19 ต.ค. 2021 เวลา 09:32 • ท่องเที่ยว
เรื่องเล่าจากผู้โดยสาร ที่เกือบซวย เพราะช่วยคนแท้ๆ
ผู้โดยสารคนนี้เป็นผู้หญิง ใช้ชื่อว่าคุณ Amy
เธอเล่าว่า คุณยายที่นั่งติดกับเธอ ดูท่าทางใจดีและ friendly เอามากๆ ได้ขอร้องให้เธอช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บบน overhead compartment ให้หน่อย
แต่ด้วยความที่เธอตัวไม่สูง ผู้โดยสารผู้ชายที่นั่งอยู่ใกล้ๆจึงอาสามาช่วยแทน
ทันทีที่นั่งเรียบร้อย คุณยายก็เริ่มชวนคุย คุณ Amy เล่าว่าคุณยายเป็นคนคุยเก่งและคุยสนุกมากๆ ทั้งคู่จึงนั่งคุยกันตลอดไฟล์ท จนเครื่องถึงดูไบค่ะ
หลังจากที่นักบินประกาศว่าเครื่องกำลังลดระดับลงสู่สนามบินดูไบ คุณยายก็เริ่มมีอาการปวดท้องค่ะ คุณ Amy จึงกดเรียกลูกเรือเพื่อมาดูอาการ
2
พอลูกเรือมาถึง คุณยายก็บอกเล่าอาการและพูดทำนองว่าคุณ Amy เนี่ยเป็นลูกสาวของคุณยาย
ลูกเรือบอกกับคุณ Amy และคุณยายว่า ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากให้ยาแก้ปวดและอีกไม่นานเครื่องก็กำลังจะ landing แล้ว
คุณยายร้องไห้คร่ำครวญเพราะความเจ็บปวด เหงื่อก็ออกหนักมาก และจับมือคุณ Amy ไว้แบบไม่ยอมปล่อย
ผู้โดยสารคนอื่นๆคงคิดว่าทั้งคู่มาด้วยกันอย่างแน่นอน
1
เมื่อเครื่อง Landed เรียบร้อยแล้ว ผู้ชายคนเดิมที่ช่วยยกกระเป๋าของคุณยายในตอนแรก ก็มาช่วยยกกระเป๋าลงให้ พร้อมทั้งกระซิบบอกคุณ Amy ว่าสถานการณ์มันดูแปลกๆ
ให้คุณ Amy เคลียร์ตัวเองกับลูกเรือให้ชัดเจนนะ ว่าไม่ได้มาด้วยกันกับคุณยาย
3
และก็เป็นดังนั้น ลูกเรือเข้ามาถามว่าคุณ Amy และคุณยายมาด้วยกัน เป็นญาติกันหรือเปล่า คุณ Amy จึงได้โอกาสบอกไปว่า เราเพิ่งมาเจอกันบนเครื่องบิน ไม่ได้รู้จักกับคุณยายมาก่อนเลย
1
พอประตูเครื่องบินเปิด ผู้โดยสารเริ่มทยอยลงจากเครื่อง
คุณ Amy จึงกล่าวลาคุณยาย แต่คุณยายกลับอ้อนวอนให้เธอช่วยถือกระเป๋าให้หน่อย เธอรู้สึกลำบากใจมาก แต่ผู้โดยสารผู้ชายคนเดิมหันมาส่งสัญญาณให้ว่า "อย่า!"
1
คุณ Amy จึงเดินออกจากเครื่อง ทิ้งคุณยายไว้กับลูกเรือเพื่อรอ wheelchair มารับ ด้วยความรู้สึกผิด
1
ขณะที่กำลังรอกระเป๋าตรงสายพาน คุณ Amy ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย พร้อมกับเห็นคุณยายกำลังวิ่งหนีค่ะ!!! ไม่นงไม่นั่งแล้ว wheelchair แต่โชคดีที่ airport police วิ่งเร็วกว่าคุณยาย จึงจับตัวไว้ได้ทัน พร้อมทั้งใส่กุญแจมือ
ปรากฎว่าในกระเป๋าใบนั้นของคุณยาย มียาเสพติดค่ะ !!!
2
ด้วยความซวย! พอคุณยายเห็นคุณ Amy ก็ร้องตะโกนว่า "My daughter! ... my daughter! How could you do this to me!
1
ตำรวจจึงเดินมาขอดู Passport ขณะเดียวกันผู้โดยสารผู้ชายที่ช่วยยกกระเป๋าก็มาช่วยยืนยันว่า ทั้งคู่ไม่ได้มาด้วยกัน ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
1
คุณตำรวจจึงหันไปถามคุณยายว่าคุณ Amy ชื่อเต็มๆว่าอะไร
โชคดีที่เธอไม่เคยบอกชื่อเต็มไป คุณยายจึงตอบไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นคุณ Amy ก็ยังต้องถูกสอบสวนค่ะ ต้องตอบคำถามมากมายร้อยแปดว่า มาจากไหน เจอคุณยายที่ไหน และถูกค้นกระเป๋าอย่างละเอียดด้วยค่ะ
แต่คุณ Amy ก็นับว่ามีโชคอยู่บ้าง ที่เธอไม่เคยแตะต้องกระเป๋าใบนั้นของคุณยายเลย จึงไม่เคยมีรอยนิ้วมือของเธออยู่บนนั้น เธอจึงถูกปล่อยตัวออกมา
1
ตำรวจบอกกับเธอว่า "Never ever to touch anyone's luggage either in flight or at the airport"
อย่าได้แตะต้องกระเป๋าของใคร ไม่ว่าจะอยู่บนเครื่องบินหรือใน airport
4
นับแต่วันนั้น คุณ Amy ก็ตั้งปณิธานไว้เลยค่ะว่า ไม่ว่าใครจะยังไงก็ตาม เธอจะไม่ช่วย ไม่แตะต้องกระเป๋าของใครเด็ดขาด!
2
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ผู้โดยสารนำมาแชร์ในกรุ๊ป funny flight attendant stories ที่ไม่ค่อยจะ funny เท่าไหร่
บางทีความดีงามในจิตใจเรา มักจะถูกคนไม่ดีเอาเปรียบอยู่เสมอ ต้องพิจารณาให้ดีค่ะ
1
ลูกแอร์ว่าเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย กระเป๋าใคร คนนั้นต้องรับผิดชอบเอง สายการบินกำหนดน้ำหนัก carry on luggage ไว้ที่ไม่เกิน 7 kg. ทุกคนยกไหวแน่นอนค่ะ
2
ส่วนคนที่ตัวเล็ก เอื้อมไม่ถึง แนะนำให้ถอดรองเท้าแล้วปีนเก้าอี้เลย ไม่มีใครว่าแน่นอน
1
ย้ำกันรอบที่แปดล้านสามแสนหกหมื่นสามพันสี่ร้อยยี่สิบเอ็ด
และจะย้ำอีกครั้งว่า...
ลูกเรือก็ไม่มีหน้าที่ยกกระเป๋าผู้โดยสารนะคะ จุ๊บๆ 😚
3
อีกไม่นานคงได้ไปเที่ยวกันแล้ว ระวังตัวกันด้วยนะคะ
แล้วเจอกันค่าา
1L... ยิ้มหวานภายใต้ N95 💋
1
โฆษณา