13 ต.ค. 2021 เวลา 21:55 • ปรัชญา
“ความเชื่อของพระอริยบุคคล”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๔
ความเชื่อที่ยังไม่ได้เกิดจากการเห็นด้วยการปฏิบัตินี้ ก็อาจจะเปลี่ยนได้ อาจจะลืมได้ หรือถ้าอยู่ในเหตุการณ์ที่ถูกอะไรมาบีบบังคับ ก็อาจจะไม่เชื่อขึ้นมาก็ได้ เปลี่ยนความเชื่อก็ได้ เช่นถ้ายังต้องเลี้ยงดูร่างกาย รักษาร่างกายอยู่ ถึงแม้ถึงเวลาจะต้องทำบาปก็อาจจะยอมทำบาปก็ได้ เพราะยังไม่เห็นจริงๆ ว่าเราไม่ได้เป็นร่างกาย เพราะยังคิดว่าเรายังเป็นร่างกายอยู่ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องพยายามต่อสู้ เพื่อรักษาชีวิตของร่างกายไว้อย่างเต็มที่ ถ้ายังต้องทำบาปก็ต้องทำบาปกัน เรายังมีการป้องกันตัวของเราอยู่ ถ้าเรายังคิดว่าร่างกายนี้เป็นตัวเราของเรา
แต่ถ้าเรามีดวงตาเห็นธรรมแล้วนี้ เราจะไม่มาป้องกันร่างกาย เราจะป้องกันใจของเรา ภัยของใจก็คือการกระทำบาปนี่ การไปทำบาปเพื่อป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายนี้ จะไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรมแล้ว พระอริยบุคคลทุกระดับ ท่านจะไม่ทำบาปโดยเด็ดขาด การที่ท่านไม่ทำบาปโดยเด็ดขาดนี้ ก็เลยทำให้ท่านปิดประตูอบายได้ ท่านตายนี้ท่านจะไม่มีวันไปเกิดในอบายกันแล้ว
พระอริยบุคคล ถ้ายังต้องกลับมาเกิด ก็จะกลับมาเกิดในภพของมนุษย์หรือเทวดา เช่น พระโสดาบันนี้ยังไม่ได้หลุดออกจากการเวียนว่ายตายเกิด ยังต้องกลับมาเกิดอีกไม่เกิน ๗ ชาติ เป็นอย่างมาก แล้วภพชาติที่จะมาเกิดก็จะเกิดอยู่ในภพของมนุษย์หรือเทวดา แต่จะไม่ไปเกิดในภพของอบาย แล้วถ้าได้ขี้นที่ ๒ คือขั้นพระสกิทาคามี ก็จะลดการกลับมาเกิดในภพของมนุษย์หรือเทวดาลดลงเหลือ ๑ ชาติ
แล้วพอได้ขั้นที่ ๓ นี้ ท่านพระอนาคามีนี้ ท่านจะตัดภพของมนุษย์และเทวดาออกไปได้ จะไม่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา แต่จะกลับไปเกิดเป็นพรหม ไปอยู่สวรรค์ชั้นพรหม จนกว่าจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ ก็จะออกจากสวรรค์ชั้นพรหมเข้าสู่พระนิพพานไป จะไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป นี่คือผลของผู้ที่มีความเชื่อในคำสั่งคำสอน ในสัมมาทิฏฐิของพระพุทธเจ้า เชื่อแล้วนำเอาไปปฏิบัติด้วย ถ้าเชื่อแล้วยังไม่ปฏิบัตินี้ มันจะไม่สามารถมีดวงตาเห็นธรรมได้
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓
#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา