมัดระวัง เดี๋ยวก็ถูกก้างทิ่มปากเอา นี่ก็เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เราได้มาแล้วเดี๋ยวมันจะต้องให้ความทุกข์กับเรา เราจะต้องไม่สบายใจไปกับมัน
นี่แหละคือความทุกข์ของพวกเรา เกิดจากความหลงของพวกเรา ความหลงก็คือการไม่มีปัญญาความรู้ทางธรรมนี่เอง ทำให้เราหลงเห็นผิดเป็นชอบไป เห็นของที่ไม่ใช่เป็นของเราว่าเป็นของเรา เห็นของที่จะให้ความทุกข์กับเรา ว่าให้ความสุขกับเรา เห็นของชั่วคราวเป็นของถาวรไป นี่แหละคือการขาดความรู้ทางธรรม เราจึงต้องมาหาความรู้ทางธรรม จากพระพุทธเจ้า หรือจากพระธรรมคำสั่งคำสอน ที่มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก หรือจากพระอริยสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าผู้มีปัญญามีความรู้ทางธรรม ที่จะสอนที่จะบอกให้พวกเราไม่ให้ไปถือสิ่งต่างๆ ว่าเป็นของเรา และการที่จะไม่ถือว่าเป็นของเราก็คือ เราต้องไม่มีมัน ไม่ต้องใช้มันไม่ต้องไปอาศัยมัน
ถ้าเราไปมีมัน ไปอาศัยมันนี่แสดงว่าเราไปถือว่ามันเป็นของเราแล้ว แล้วเราจะทำอย่างไรเราถึงจะทำให้เราไม่ต้องไปมีสิ่งต่างๆ ไปถือสิ่งต่างๆ มาเป็นของเรา เราก็ต้องมีวิธีหาความสุขแบบใหม่ วิธีการหาความสุขของเราในตอนนี้ เราต้องมีความสุขผ่านการมีสิ่งต่างๆ ต้องมีลาภมีเงินมีทอง ทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองเรียกว่าลาภ มีลาภแล้วก็อยากจะมียศ อยากจะมีตำแหน่ง อยากจะมีเกียรติยศ มียศแล้วมีอำนาจ สามารถใช้อำนาจของตนกว้านเอาสิ่งต่างๆ ที่อยากได้ มาเป็นของตน ถ้าไม่มียศมีตำแหน่งก็กว้านไม่ได้ ลำบากต้องหาเอง
คนจึงมุ่งไปหายศกันก่อน มุ่งไปหาตำแหน่งกันก่อน ตอนต้นก็เอาแค่ระดับใกล้ตัว ถ้าอยู่หมู่บ้านก็ขอเป็นผู้ใหญ่บ้านก่อน พอได้ผู้ใหญ่บ้านก็เอากำนันต่อ จากกำนันก็ไปเป็น อ.บ.จ. สมาชิก อ.บ.จ. อ.บ.ต. ว่าไป เลื่อนขั้นไปเรื่อยๆ จนขั้นต่อไปก็ไปเป็น ส.ส. พอได้ ส.ส. ก็ไปเป็นรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีแล้ว ทีนี้ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ทีนี้มียศมีตำแหน่งแล้ว ทีนี้ก็กว้านเอาได้แล้วอยากจะได้อะไร เซ็นชื่อแก็กเดียวเท่านั้นเอง กี่ล้านล่ะ ต้องการกี่ล้าน ขอลายเซ็นหน่อย ลายเซ็นกำลังหอมตอนนี้ ใครเป็นนายกนี่ลายเซ็นหอม เซ็นแก๊กเดียวผ่านหมดเลย ต้องการทำอะไรไฟเขียวตลอดทุกด่าน แต่ถ้าไม่มีลายเซ็นก็ติดไฟแดงไปทุกด่าน
นี่คือทำไมถึงต้องมียศกัน มีตำแหน่งกัน มีอำนาจกัน เพราะจะได้กว้านเอาความสุขต่างๆ เข้าใส่ตัวเองกับครอบครัวของตนเอง ให้ภรรยาให้สามี ให้ลูกให้หลาน ให้พี่ให้น้อง ให้บริษัทบริวาร อันนี้เป็นเรื่องของการไปหาสิ่งต่างๆ มาให้ความสุขกับตน พอมีตำแหน่งมียศ ทรัพย์ก็หาง่าย ลาภก็หาง่ายขึ้น เซ็นชื่อปั๊บหนึ่งเงินก็เข้ามาแล้ว แล้วก็รางวัลก็มาเยอะแยะเลย เดี๋ยวคนนั้นก็มอบรางวัลให้นายก คนนี้ก็มอบรางวัลให้นายก เห็นไม๊ สร้างสะพานยังจะตั้งชื่อให้นายก เป็นสะพานของนายก สรรเสริญ เขาเรียกว่าสรรเสริญ
