20 ต.ค. 2021 เวลา 03:00 • สุขภาพ
รู้จัก Selfitis โรคเสพติดการถ่ายเซลฟี่ และปัญหาสุขภาพจิตที่ตามมา
Selfitis (เซลฟิทิส) เป็นคำศัพท์ใหม่ หมายถึงคนที่เสพติดการถ่ายเซลฟี่หรือถ่ายรูปตัวเอง แม้จะฟังดูเป็นเรื่องขำขัน แต่การถ่ายเซลฟี่ตัวเองมาก ๆ อาจจะสะท้อนหรือส่งผลต่อปัญหาสุขภาพจิตอยู่ก็ได้ครับ
ผลการศึกษาพบว่า Selfitis อาจเชื่อมโยงกับโรคคลั่งไคล้ตัวเองหรือโรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder) โดยคนที่ถ่ายเซลฟี่มาก ๆ อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นคนที่ชอบเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง รู้สึกว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล มองว่าตัวเองสำคัญที่สุด และต้องการคำสรรเสริญเยินยอจากคนอื่น ๆ
ในบางราย การถ่ายเซลฟี่มาก ๆ มุมนั้นก็ไม่ได้ มุมนี้ก็ไม่ดี อาจสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง มี Self-esteem หรือการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ หรือการเป็นคนที่เสพติดความสมบูรณ์แบบ (Perfectionist) มากเกินไป
นอกจากนี้ ผลการศึกษาด้านความต้องการทำศัลยกรรมที่ตีพิมพ์ลง JAMA Facial Plastic Surgery ยังพบว่าการเสพติดการถ่ายเซลฟี่ส่งผลให้คนมาทำศัลยกรรมกันมากขึ้น นั่นคือเมื่อเริ่มถ่ายรูปตัวเองมาก ๆ ก็เริ่มสังเกตเห็นจุกบกพร่องของตัวเอง จนเกิดเป็นความไม่พอใจและต้องการทำศัลยกรรมเปลี่ยนแปลง
🔴 แค่ไหนถึงเรียกว่าเสพติดการถ่ายเซลฟี่
Ramani Durvasula ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจาก California State University บอกว่าถ้าเราถ่ายรูปเซลฟี่เกือบทุกวัน และแต่ละครั้งที่ถ่าย ถ่ายหลายช็อต หรือรูปในมือถือ ไอจี เฟซบุ๊ค มีแต่รูปเซลฟี่ ก็ให้พึงระวังไว้เลยว่าเราอาจจะกำลังเป็นโรคเสพติดการถ่ายเซลฟี่อยู่ก็ได้ครับ
โดยวิธีการแก้ไขที่ง่ายที่สุดคือ ทุกครั้งที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ หรือแต่งรูปเซลฟี่ของตัวเอง หรือโพสท์รูปเซลฟี่ลงบนโซเชียลมีเดีย ให้ลองถามตัวเองทุกครั้งว่าเราทำไปทำไม ทำเพื่ออะไร ซึ่งคำถามเหล่านี้จะช่วยทำให้เราฉุกคิดและได้ทบทวนตัวเองมากขึ้นครับ หรืออย่าน้อย ๆ ก็อาจจะทำให้เราหมดอารมณ์แล้วเลิกถ่ายไปเลยก็ได้
▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔
ℹ #TheColumnist - ขอบคุณสำหรับการกดไลก์ กดติดตาม และเป็นกำลังใจให้พวกเราในการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร และแนวคิดใหม่ ๆ นะครับ
Image: Pexels
โฆษณา