16 ต.ค. 2021 เวลา 15:37 • ครอบครัว & เด็ก
"เมตตา"...
ความพรั่งพร้อมบริบูรณ์ของครอบครัว
หุยขอบคุณจักรวาลเสมอที่เมตตา
มอบครอบครัวที่แสนดีมาให้หุย
.
ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีที่หุยได้เผยตัวตนใน Social
เพื่อนๆหลายๆครอบครัวได้ติดตามเฝ้าดู
การเติบโต ของหนุ่มน้อยทั้งสอง
.
เพราะการเลี้ยงดูลูกของหุยนั้น
มีหลายๆอย่างที่อาจจะไม่ตรงกับใคร
ทั้งในความเชื่อด้านการศึกษา
ทั้งในความเชื่อเรื่องการพัฒนาลูก
.
การเลี้ยงดูลูก และครอบครัวนั้น ต้องไปพร้อมๆกันค่ะ
เราไม่อาจที่จะเลี้ยงลูกให้มีความสุข...สบาย
โดยที่ตัวเรา และสามี หรือคนในครอบครัว มีความทุกข์
การพัฒนาลูก ไม่ใช่แค่การใช้เงินซื้อความสุขและความสำเร็จ
แต่ มันคือ การใช้ ความรัก ใช้หัวใจในการบ่มเพราะ
.
เงินทอง อุปกรณ์ ความสะดวก คือ ปุ๋ยที่ทำให้เติบโต
ขาดปุ๋ย..พืชก็อาจจะไม่ตาย
แต่อาจจะไม่งดงาม ไม่เติบโตเท่าที่ควร
แต่
.
ความรัก ความสนุกสนาน ความเบิกบานในครอบครัว
มันคือ น้ำ
ขาดน้ำ...พืชจะตายค่ะ
.
ความรัก ความสนุกสนาน เบิกบาน
คือน้ำหล่อเลี้ยงทุกชีวิตให้ร่มเย็น เป็นสุข
ความรักของสามี และภรรยาที่มีจิตเมตตาต่อกัน
ทำให้ความสุข ร่มเย็น เบ่งบานในบ้าน
.
หลายๆครอบครัว ที่ขาดความเบิกบาน
ส่วนมาก มาจากความขาดแคลน
หรือ ความรู้สึกที่ขาดแคลน
.
คนที่รู้สึกขาดแคลน จะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
กลัวมีไม่พอ กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
คนที่มีความกลัว เหมือนคนที่รู้สึกจะจมน้ำ ใกล้ขาดอากาศ
จะตะเกียกตะกาย ไขว่คว้า หาทางรอด
.
คนที่หวาดกลัว คนที่ขาดแคลน
จึงเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว
อยากได้ อยากมี อยากเป็น
และตักตวง แสวงหาใส่ตัว
จนไม่คิดถึงคนรอบข้าง
.
จะเรียกร้องข้าวของ
เรียกร้องเงินทอง
เรียกร้องความสนใจ
เรียกร้องการตามใจ
.
เมื่อไม่ได้รับ ก็จะตีความว่า
ไม่รัก ไม่สนใจ หรืออีกฝ่ายเปลี่ยนไป
และเกิดความหวาดระแวง
เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ
.
และจะเกิดปัญหาอื่นๆตามมา
เช่น การนอกใจ. การทะเลาะเบาะแว้ง
การจับผิด การปกปิด ปิดบัง ไม่สื่อสาร
.
และ ความรัก ความเมตตา ความเข้าใจ
ก็หายไป...จากบ้าน
.
หุยและสามี ตระหนักรับรู้ ถึงสิ่งเหล่านี้
การสร้างครอบครัวของเราสองคน
จึง มาจากจุดยืนของการดูแลกันและกัน
และ การเมตตาต่อกันมากที่สุด
.
เราใส่ใจในความรู้สึกของกันและกัน
เราเมตตาต่อกัน
เราคิดถึงอีกฝ่ายนึงก่อนเสมอ
เราช่วยเหลือกัน
.
"น้ำ" ในครอบครัวของเราจึงไม่เคยเหือดแห้ง
เพราะเรามีแต่ช่วยกันเติมเต็ม
ตักใช้ เท่าที่จำเป็น
.
เมือมามีลูก เด็กสองคนเกิดมาบนพื้นที่ที่สมบูรณ์ พรั่งพร้อม
มีสิ่งแวดล้อมในบ้านที่เหมาะสม
มีทรัพยากรที่พรั่งพร้อม
และเค้าก็เป็นเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแกร่ง
.
ในช่วงปฐมวัย ถึง ประถม
เราเลี้ยงดู อย่างใกล้ชิด
เราศึกษา การศึกษาและการพัฒนามนุษย์ทั่วโลก
เราเลือกที่จะพัฒนาลูกในแบบที่เราคิดว่า
คนต่อไปในอนาคตต้องเจอแบบนี้
แล้วลูกของเรา จะอยู่รอดอย่างมีความสุขได้อย่างไร
.
ช่วงแรก คือ การลงมือ ปลูก รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย
รอวันที่ลูกเติบโต แข็งแรงทั้งร่างกาย
รอวันที่เหล่า Mindset ที่ปลูกได้งออกมาเป็นต้นใหญ่
รอวันที่เหล่าทักษะ เบื้องต้น ได้แข็งแรง
.
ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่เราย้ายต้นของลูก
ไปปลูกในที่ที่ เหมาะสมกับพันธุ์ของเค้า
มีคนดูแล สร้างทักษะ และ Mindset ต่อยอดไป
ซึ่งเด็กมัธยมทุกคนจะเจอแบบนี้
.
แต่ด้วยความที่ลูกๆของเรา ถูกฝึกปรือมาอย่างดี
มีการเตรียมตัวมาตั้งแต่ ประถม
ทำให้แข็งแกร่งพอที่จะไปต่อได้ โดยที่เราไม่ต้องห่วง
จึงทำให้หุยและสามี
ไม่ต้องห่วงมากนักในปัญหาเด็กวัยรุ่น
เพราะเราโตไปพร้อมลูก
เราก็วัยรุ่นเหมือนลูกค่ะ
.
เล่าเรื่องนี เพื่อให้เพื่อนๆผปค. ที่ติดตาม
ได้รับทราบว่า
การที่เราเลี้ยงดูลูกมาแบบไหนในวัยปฐมวัย หรือประถม
มันจะส่งผลตอนนี้
.
ถ้าเราไม่ใส่ใจลูก หรือ เลี้ยงลูกด้วยอารมณ์
จะด้วยการตามใจมาก หรือ เลี้ยงด้วยความรุนแรง
มันจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ และพฤติกรรมของลูกตอนนี้ค่ะ
และถ้าไม่แก้ไขที่ตัวเรา
มันจะต่อเนื่องไปจนโต
และมีความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานไปจนตาย
เพราะเราสร้างเค้ามาแบบนี้
จะได้ไม่ต้องโทษใคร
.
ใครได้อ่านบทความนี้
มันไม่ได้สายเกินไป ที่เรา
จะแก้ไข ปรับปรุงวิธีเลี้ยงดู
และการสร้างความรักความเมตตาในบ้าน
.
ลองกลับไปอ่านข้างบน
แล้วดูว่า ปัญหาของเรา มาจากความกลัวอะไร
แก้ตรงนั้นค่ะ
ให้กำลังใจ
โค้ชหุย รัตนา ธนสารกิจ
Master Business Coach for Post Pandemic
แม่เหล็กพลังบวก
16 ตุลาคม 2564
โฆษณา