• ยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff Giant)
ไททัน 'โอละพ่อ' แห่งอเมริกา
...ย้อนกลับไปในวันหนึ่งของปี 1869 ณ ฟาร์มของนาย วิลเลียม นิวเวลล์ (William Newell) ที่ตั้งอยู่ที่เมืองคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff) รัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ เหล่าคนงานในฟาร์มต่างพากันตกอกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาได้ขุดเจอกับซากอะไรบ้างอย่าง ที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก และมีรูปร่างเหมือนกับคน
เหล่าคนงานเชื่อกันว่า สิ่งที่พวกเขาขุดเจอนั้น ก็คือ ซากของยักษ์นั่นเอง พวกเขาจึงได้ตั้งชื่อให้กับยักษ์ตัวนี้ว่า 'ยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์' (Cardiff Giant) และเรื่องราวก็ได้เริ่มต้นขึ้นนับแต่นั้น...
การนำซากยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ออกมาจากหลุม
การพบเจอซากยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์นีั ทำให้เกิดเป็นข่าวดังทั่วทั้งสหรัฐฯ ทำให้มีผู้คนจากทั่วทั้งประเทศ ได้เดินทางมาที่ฟาร์มแห่งนี้ เพื่อมารอชมยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีเหล่านักโบราณคดีของสหรัฐฯ ได้เดินทางมาตรวจสอบซากยักษ์ และพวกเขาก็ได้ให้ข้อสรุปว่า ซากยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่รูปปั้นหินเท่านั้น และเรื่องทั้งหมดก็เป็นแค่เรื่องหลอกลวง
แต่สำหรับเหล่าคนงาน และผู้คนทั่วไปแล้ว พวกเขาต่างพากันเชื่อกันว่า ซากยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์เป็นของจริง และมันก็เป็นหลักฐานชิ้นดีที่ใช้พิสูจน์ว่าเคยมียักษ์อยู่จริง ๆ บนโลก
ท่ามกลางการโต้เถียงกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย แต่กระแสความโด่งดังของยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ ก็ได้ทำให้เจ้าของโรงละครสัตว์ชื่อดังของสหรัฐฯ อย่าง พี. ที. บาร์นัม (P. T. Barnum) ได้เจรจาขอซื้อซากยักษ์จาก วิลเลียม นิวเวลล์ ผู้เป็นเจ้าของฟาร์ม
P. T. Barnum เจ้าของโรงละครสัตว์ชื่อดังของอเมริกา เขาก็คือคนเดียวกันกับที่เป็นเจ้าของโรงละครสัตว์ ที่ฝาแฝดสยามอิน-จัน เข้ามาทำงานอยู่ด้วย
หลังการซื้อขาย บาร์นัมก็ได้นำซากยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ ไปจัดแสดงโชว์ตามเมืองต่าง ๆ ทั่วทั้งสหรัฐฯ บาร์นัมจึงได้รับเงินจำนวนมหาศาล จากการแสดงโชว์ในครั้งนี้
แต่ทว่าหลังจากนั้น เจ้าของฟาร์มที่ขุดพบซากยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์อย่าง วิลเลียม นิวเวลล์ ก็กลับสารภาพว่า ไม่ว่าจะเป็นซากยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ รวมไปถึงเรื่องราวทั้งหมดนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวงเท่านั้น
บรรยากาศของผู้คนที่พากันมุงดูยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์
โดยนิวเวลล์ได้เล่าว่า ในอดีตเขาเคยท้าพนันกับบาทหลวงคนหนึ่ง ในเรื่องที่ว่าเคยมียักษ์อยู่บนโลกจริงหรือไม่ ซึ่งบาทหลวงคนนั้นไม่เชื่อในเรื่องนี้ ทำให้นิวเวลล์ตัดสินใจที่จะสร้างยักษ์ขึ้นมา เพื่อให้เขาชนะการพนัน
หลังจากนั้น นิวเวลล์จึงว่าจ้างนายช่างคนหนึ่ง ให้ช่วยปั้นรูปปั้นของยักษ์ขึ้นมา โดยเขายังต้องการให้รูปปั้นยักษ์ดังกล่าว มีหน้าตาเหมือนกับประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น อีกด้วย
เมื่อนายช่างปั้นรูปปั้นยักษ์เสร็จแล้ว นิวเวลล์ก็นำรูปปั้นไปฝังที่บริเวณฟาร์มของเขา โดยที่ไม่ให้ใครรู้ จากนั้นเขาก็สั่งให้คนงานขุดดินในฟาร์มของเขา เพื่อให้เรื่องราวของ 'ยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์' เกิดขึ้นนั่นเอง...
และนี้ก็คือเรื่องราวของยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ หนึ่งในเรื่องราวแหกตาครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ที่ยังคงถูกพูดถึงไปอีกนานเท่านาน
ปัจจุบันรูปปั้นยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ ได้ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ฟาร์มเมอร์ (Farmer's Museum) ในรัฐนิวยอร์ก เพื่อบอกเล่าถึงการหลอกหลวงครั้งใหญ่ในอดีต
ปัจจุบันยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Farmer's Museum
สำหรับ พี. ที. บาร์นัม นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เขาได้สร้างเรื่องราวหลอกลวง เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับเขา เพราะนอกจากเรื่องยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ อีกหนึ่งเรื่องหลอกลวงที่มีชื่อเสียงของเขา ก็คือ ตำนานนางเงือกฟิจิ (Fihi Mermaid) ที่บาร์นัมได้นำเอาหัวลิงอุรังอุตัง มาต่อเข้ากับตัวปลาแซลมอน จนกลายเป็นโอละพ่อระดับตำนานนั่นเอง
นางเงือกฟิจิ อีกหนึ่งเรื่องหลอกลวงระดับตำนานของอเมริกา
*** Reference
#HistofunDeluxe
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