ใครได้ยินสรรเสริญก็ชอบ ใครชมเรานี่มีความสุขขึ้นมาทันที จะสวยไม่สวยไม่สำคัญ ใครลองบอกว่าคุณสวยนี่ ยิ้มแป้นขึ้นมาก่อนแล้ว ถ้าใครด่านี้หน้าบึ้ง บอกหน้าเหมือนควาย แค่นี้ก็หน้าบึ้งขึ้นมา ชอบสรรเสริญ ใครยกย่องว่าสวยว่างาม ว่าหล่อน่ารักน่าดูน่าชมนี้ ก็เกิดความสุขขึ้นมา แต่สิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่มีลูกระเบิดอยู่ในตัวของมันเอง ที่มันจะระเบิดตูมขึ้นมาได้ทุกเวลา ระเบิดแบบไหน ก็ระเบิดแบบหายไปหมดไปนั่นเอง
มีลาภได้ก็เสื่อมลาภ มียศก็เสื่อมยศ มีสรรเสริญก็มีนินทา มีสุขก็กลายเป็นทุกข์ไปได้ แต่ถ้าไม่มีธรรมะ ไม่มีปัญญาคอยสอนใจก็จะลืมกัน รู้ว่าทุกอย่างมีวันเสื่อมมีวันหมด แต่พอไม่คิดถึงมัน ไปคิดว่ามันไม่เสื่อมมันไม่หมด มันก็เลยลืมไปว่าความจริงเป็นอะไรเสียแล้ว กลับไปคิดตรงกันข้ามกับความเป็นจริง คิดว่าได้อะไรมาแล้วจะต้องอยู่กับเราไปนานๆ เป็นของเราไปนานๆ ไม่จากเราไป พอเกิดเหตุการณ์ระเบิดตูมขึ้นมา มันเสื่อมมันจากเราไป ทีนี้ทุกข์ก็กรูกันเข้ามาแล้วสิ ความทุกข์ใจ ความวุ่นวายใจ ความเสียอกเสียใจ เศร้าโศกเสียใจอะไรต่างๆ ไหลเข้ามาแบบน้ำฝนนี่ ฝนตก
ตอนนี้ฝนไม่ตกก็คิดว่าฝนจะไม่มีวันตก นี่ปีนี้ฝนทิ้งช่วงตั้งหลายเดือนแล้ว คนอาจจะลืมไปว่าเรามีฤดูฝนก็ได้ เดี๋ยววันดีคืนดีฝนก็ตกลงมา คนที่ได้ลาภยศสรรเสริญสุขอยู่เรื่อยๆ ก็คิดว่าจะมีแต่ได้อย่างเดียว ตอนนี้เศรษฐกิจของบางประเทศกำลังขึ้น หุ้นขึ้นเอาขึ้นเอา คนก็ซื้อหุ้นกัน คิดว่ามันจะขึ้นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวรอดูเวลามันร่วงดู ดูเวลาหุ้นมันตกดู เดี๋ยวจะมีคนฆ่าตัวตายกันเยอะแยะ นี่แหละเพราะลืมกัน ลืมว่ามีขึ้นก็จะต้องมีลง ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องมีขึ้นมีลง มีเจริญก็ต้องมีเสื่อม มีมาก็ต้องมีไป และมาตัวปล่าๆ ก็ต้องไปตัวเปล่าๆ นี่ไม่คิดตรงนี้
นี่พวกมหาเศรษฐีอันดับ ๑ ของโลกนี้ ไม่เคยคิดว่าตัวเองมามาตัวเปล่าๆ เดี๋ยวเวลาไปก็ไปตัวเปล่าๆ ทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองหามาได้ กลายเป็นของคนอื่นไปหมด เอาไปไม่ได้แม้แต่บาทเดียว นี่คือความหลงความลืม ความจริงทุกคนก็รู้ว่าเกิดมาแล้วต้องตายกัน แต่ลืมกัน ลืมกันเพราะไม่คิดกันนั่นเอง มัวแต่ไปคิดเรื่องอื่น คิดเรื่องหานู่นหานี่ แล้วพอได้ก็คิดว่าจะหาไปได้เรื่อยๆ แล้วพอมีก็คิดว่ามันจะมีอยู่ไปกับเราเรื่อยๆ มันก็เลยลืมคิดว่า เดี๋ยวมันจะต้องมีวันที่มันจะไม่มี วันที่เราจะต้องจากโลกนี้ไป นี่คือการไม่มีความรู้ทางธรรม
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓
#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
1
1
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย