14 ต.ค. 2021 เวลา 23:37 • หุ้น & เศรษฐกิจ
อัพเดท AMATA หุ้นนิคมฯสุดแกร่งที่กำลังเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤต
หลังจากที่ยอดการฉีดวัคซีนภายในประเทศสูงขึ้นก็เห็นได้ชัดเจนเลยนะครับว่าความตึงเครียดของ Covid-19 ก็เริ่มลดลงมามากพอสมควรแล้ว
ทำให้ช่วงนี้หุ้นที่เคยได้รับผลกระทบจากโควิดจึงเริ่มกลับมาเป็นที่สนใจของตลาดกันอีกครั้งกับธีม Reopening หรือการเปิดเมืองที่เพิ่งจะมีข่าวออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อน
และแน่นอนว่า AMATA ก็คือหุ้นในหุ้นธีม Reopening อีกหนึ่งตัวที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งแถมยังน่าจับตามองในช่วงเปิดเมือง ส่วนธุรกิจของ AMATA จะเป็นยังไง ? และอะไรทำให้หุ้นตัวนี้เริ่มกลับมาน่าสนใจ ??
AMATA หรือบมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน คือหุ้นที่ถูกรู้จักกันในนามของบริษัทมหาชนยักษ์ใหญ่ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุน & พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เกี่ยวข้องกับนิคมอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร
ซึ่งที่บอกว่าครบวงจรนั่นก็เพราะว่าธุรกิจของ AMATA ไม่ได้มีแต่เพียงการขายที่ดินอย่างเดียวแต่รวมไปถึงบริการต่างๆที่อยู่ภายในนิคมฯไม่ว่าจะเป็นธุรกิจน้ำดี & น้ำเสีย, ธุรกิจโรงไฟฟ้า, ธุรกิจแก๊ส, ธุรกิจขยะ, ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย & คลังสินค้า, ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งโรงเรียน
โดยจะสามารถแบ่งกลุ่มธุรกิจออกได้เป็น 5 กลุ่มคือ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (9 บริษัทย่อย), กลุ่ม Utility (14 บริษัทย่อย), กลุ่ม Service (11 บริษัทย่อย) และกลุ่ม Holding company (5 บริษัทย่อย)
🇹🇭ประเทศไทย
🏭 AMATA CITY ชลบุรี
นักลงทุนกลุ่มหลัก = ญี่ปุ่น 62% ไทย 20%
เป็นนิคมหลักของบริษัทที่มีโรงงานตั้งอยู่กว่า 692 โรงงานและจำนวนคนทำงานมากกว่า 200,000 คน บนพื้นที่ 27,000 ไร่ กับราคาขายปัจจุบันเฉลี่ยที่ไร่ละราวๆสิบล้านบาท
1
🏭 AMATA CITY ระยอง
นักลงทุนกลุ่มหลัก = จีน 36% ญี่ปุ่น 29%
มีโรงงานตั้งอยู่ 356 โรงงานและจำนวนคนทำงานอีกมากกว่า 70,000 คน บนพื้นที่ 16,895 ไร่
🇻🇳ประเทศเวียดนาม
🏭 AMATA CITY Bien Hoa
นักลงทุนกลุ่มหลัก = ญี่ปุ่น 40% ไต้หวัน 12%
เป็นนิคมอุตสาหกรรมหลักที่ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 1994 ทำให้ปัจจุบันมีความเจริญกระจายอยู่เต็มพื้นที่แล้วเพราะมีทั้งสนามบิน และมอเตอร์เวย์เป็นต้น มีโรงงานทั้งหมดอยู่ 171 แห่ง บนพื้นที่ 4,375 ไร่
🏭 AMATA CITY Long Thanh
เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้ๆกับ Bien Hoa เพราะถูกขยายต่อมาและก็พัฒนามาไกลแล้วบนพื้นที่ 4,462 ไร่ ซึ่งราคาขายน่าจะสูงกว่าที่ Bien Hoa เป็นเท่าตัวและคาดว่าจะเริ่มขายได้ภายในปลายปีนี้
🏭 AMATA CITY Ha Long
เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ตอนบนของเวียดนามดังนั้นจึงมีการลงทุนในส่วนของสนามบิน ท่าเรือ และสิ่งต่างๆเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตบนพื้นที่กว่า 5,056 ไร่ ซึ่งเป็นแห่งที่น่าจะได้รับผลบวกจากเรื่องการย้ายฐานผลิตออกจากจีน
