18 ต.ค. 2021 เวลา 04:49 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปภาวะตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ดีเดย์เปิดเมือง ต่างขาติแห่เข้าซื้อ”
สัปดาห์ที่ผ่านมา (11-15 ตุลาคม 2564) หุ้นไทยยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ 1,630 - 1,640 จุด แต่สามารถทะลุไปถึง 1,643.64 จุดในวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า หุ้นไทยก็ถือว่ามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยแต่ละวันในสัปดาห์ หุ้นไทยปิดตลาดและมีมูลค่าซื้อขายสุทธิดังต่อไปนี้
⁃ วันจันทร์ ปิดตลาดที่ 1,633.44 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,978.81 ล้านบาท
⁃ วันอังคาร ปิดตลาดที่ 1,643.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 93,081.47 ล้านบาท
⁃ วันพุธ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหยุดทำการ
⁃ วันพฤหัสบดี ปิดตลาดที่ 1,640.97 จุด มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 84,963.95 ล้านบาท
⁃ วันศุกร์ ปิดตลาดที่ 1,638.34 จุด มูลค่าซื้อขายสุทธิ 84,751.66 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากแบ่งแยกตามประเภทนักลงทุน พบว่านักลงทุนต่างประเทศและบัญชีหลักทรัพย์ในประเทศมีมูลค่าซื้อขายสุทธิในแดนบวก(ซื้อ > ขาย)
ในขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศและนักลงทุนทั่วไปในประเทศมีมูลค่าซื้อขายสุทธิในแดบลบ (ขาย > ซื้อ) ดังต่อไปนี้
⁃ นักลงทุนต่างประเทศ +9,427.76 ล้านบาท
⁃ บัญชีหลักทรัพย์ในประเทศ +1,684.66 ล้านบาท
⁃ สถาบันในประเทศ -9,594.99 ล้านบาท
⁃ นักลงทุนทั่วไปในประเทศ -1,517.43 ล้านบาท
โดยหากดูข้อมูลซื้อขายสะสมสุทธิของนักลงทุนแต่ละประเภทในครึ่งเดือนตุลาคมนี้ พบว่า นักลงทุนต่างชาติมีมูลค่าซื้อขายสะสมในแดนบวกสูงถึง 13,970.16 ล้านบาท ในขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ก็มีมูลค่าซื้อขายในแดนบวกอยู่ในไม่น้อยถึง 4,262.92 ล้านบาท
ในส่วนของหุ้นยืนคงยืนในแดนบวกได้ตอนปิดตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี อาทิ 7UP, PTTEP, SPRC กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ KCE, HANA, DELTA กลุ่มบริการเฉพาะกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง อาทิ ITD NWR SCC และกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK และ TISCO
นอกจากนี้ กลุ่มหมวดธุรกิจบางหมวดก็แนวโน้มขาขึ้นแต่ไม่แรงมากนัก อาทิ กลุ่มการเงิน กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มบริการเฉพาะกิจ โดยในวันศุกร์ที่ปิดตลาด กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังคงยืนในแดนบวกได้มากที่สุด ซึ่งมีดัชนีราคาที่เพิ่มขึ้นกว่า 3.17% จากผลการย่อตัวอย่างหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ทั้งนี้ แม้ว่าประเทศไทยจะต้องเป้าหมายที่จะเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ทำให้กลุ่มเปิดเมือง อาทิ กลุ่มสุขภาพ กลุ่มท่องเที่ยว มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงแนวโน้มผู้ติดเชื้อในหลายๆ จังหวัดที่ยังสูงขึ้น ทำให้ยังคงมีการย่อตัวในหุ้นกลุ่มนี้เป็นระยะๆ เช่นกัน
อีกทั้งน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทองคำมีการย่อตัวลงเล็ก ทำให้สัญญาณการเกิดเงินเฟ้อในระยะยาวอาจเริ่มเห็นผลและกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจดำเนินการลด QE โดยเร็วขึ้นกว่าเดิม หุ้นกลุ่มพลังงานอาจยังคงได้รับผลดีจากเรื่องนี้ ในขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นอาจยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดครับ
[เพิ่มเติม] ⭐เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!” สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD
#StockRadars #ทำเรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย #StockRadarsNews
หรือติดตามเรา ในช่องทางอื่นๆ
โฆษณา