22 ต.ค. 2021 เวลา 14:12 • ไลฟ์สไตล์
รุ่นไหน
สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆทุกคน
อารุ่นไหน ครับ
รุ่นเดียวกับพ่อนี้แหละ [ผมยังไม่ทันจะตอบพ่อของเจ้าของคำถามก็ชิงตอบเสียก่อน
อ้าว แล้วทำไมพ่อถึงรุ่นเดียวกับอาเฉา ล่ะ
[ ลูกชายเพื่อนรุ่นพี่ผมยังติดใจ]
เออ..มึงอย่ารู้เลย รีบๆกิน แล้วขับรถไปซื้อเบียร์ให้ด้วย ให้ไอ้เสือพาไป..รุ่นพี่ผมตัดบท
วันนี้เพื่อนรุ่นพี่มาหาที่บ้าน เลยนั่งกินอะไรกันนิดหน่อย คุยกันแบบคนที่มีความหลัง
ในอดีตของนักสู้...
เรารอดปากเหยี่ยวปากกามาได้นี้ไม่ธรรมดาเลยนะมึง มึงก็ใช่ย่อยนะเมื่อก่อนเปิดให้เพื่อนๆตลอด แล้วมึงก็เผ่นก่อนใคร
[▪︎▪︎▪︎▪︎รุ่นพี่เยินยอผม..หรือแกพูดประชดก็ไม่แน่ใจ▪︎▪︎▪︎]
ความโหดร้ายของสังคมมันถีบให้เราต้องต่อสู้ ความหิวโหยบอกให้เราต้องทำมาหากิน ความหนาวเหน็บมันทำให้เราต้องหาที่ซุกหัวนอน ความเจ็บปวดบอกให้เราต้องเข้มแข็ง
เฉามึงเบาๆได้แล้วนะเหล้ายา สุขภาพสำคัญที่สุดว่ะ
มามุกไหนว่ะ รุ่นพี่ [ผมคิดในใจ]
มึงเห็นมั้ยช่วงนี้มีแต่คนจากเราไปทุกวัน
ที่กูมาหาเพราะกูเป็นห่วงมึง เดี๋ยวกูกลับก่อน
วันนี้กูเดินสาย ไปหาพวกๆกัน
อ้าวแล้วเบียร์ใครจะกินล่ะพี่
ก็จริงอย่างที่รุ่นพี่เตือนผมนั้นแหละ สุขภาพสำคัญที่สุด หลายคนเครียดจากงานและค่าใช้จ่ายจนล้มป่วย หลายคนหนักกว่านั้นอยากจะไปไหนก็ไปไม่ได้จนเป็นภาระของคนที่เรารัก คนเราจะยากดีมีจนอย่างไรถ้าสุขภาพดีไม่เป็นภาระของคนอื่นนั้นดีแล้ว
จงดูแลตัวเองและเผื่อแผ่น้ำใจไปยังคนรอบข้าง ในช่วงชีวิตอาจจะต้องมีวันที่ประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หากเรามีกำลังกายกำลังใจที่ดี มีคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างไปด้วยกัน จะล้มสักกี่ครั้งมันก็ลุกขึ้นมา
เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่ง ของ เมืองไทย
ให้สัมภาษณ์ กับ นิตยสารฉบับหนึ่ง เขาเล่าว่า...ตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกิจมา
ทั้งชีวิต เขามีเงินมาก พอที่จะตระเวนซื้อบ้าน ตั้งแต่ เชียงราย ถึงสุไหงโกลก (เหนือสุด จรด
ใต้สุด) มีบ้าน 'เกิน' 10 หลัง
"แต่ใน หนึ่งปีเขากลับได้นอน
'ไม่ครบ' ทุกหลัง คนที่ได้นอนครบเกือบทุกหลัง คือ
คนรับใช้ของเขา"
คนรับใช้ ได้นอนคฤหาสน์หรูที่เชียงราย เชียงใหม่ เลย ขอนแก่น ภูเก็ต และ หัวหิน
คนรับใช้ทุกคน อยู่อย่างมีความสุข ท่ามกลาง ธรรมชาติ
ต้นไม้ แม่น้ำ และ ความสงบ
ภายในบริเวณบ้าน
แต่ เศรษฐีที่เป็นเจ้านาย กลับ
ทำงานหนักงกๆอยู่ในกรุงเทพฯ ... แต่ละวันเจอรถติด'ไม่ต่ำกว่า' 3-4 ชั่วโมง
และอาศัยอยู่ใน คอนโดฯ รังหนูขนาด 'ไม่ได้ครึ่งหนึ่ง' ของ
บ้านพักตากอากาศที่เขาซื้เลย
นี่คือ ชีวิต ของคนกรุงที่เขาต้องเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ขณะที่ชีวิตของเขากำลังไปได้ดี เขาก็เริ่มป่วยด้วยโรค
สำหรับคนรวย
นั่นคือ 'โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่’
ในที่สุด เขาก็ต้องรับการบำบัดด้วยการฉายแสงคีโม
แล้วผมก็ร่วง
เขามองเห็นสภาพของตัวเอง
นอนอยู่บนเตียงรู้สึกตัวว่า
ใกล้จะเป็น ‘ซอมบี้' เข้าไปทุกที ไม่นาน' ... ก็เกิดอาการ
บรรลุธรรมน้อยๆ ขึ้นมาบนเตียง ว่า ……
"แท้ที่จริงแล้ว ...”
