เกล็ดความรู้เล็กๆเกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจ Data center
- ธุรกิจ Data center มี 2 รูปแบบ
คือแบบ Public cloud คือบริษัททำให้ทุกอย่าง พร้อมบริการ แล้วใครต้องการใช้ก็มาใช้ด้วยกันได้เลย
กับ Private cloud คือบริษัทลูกค้า ทำเองลงทุนเอง แต่มาขอใช้ Infrastructure ร่วมด้วยในสถานที่เดียวกับ (Colocation)
- ตัว Drive สำคัญที่มากระตุ้นคือ Covid 19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค Digital transformation และการเปลี่ยนแปลงของภาครัฐ ทำให้มีความต้องการ Data center มากขึ้น
- ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบ ในเรื่องของ Location และไม่มีปัญหาเรื่อง Energy Shortage (สิงคโปร์ ที่เป็น NO. 1 ด้านนี้ใน SEA เริ่มมีปัญหาด้านพลังงาน รัฐบาลไม่สนับสนุน) ทำให้ไทยกลายเป็นเป้าหมายใหม่ในการจัดตั้ง
- ประเมินว่ามูลค่าตลาด Data center ของไทยมีแนวโน้มเติบโต 20%CAGR ในช่วงปี 2020-2022 มาอยู่ที่ราว 3.2 หมื่นล้านบาท โดยจะมาจากการเติบโตของ public cloud เป็นหลัก
- แม้ว่าธุรกิจ Data center จะมีแนวโน้มเติบโตดี แต่ยังมีความท้าทายสาคัญที่ต้องจับตามอง ทั้งประเด็น ด้านเงินลงทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูงและการแข่งขันจากผู้เล่นต่างประเทศ
- การเติบโตของธุรกิจ Data center ส่งผลให้มีธุรกิจอื่นในห่วงโซ่อุปทานได้รับประโยชน์เช่นเดียวกัน โดยมี 3 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มผู้ผลิตจัดหาอุปกรณ์ไอที 2) กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง และ 3) กลุ่มผู้ให้บริการ เชื่อมต่อระบบ ถือเป็น 3 กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์อย่างมีนัยสาคัญ
- โดยสรุป ธุรกิจ Data center ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจแห่งอนาคตที่น่าจับตามองและมีทิศทางเติบโตสูง ต่อเนื่อง โดยมีแรงส่งจากความต้องการใช้งานข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลบวกโดยตรงต่อผู้ให้บริการ ทั้งในแง่การเติบโตของรายได้ และอัตราทำกำไรที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ปัจจัยท้าทายในด้านเงินลงทุนเริ่มต้นที่สูง และการเข้ามาแข่งขัน ของบริษัทต่างชาติ ก็อาจจะส่งผลลบต่ออุตสาหกรรมได้
ด้านล่างเป็นลิสต์หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทรนดังกล่าว
ใครชอบตัวไหนก็ไปทำการบ้านเพิ่มเติมได้นะครับ
- หุ้นพอร์ทระเบิด -
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
