20 ต.ค. 2021 เวลา 12:30 • บันเทิง
No time to Die
ภาพยนต์ James Bond เรื่องล่าสุด กับการปิดตำนาน ของ Daniel Craig กับบทบาทที่เขาครอบครองมากว่า 15 ปี กับหนัง 5 ภาค Casino Royale , Quantum of Solace ,Skyfall , Spectre และสุดท้าย ไม่มีเวลาให้ตาย No time to Die
1
ตอนเปิดตัว Craig ครั้งแรกกับ look ผมยาวแถมสี blonde ตาสีฟ้า ที่มีแต่สาว Bond เท่านั้นที่จะ look นี้ พร้อมกับภาพจำตอนเล่น Lara Croft:Tomb Raiders กับ Jolie ที่หุ่นแกยังก๊องแก๊งอยู่มาก ขนาด Profile ของแกใน IMDb ยังหาไม่เจอเลย ก็ให้คิดว่าแกจะไหวเหรอ ไม่เชื่อ ลองไปหาดูกันนนะคะ
แต่พอหนังเปิดด้วยฉาก free running แถม long take ใน Casino Royale นี่ทุกคนประทับใจมาก หนังปี 2006 ที่มี M เป็นผู้หญิง เล่นโดย Judi Dench มีฉาก Bond เปลือยทั้งตัว พบรักและแต่งงานกับสาวสวย Eva Green ในบท Vesper Lynd ผู้หญิงที่ทำให้ Bond ตัดสินใจที่จะเลิกเป็น 007 แถมพ่วงด้วย Jeffrey Wright ในบท Felix Leiter CIA ที่กลับมารับบทเดิมในภาคล่าสุดนี้ด้วย ก็คงไม่ต้องพูดอะไรอีก ทุกคนบอกนี่คือ Bond ที่สดใหม่ ดิบเถื่อน และดูมีเลือดเนื้อ
ถัดมาอีก 2 ปี 2008 Quantum of Solace ก็ออกฉาย แม้จะไม่ค่อยได้รับคำชมและเมื่อเทียบทั้ง 5 เรื่อง เรื่องนี้ดูจะด้อยที่สุด แต่รายได้ก็ดีพอที่จะตีตั้วไปต่อ
ปี 2012 จึงเป็นการกลับมาของเรื่องที่ 3 Skyfall ที่เพลงประกอบเพราะมาก มีประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว มีการเปิดบท Eve หรือ MoneyPenny เล่นโดย Naomie Harris ที่สวยกว่าตอนเล่น Prirates of the Caribbean ล้านเท่า และ Ralph Finnes พ่อ Lord Voldemort แห่ง Harry Potter ก็มารับตำแหน่ง M คนใหม่ และเปิดตัว Ben Whishaw ในบท Q นักประดิษฐ์สมองอัจฉริยะ หล่อน่ารักมาก แต่พอไปติดหนวดเล่นเป็น Mr.Bank ใน Mary Poppins Returns กลับดูไม่มีเสน่ห์เลย
Skyfall มีเส้นเรื่องที่นอกเหนือหนังสายลับ มีการเปิดปูมหลัง Bond และมีฉากนักแสดงอาวุโส Albert Finney มาร่วมแสดงด้วย ก่อนที่ปัจจุบันแกได้จากไปสวรรค์แล้ว รวมทั้งรถ Aston Martin คลาสสิค ที่ได้กลับมาอวดโฉมในภาคล่าสุดนี้ด้วย
พอมาปี 2015 ภาค 4 Spectre ก็ได้ออกฉาย พร้อมเปิดตัว Lea Seydoux นักแสดงฝรั่งเศสในบท Madeleine ผู้หญิงที่ทำให้ Bond กลับมาเชื่อ เรื่องความรักอีกครั้ง และ Monica Bellucci สาว Bond ที่อายุเยอะสุด เพราะเธอเกิดปี 1964 แต่สวยกว่าสาวๆหลายคน เธอเคยเล่น The Matrix 2 ภาคหลังด้วย
ฉากงาน Carnival และฉากระเบิดที่ใหญ่อลังการที่สุดในภาพยนตร์ ชนิดบรรจุใน Guinness Record นี่คือผลงานกำกับของ Sam Mendes ที่รับกำกับเป็นเรื่องที่สองต่อจาก Skyfall แต่อาจจะเป็นเพราะ Skyfall ทำไว้ดีมาก พอ Spectre ถูกเปรียบเทียบ แกเลยไม่ได้ตามมากำกับใน No time to Die พร้อมๆกับช่วงนั้น ตัว Daniel Craig เองก็ประกาศว่า Spectre จะเป็นภาคสุดท้ายของเขาในบท James Bond
Never Say Never Again หนัง Bond ที่ทำให้ Sean Connery กลับมาต่อกรกับ องค์กร Spectre ในปี 1983 คงเป็นบทพิสูจน์ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกมายา No Time To Die จึงเกิดขึ้น
ตัวร้าย Blofled ที่รับบทโดย Christoph Waltz กลับมารับบทเดิมอีกครั้ง จาก Spectra โดยมี Rami Malek เจ้าของบท Freddie Mercury แห่ง Queen จาก Bohemian Rhapsody มารับผู้ร้ายคนใหม่ Safin พร้อมทีมนักแสดงชุดเดิม
หนังเปิดด้วย Bond ผู้ที่น่าจะลงตัวกับความรักและคนที่รัก ก็กลับพลิกผัน และตัดสินใจไปใช้ชีวิตที่จาไมก้า บ้านริมทะเลกับหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่บางกระแสบอกว่า เพื่อ salute ให้กับ Ian Fleming เจ้าของบทประพันธ์ ที่ไปใช้ชีวิตที่นั่น ปลูกบ้านชื่อ Goldeneye และรังสรรค์นิยาย James Bond เล่มแรกที่ชื่อว่า Casino Royale โดย Ian ตายเมื่อปี 1964 ขณะที่มีอายุ 56 ปีเท่านั้น ขณะที่ Daniel Craig เกิดปี 1968 เล่นเรื่องนี้ตอนอายุ 53 ปี
No time to Die ให้เครดิต คนเขียนเรื่องและบทภาพยนต์ถึง 8 คน และหนึ่งในนั้นคือผู้กำกับ Cary Joji Fuikunaga ผู้กำกับอเมริกันคนแรกของหนัง Bond ที่หล่อชนิดเป็นพระเอกได้ อายุแค่ 44 ที่บอกได้ว่าหนทางของแกยังไปได้อีกยาวไกล
เพราะแกกำกับเรื่องนี้ได้ดีมาก โดยเฉพาะฉาก Action ถือว่าทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เครื่องบิน รวมทั้งฉากต่อสู้ของสองสาว Ana de Armas ในบทสายลับ CIA ฝึกหัด ชื่อ Paloma กับชุดราตรีแหวกหน้าเว้าหลัง สุดเซ็กซี่ ที่โผล่มาตอนเดียวแต่ขโมยซีนสุดๆ น่ารักมากจนจำแทบไม่ได้ว่าเธอเป็นนางเอก เรื่อง Knives Out ที่ประกบคู่กับทั้ง Daniel Craig และพ่อ Capital American Chris Evans มาก่อน
ส่วนอีกสาวคือ Lashana Lynch ที่มารับบท สาว double O แห่ง MI6 ที่เล่นดีจนคนเผลอคิดว่าหรือ 007 สามารถเป็นผู้หญิงก็ได้ จนต้องมีการออกมาปฏิเสธกัน เธอคือนักบินสาวเพื่อน Captain Marvel ที่เรื่องนี้ตัวหนาไปซักนิด แต่ฉากบู๊ไม่ขัดตา จะว่าไป ภาคนี้ตัวหนากันหมดตั้งแต่ M Bond Felix แม้แต่นางเอก ก็เอากับเขาด้วย ถือว่าอยู่ดีมีสุข มีอันจะกิน ของแถมที่มาตามอายุ
เส้นเรื่อง เป็นการขมวดเรื่องราวทั้ง 5 ภาคมาเรียงร้อย ขณะที่ Bond ตัดสินใจเกษียณ เขาได้รับการติดต่อจากเพื่อน CIA ให้ตามหานักวิทยาศาสตร์รัสเซีย ที่ทำการค้นคว้าอาวุธสังหาร โดยใช้ DNA และพบว่ามันคือโครงการทดลองลับของ MI6
จึงทำให้ Bond ตัดสินใจทำงานกับ CIA และมีความคลางแคลงใจกับ M หนังความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง น่าจะยาวที่สุดในบรรดาหนัง 25 เรื่องของ Bond เลยทำให้เราร่วมเดินทางไปกับ เขาใน 5 ประเทศ อยู่กับรถ Aston Martin 4 รุ่น และ Omega รุ่นสวยที่ส่งกระแสไฟชนิดไม่มียั้ง ยังกับตัว Bond เป็น Power bank
เพลงประกอบ ร้องโดย Billie Eilish เพราะ งดงามได้รางวัลแบบไร้คู่แข่ง ส่วน Hans Zimmer ยังรับหน้าที่ทำสกอร์เพลง Theme Song ยังกังวานก้องหู งานกำกับภาพโดย Linus Sandgren ที่เคยฝากผลงานใน LaLa Land ภาพเลยออกมาสวยมากๆ
แม้หนังจะบอกว่าเวลาเป็นเรื่องสำคัญ แถมชื่อไทย คือ พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ
และคำพูดนึงของตัวละครว่า
We have all the time in the world
แต่จริงๆแล้ว เรามีเวลานั้นจริงๆรึเปล่า
1
การเลื่อนฉายมาถึง 3 ครั้ง กับการประกาศ สิ้นสุด
การรับบท James Bond ของ Daniel Craig
มีเหตุผลเพียงพอที่เราจะเข้าไปบอกลาเขา
ไม่นับเรื่องความสนุก อัดแน่นด้วยความบันเทิง สไตล์หนัง James Bond ก็เพียงพอที่เราควรจะเลือก หนังเรื่องนี้ เพื่อกลับไปโรงหนังกัน
และมั่นใจว่าคุณจะหลงรัก Bond คนนี้
ที่แม้จะเป็นสายลับที่หล่อ สมาร์ท เท่ห์เก่งกาจ แต่เขาคงแทบอยากแลกกับชีวิตอย่างคนธรรมดาได้อยู่กับหญิงอันเป็นที่รัก แทนการต้องต่อกรกับวายร้าย ที่เอาชีวิตของคนทั้งโลกมาเป็นเดิมพัน
เราจึงอดเอาใจช่วย หัวเราะไปกับเขา ดีใจและเศร้าไปเขาด้วยไม่ได้
Daniel Craig ได้ส่งมอบ Bond ที่ดีที่สุดคนนึง ที่จะทำให้บทบาทนี้เป็นที่จดจำตราบนานเท่านาน และไม่ว่าคุณจะชอบ หนัง Bond หรือไม่ แต่ถ้าเคยดู หนัง Bond และมีความชอบอยู่บ้าง
No Time to Die เป็นหนัง Bond ที่ไม่ควรพลาด ด้วยประการทั้งปวง
สุวภา เจริญยิ่ง
#notimetodie
#JamesBond
โฆษณา