- ชีวิตนั้น ต้องการที่นอนเพียงพอแค่ รองรับแผ่นหลัง
ได้เท่านั้น
- เงิน ก็อยู่ในธนาคาร
- ชื่อเสียง ก็อยู่
กับสายลม
ในช่วงแรกๆ ที่เขาป่วย ก็มีคน
ทยอยมาเยี่ยม แต่ครั้นเริ่มป่วยหนัก ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเลย ไม่มีคนอยากเห็นสภาพของเขาแล้ว และเขาก็ไม่อยาก
ให้ใครมาเยี่ยมเพื่อเห็นเขา ด้วย
เขาตัดสินใจว่า จะขอตายไปกับสภาพที่ไม่อยาก
ให้ใครเห็น
วันหนึ่ง ... ตื่นขึ้นมาก็เกิดอาการ สังเวชตัวเองว่า
"ชีวิตเราที่จริงนั้น
ไม่ต้องการอะไรมากเลย
เราต้องการ 'สิ่งพื้นฐานที่สุด'
นั่นก็คือ
- ขอให้เส้นผม กลับมาสีดำ
เหมือนเดิม
- ขอให้เคี้ยวข้าว และ กลืนลงคอได้
โดยไม่เจ็บ
- ขอแค่อยากเข้าห้องน้ำ
ก็เดินเข้าได้โดยไม่ต้องมีคน
คอยประคอง
- และ ขอให้นอนลงไปบนเตียงเต็มแผ่นหลัง โดยไม่ต้อง
ร้องโอดโอยเจ็บปวดแทบล้ม
ประดาตาย
เขาเริ่มตระหนักได้ว่า
"แท้จริงแล้วชีวิต ไม่ต้องการ
อะไรมาก"
เขาตัดสินใจสละทุกอย่าง
พอปล่อยลงปลงได้
ต่อมาก็หายป่วย'หนึ่งในล้านคน' จะเป็นอย่างนี้คนหนึ่ง
1
เมื่อออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ขายบ้านทุกหลังที่มี
ตั้งแต่เหนือจรดใต้
เขาบอกว่า
"ป่วยใหญ่คราวนี้ ผมรู้เลยว่า
'สิ่งที่จำเป็นที่สุดของชีวิต'
คืออะไร และหันหลังให้
ชีวิตความเป็นนักธุรกิจ
อย่างสิ้นเชิง ตัดสินใจไป
ใช้ชีวิตเรียบง่ายในต่างจังหวัด ทำเกษตรอินทรีย์
- บอกลา ความหรูหรา
เกียรติยศ
- บอกลา ชื่อเสียง
ลาภยศ ทรัพย์สิน อำนาจ
ที่คนประเคนให้ทั้งหมด
เมื่อความตายมาถึง
สิ่งเหล่านี้ทั้งหลายกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย
 
ทุกวันนี้ เขาอยู่กับ
สิ่งที่มีความสุข เป็นชีวิตที่
แสนจะเรียบง่าย ไม่ต้องการ
อะไรมากมาย"
นี่คือตัวอย่างของคนที่ค้นพบ
คุณค่าของชีวิตที่แท้จริง
เมื่อค้นพบอย่างนี้
- เรื่องที่อยู่เขา 'ไม่สะสม'
อีกต่อไป
- สิ่งที่สะสมตอนนี้คือ สุขภาพ
เขา บอกว่าตอนที่ผมป่วย
ผมลืมตาขึ้นมา
เห็นแต่พยาบาล ญาติสักคนหนึ่งก็ไม่เห็น ญาติมาเยี่ยม
แล้วก็หายไป บอกว่า ติดงาน
เขาลุกขึ้นมาบนเตียงแล้วเขียนบันทึกในไดอารี่ ว่า
"แม้ตอนที่ผมจะตาย
ญาติของผมก็ยังมีแก่ใจว่า
ติดงาน สงสัยจะว่าง
ตอนผมตายแล้ว…….
นี่คือสิ่งที่เขาสะเทือนใจที่สุด
เขามารู้สัจธรรมบนเตียงนอน
ในขณะที่เข้ารับการรักษา
ในโรงพยาบาลนี่เอง และได้รู้ว่า
" ชีวิตนี้ ต้องใช้ให้ง่ายที่สุด
ไม่อย่างนั้น จะไม่เหลือวันเวลา
แห่งความสุขสำหรับตัวเองเลย "
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป
1
มรณานุสติ !!!
Cr.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
“บนโลกนี้ยังมีหลายอย่างที่มีคุณค่า นอกจากเงินและความสำเร็จ
ความสุข ความพอใจในตัวเอง ความสงบสุขของโลก ความรัก อะไรก็ตาม ชีวิตของเราไม่ใช่สมการเลขหรอกนะ มันไม่สามารถคำนวณออกมาได้ และไม่มีคำตอบที่ถูกต้องด้วย” [หัวหน้าฮง บอกไว้]
ขอขอบคุณ
ขอให้บุญรักษาทุกท่าน
ขอให้สุขกายสุขใจกันทุกคน
เฉาเอง
โฆษณา