17 ต.ค. 2021 เวลา 04:14 • สุขภาพ
เปิดประเทศไทย 15 ธันวาคม 2564 น่าจะมีความเหมาะสมที่สุด สมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสาธารณสุข
ทุกประเทศทั่วโลก ต่างประสบปัญหาเรื่องโควิดในทำนองเดียวกันคือ
1) ถ้าจะคุมการระบาดให้ดี จนประชาชนมีความสบายใจ จะต้องใช้มาตรการที่เข้มงวด แต่จะกระทบมิติทางเศรษฐกิจและสังคมค่อนข้างมาก
2) ถ้าจะเน้นมิติทางเศรษฐกิจและสังคม ผ่อนคลายให้มีการทำมาหากิน การใช้ชีวิตเป็นไปได้โดยสะดวก ก็จะกระทบมิติสาธารณสุขคือการระบาดของโรค
ทุกประเทศจึงต้องหาจุดสมดุลหรือจุดที่เหมาะสมให้มากที่สุด ซึ่งย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบริบทของแต่ละประเทศ
และประชาชนในแต่ละประเทศ ก็มักจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันไป แม้เป็นข้อมูล หรือสถิติชุดเดียวกันก็ตาม
ในระดับโลก พบ ความแตกต่างอย่างมาก ของแต่ละประเทศที่รับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด
ประเทศจีนและนิวซีแลนด์ เน้นการคุมการระบาดเข้มงวดมาก
1
ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ เน้นการผ่อนคลายทางสาธารณสุข
1
อย่างไรก็ตาม การหาจุดสมดุลระหว่างมิติทั้งสอง ก็จะมีปัจจัยที่สำคัญบางประการ ที่ใช้กันอยู่ในขณะนี้คือ
การครอบคลุมของประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม จำนวนอย่างน้อย 70% ร่วมไปกับวินัยในการป้องกันตนเอง เช่น การใส่หน้ากาก
1
เพื่อที่เมื่อผ่อนคลายเปิดประเทศ หรือเปิดกิจการต่างๆแล้ว โอกาสติดเชื้อจะได้ไม่มากนัก ติดเชื้อแล้วจะได้ป่วยไม่หนัก และจำนวนผู้เสียชีวิตไม่มาก
เราจึงต้องมาดูว่า ประเทศไทยนั้น ถ้าจะใช้หลักฉีดวัคซีนครบสองเข็ม 70% จะเป็นช่วงเวลาไหน และหลังจากนั้นก็พิจารณาเปิดประเทศด้วยความระมัดระวัง
วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ประเทศไทยฉีดวัคซีนไปแล้ว 63.614 ล้านโดส
เข็มที่หนึ่ง 55.5% (36.72 ล้านโดส)
เข็มที่สอง 37.8% (25.01 ล้านโดส)
เข็มที่สาม 2.8% (1.88 ล้านโดส)
โดยไทยฉีดวัคซีนได้เป็นอันดับที่ 5 ของอาเซียน แต่ถ้าคิดเฉพาะประเทศที่มีประชากรมาก ไทยฉีดได้เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากมาเลเซีย แต่มากกว่าอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และพม่า
ถ้าต้องการเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ก็คือ 50 ล้านคน หรือ 100 ล้านโดส
เราจะต้องเร่งฉีดวัคซีนอีก 36.386 ล้านโดส ในขณะที่เดือนตุลาคมนี้ไทยฉีดวัคซีนได้เฉลี่ยวันละ 800,000 โดส
ดังนั้นเราจะต้องใช้เวลาฉีดอีก 45 วัน นั่นคือจะฉีดครบเข็มสองในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564
และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าภูมิคุ้มกันจะขึ้นได้ดี ก็จะนับ 14 วันหลังจากฉีดครบเข็มสอง ก็จะตกวันที่ 15 ธันวาคม 2564
จึงทำให้พอจะเห็นได้ว่า การเปิดประเทศหรือผ่อนคลายให้เกิดความสมดุลระหว่างมิติทางเศรษฐกิจและสังคม กับมิติทางสาธารณสุข
โดยยึดระดับความมั่นใจของวัคซีนเข็มสอง 70% ก็น่าจะเปิดประเทศในกลางเดือนธันวาคมคือ 15 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
2
โดยที่ประชาชนในแต่ละประเทศ ย่อมมีความเห็นแตกต่างกันในการเปิดประเทศเพื่อผ่อนคลายวิกฤตเศรษฐกิจในสถานการณ์โควิด
เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบทางลบอย่างมาก จากมาตรการควบคุมโรคระบาด ย่อมอยากให้ผ่อนคลายโดยเร็ว
ส่วนกลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่า ก็อยากได้ความมั่นใจในการควบคุมโรคระบาดให้ดีขึ้นเสียก่อน
ขณะนี้มีการทำโพลโดยมหาวิทยาลัยสวนดุสิต พบว่าประชาชนเห็นด้วยกับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จำนวน 40% และมีประชาชนยังไม่เห็นด้วย 60%
1
แต่ทั้งนี้การตัดสินใจเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ก็มีเหตุมีผลที่รองรับการตัดสินใจพอสมควร จึงมีประชาชนเห็นด้วย 40%
และมาตรการที่รัฐเยียวยาประคับประคองผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง ได้ผลดีในระดับหนึ่ง จึงทำให้มีผู้ที่ยังไม่อยากให้เปิดประเทศ มากถึง 60%
3
Reference
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงสาธารณสุข
ศูนย์ข้อมูล โควิด-19
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
1
โฆษณา