17 ต.ค. 2021 เวลา 21:37 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
เลือดรักชาติมันแรงเห็นแบบนี้ต้องเอามาบอกเล่า
อรรถจิต
       ความหวัง เชื่อมั่น
บ่ายวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2021 ผมได้รับเชิญจากสถานกงสุล ลอสแองเจลิส ให้ร่วมชมภาพยนตร์ “The Rescue" ที่โรงภาพยนตร์ The Landmark อยู่ที่ West LA
ภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างมาจากเรื่องที่เกิดที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เชียงราย
Jimmy Chan และ Elizabeth Chai Vasarhelyi Director and Producer Music by  Danial Pemberton สนับสนุนโดย National  Geographic Flims
เรื่องเกี่ยวกับการกู้ภัย นำเด็กออกจากถ้ำ “ทีม 13 หมูป่า”
ผมไปถึงบ่ายสามโมงเศษ มีมีเดียชาวอเมริกัน และคน
ไทย โดยมีทีมเจ้าหน้าที่สถานกงสุลไทยไปคอยอำนวยความ
สะดวกในการลงทะเบียนและแจกอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19
มีผู้ชมเกือบเต็มโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์เริ่มฉายเมื่อ16.10 น.  ด้วยความยาว 1.47 ชม.
เนื้อเรื่องเน้นหนักไปที่กลุ่มนักดำน้ำที่เข้าไปช่วยเหลือนำเด็กทั้งหมดออก มีผู้สำคัญสี่ท่านเป็นชาวอังกฤษชาวออสซี
Rick Stanton, Jason Mallinson, Chris  Jewell, John Volanthen และผู้เขียนแผนที่ภายใน Vern  Unsworth
การดำเนินเรื่องของภาพยนตร์ มุ่งเน้นเนื้อหาในทาง Documentary มากกว่าการเป็น Dramatic
ในเนื้อเรื่องมีบทเล่าหรือบอกกล่าวเป็นส่วนใหญ่ ของบุคคลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความยากลำบากในการช่วยเหลือ การเสียสละ และอุทิศตัวเพื่อเป็นจิตอาสา
เพื่อผู้รับชมได้เข้าใจเนื้อเรื่อง เพลิดเพลิน เห็นความสวยงามโลเกชัน การมีน้ำใจของจิตอาสาในการเป็น Rescuers เด็กทั้งสิบสามคน ไม่เป็นแบบ Drama เหมือนภาพยนตร์ทั่วไป
แต่กระนั้น การเร้าใจและกินใจในเหตุการณ์ตอนจ่าแซม Navy  Seals ของทหารเรือไทย ดำลงไปช่วยเด็กระยะทางไกล "จ่าแซม" ขาดออกซิเจนเสียชีวิต
ภรรยาของจ่าบอกด้วยน้ำตาว่า
    “การมีน้ำใจ เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ถ้าไม่มีน้ำใจก็เริ่มไม่ได้ในจิตอาสา”
"ภูมิใจที่เป็นภรรยาของฮีโร"
อีกตอนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมชาวต่างชาติเข้าใจลึกซึ้งถึงขนบประเพณีของไทยในความเชื่อและยึดเหนี่ยวมาแต่โบราณ
เช้าวันถัดมาของการพบเด็ก เนื่องจากเด็กๆ เหล่านี้อ่อนแรง ถึงแม้จะมีแรงใจดี แต่การสร้างกำลังใจ ในการรอคอยออกมาข้างนอกนั้น สุดบรรยาย
ความหวังจะนำเด็กทั้งหมดออกมาให้ปลอดภัยนั้นซิ คือสิ่งต้องคิด
ประกอบกับเวลาที่เหลือนั้นมีน้อย ส่วนฝนยังตกหนักติดต่อกันไม่ยอมหยุด เรื่องนี้ทำให้ Rick Stanton เครียดและหงุดหงิด
เครียดกับปัญหาที่ปริมาณน้ำในถ้ำที่สูงขึ้น ยิ่งยากในการนำเด็กออกมา
เช้าที่ต้องครุ่นคิด เมื่อมีคนบอกให้ Rick ช่วยนำด้ายผูกข้อมือ (สายสิญจน์) ของ "พระครูบาชุ่ม" ติดตัวฝากไปให้เด็กที่ติดอยู่ในถ้ำ
เขาอารมณ์เสีย เอ่ย "บูลเชียด" พร้อมทิ้งด้ายนั้นลงบนพื้นจนเพื่อนนักประดาน้ำเตือน
“คุณรู้ไหม เด็กเหล่านั้นเชื่อมั่นในจิตวิญญาณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะทำให้เด็กๆ มีขวัญกำลังใจที่ดี"  
    เขาพยักหน้า Rick กำด้ายเหล่านั้นกลับขึ้นมาทันที
สมาธิ..กับเด็กสิบสามคนกลุ่มนี้
    โค้ชหรือหัวหน้ากลุ่มบอกให้เด็กๆ อยู่ในความสงบโดยการทำสมาธิ และกินเฉพาะน้ำที่หยดลงมาจากผนัง ไม่ดื่มน้ำที่มาจากพื้นที่ไหลผ่าน
คงไม่แปลกใจ พวกเขาอยู่กันหลายวัน อากาศไม่น่าจะเพียงพอ
ในวันที่ 14 Rick ตรวจดูออกซิเจนในบริเวณที่เด็กอยู่
พบว่าเหลือออกซิเจนเพียง 15% เท่านั้น และถ้าต่ำกว่า 10% โอกาสมีชีวิตรอดนั้นหมดลง
แต่เด็กเหล่านั้นเชื่อในตัวโค้ช สงบสติอารมณ์ การทำสมาธิทำให้การหายใจเบาบางและมีออกซิเจนเพียงพอ
ตลอดระยะเวลา 1.47 ชม. มีสิ่งเร้าใจในภาพยนตร์เรื่องนี้ตลอดเวลา
เป็นภาพยนตร์ที่น่ายกย่องชมเชยกับการสร้าง ดำเนินเรื่องและเพลงประกอบในภาพยนตร์ “ความหวัง“ ความเชื่อมั่นที่ยิ่งใหญ่บวกกับการมีน้ำใจของคนไทย
ทั้งๆ ที่เหตุการณ์แบบนี้ จะสำเร็จลงได้จากสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มาสู่ “สิ่งที่เป็นไปได้“ มาเป็นความร่วมมือของทุกฝ่าย กลายมาเป็นผลงานระดับโลก ที่ทำหลายคนอยากมาไทย
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ยกให้ National Geographic ทำให้ประเทศไทย "ได้โฆษณา" เมืองไทยโดยไม่รู้ตัว
ครับผมลอกเขามาทั้งดุ้น ไม่ได้เขียนเอง เห็นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ข่าวคราวเกี่ยวกับประเทศไทยในสายตาชาวโลก
💖เลือดรักชาติมันเข้มข้น💖
โฆษณา