ซึ่งถ้าดูผลงานในส่วนของ “ธุรกิจขายที่ดิน” ก็จะพบว่า AMATA ขายที่ดินได้เฉลี่ยปีละประมาณ 961 ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา โดยขายได้มากที่สุดในปี 2012 เป็นจำนวนเกือบๆ 3,500 ไร่ จากผลบวกของการย้ายฐานผลิตของโรงงานไทยเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่
และถ้าหากมาดูยอดขายปัจจุบันก็อาจจะเห็นว่าลดลงมามากจากเมื่อก่อน แต่อย่าลืมนะครับว่า “ราคา” ของที่ดินเหล่านั้นก็เพิ่มขึ้นตามมาด้วย โดยหากนับราคาเฉลี่ยล่าสุดของที่ดินใน AMATA CITY ชลบุรีก็จะพบว่าเพิ่มขึ้นมาราวๆ 3 เท่าตัว และใน AMATA CITY ระยองอีกราวๆหนึ่งเท่าตัว
💰งบการเงินของ HMPRO
1
ปี 2561 รายได้ 4,478.81 ล้านบาท
กำไร 1,018.22 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 6,112.70 ล้านบาท
กำไร 1,742.06 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 4,350.40 ล้านบาท
กำไร 1,103.44 ล้านบาท
ไตรมาส 2 ปี 2564 รายได้ 1,860.92 ล้านบาท
กำไร 432.80 ล้านบาท
สำหรับอนาคต AMATA ก็กำลังพัฒนา AMATA CITY ที่ประเทศเวียดนาม ประเทศพม่า และประเทศลาวฝห้ก้าวหน้า& เจริญขึ้นเหมือนๆกับที่เคยประสบความสำเร็จในไทยมาแล้วนั่นเอง
1
ส่วนนิคมฯในประเทศ AMATA ก็จะพัฒนา & ต่อยอดธุรกิจที่จะเข้ามาสร้าง Recurring income อย่างต่อเนื่องอย่างเช่นโรงไฟฟ้า, แก๊ส, Fiber optic รวมไปถึงสนามกอล์ฟ
ซึ่งถ้าดูจากแนวโน้มในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ เครื่องยนต์หลักที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนผลประกอบการให้เติบโตไปได้นั้นก็คงจะเป็นการขายที่ดินของในเวียดนามที่กำลังจะกลับมา หลังจากที่เคยขาดหายไปเมื่อปี 2019 และ 2020
และคาดว่าเมื่อสถานการณ์ของ Covid-19 ภายในประเทศเบาบางลงไปการขายที่ดินภายในประเทศก็น่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ จากการเปิดประเทศที่จะช่วยให้เหล่านักลงทุนเดินทางเข้าไทยมาดูที่ดินได้
เนื่องจากว่าที่ดินนั้นเป็นหมวดธุรกิจที่มีอัตรากำไรอยู่สูงถึง 50% - 60% แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงและระยะเวลาในการถือครอง & พัฒนามาด้วยเช่นกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญเรื่องแรกที่ต้องเฝ้าดูสำหรับ AMATA ก็คือธุรกิจที่ดินนั่นเอง
นอกจากนี้สิ่งที่ควรเฝ้าดูเรื่องอื่นๆของหุ้นตัวนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของภาพรวมการผลิต & กำลังการผลิตของโรงงานในนิคมฯ, ยอดรวมการขอรับ BOI ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นฐานลูกค้า, เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ และแนวโน้ม GDP ของโลก & ประเทศไทย
ส่วนปัจจัยระยะสั้นที่ควรติดตามก็คือเรื่องของการเปิดประเทศ, ยอดขายที่ดิน, โปรเจ็ค & การลงทุนต่างๆของบริษัทฯและสุดท้ายคือการเปลี่ยนแปลงของ Balance sheet (งบดุล)
คงจะมีประมาณนี้ครับข้อมูลเกี่ยวกับ AMATA ที่เราอยากจะเอามานำเสนอทุกคน ยังไงก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและตัดสินใจให้ละเอียดก่อนการลงทุนในทุกๆครั้งด้วยนะครับ
สำหรับวันนี้ลาไปก่อน
สวัสดีครับ...
เพิ่มทักษะปั้นพอร์ทโตระเบิดรุ่นที่ 2
คอร์สออนไลน์ที่จะพาเปิดโลกการลงทุนแนว VI Hybrid Technical
ใครสนใจทักได้ทาง inbox ครับ
*รับจำนวนจำกัด
**ราคาพิเศษกำลังจะหมดเขต
***รุ่นสุดท้ายของปีทอง
หรือคลิ๊ก
โฆษณา