24 ต.ค. 2021 เวลา 09:05 • การเมือง
UPDATE: ‘เนติวิทย์’ เผยมติกรรมการสโมสรนิสิต จุฬาฯ มาจากความเห็นของนิสิตปัจจุบัน ขอให้ศิษย์เก่า ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ระบุถ้าอยากให้การอัญเชิญพระเกี้ยวกลับมาใหม่ ให้เปลี่ยนแปลงผ่านการเลือกตั้งอบจ.ครั้งหน้า
1
นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นายกองค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ อบจ. เปิดเผยกับ The Reporters กรณี คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมติให้ ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ 29 : 0 เสียง จากนายกสโมสรนิสิตทุกคณะ
7
นายเนติวิทย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิต จุฬาฯ มีการพิจารณาเรื่องนี้ในการประชุม 5 ครั้ง และมีมติอย่างที่ปรากฏ ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรคที่สมัครรับเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารสโมสรนิสิต เมื่อต้นปีด้วย ถือว่าเป็นฉันทามติจากนิสิต ที่จะต้องมาผลักดันเรื่องนี้เมื่อเข้ามาบริหาร และออกมาเป็นมติร่วมกันของสโมรสรนิสิต
1
"เหตุผลสำคัญที่นิสิตเห็นตรงกันคือ หมดยุคสมัยที่ให้คนหนึ่งนั่งอยู่เหนืออีกคน ที่คนยุคนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญว่า เราจะต้องมีความสำคัญเหนือคนอื่น ไม่มีความรู้สึกอยากแบกเสลี่ยงให้คนอื่นขนาดนั้น และไม่ส่งเสริมความเท่าเทียมกัน"
3
นายเนติวิทย์ เปิดถึงเหตุผลที่กรรมการบริหารสโมสรนิสิต เห็นด้วยให้ยกเลิกกิจกรรมนี้ โดยเห็นว่าที่ผ่านมา การคัดเลือกผู้อัญเชิญพระเกี้ยวทำให้รู้สึกว่า คนที่ไปนั่งอยู่ข้างบนอาจต้องมีหน้าตาดี ถูกคัดเลือกแล้วคนอื่น ไม่เก่งเหรอ ไม่ดีเหรอ เขาก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน เพราะมีนิสิต จุฬาฯ ที่มีความสามารถแตกต่างกันไป ไม่เฉพาะบางคน คือหลักการที่ว่าไม่ยึดถือคุณค่าคนหนึ่งมากกว่าคนอื่น และในการคัดเลือกก็ไม่โปร่งใส เวลาคัดเลือก มีรุ่นพี่ คอยดูแล บางที คนนอกมองเข้าไปเห็นเหมือนแก๊งค์ บางทีคือคนไม่เห็นคุณค่าพวกนี้ มหาวิทยาลัยแทนที่จะยกเลิก อาจไปเกณฑ์เด็กหอใน ที่มีแต้มอยู่ บางทีมหาวิทยาลัยบอกว่า ถ้ามาแบกเสลี่ยงก็มีแต้มให้ เด็กก็ถูกบังคับโดยอ้อมให้ เขาก็ต้องมา ไปงานต้องแต่งชุดขาว มาแบกอะไรหนักๆ ต้องใช้คน 50 คน เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ใครๆ จึงไม่เห็นด้วย
5
ส่วนกรณีมีศิษย์เก่าที่ไม่เห็นด้วย นายเนติวิทย์ ขอทำความเข้าใจว่า “นี่เป็นกิจกรรมของนิสิตปัจจุบัน ไม่ใช่ของศิษย์เก่า จึงเกี่ยวข้องกับนิสิตปัจจุบันเป็นหลัก ไม่เกี่ยวกับในอดีต”
19
"ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลง ยอมรับว่าหมดสมัย ถ้าคิดดีๆ เด็กที่มานั่งไม่ใช่เจ้า และหลายมหาวิทยาลัย ไม่มีอะไรแบบนี้ ไม่เห็นจะเดือดร้อน และประเพณีนี้เกิดมา 50 กว่าปี ไม่ได้มีมาตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีมาแต่ต้น ผมคิดว่ามาช่วยกันคิดกิจกรรมใหม่ดีกว่าไหม"
8
นายเนติวิทย์ กล่าวด้วยว่า ศิษย์เก่าต้องปล่อยวางอดีตบ้าง ถ้าอยากได้จริงๆ อยากให้กิจกรรมนี้กลับมา ก็มีวิธีหนึ่ง คือ ปีหน้าก็เอาชนะเลือกตั้งให้ได้ แล้วค่อยขายนโยบายนี้กับเด็ก
4
"ผมว่าก็โอเค แฟร์ๆกันปีหน้าหาเด็กมาลง เอาลูกใครมาก็ได้ จะฟื้นฟูประเพณี ก็ให้เด็กจุฬาฯ เลือก มาเสนอผ่านการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตฯ และให้คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตฯ มีมติเปลี่ยนแปลงกลับมาได้ ผ่านการเลือกตั้ง เพราะผลที่ออกมาผ่านการเลือกตั้งจากผู้แทนนิสิต"
4
นายเนติวิทย์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ทุกคณะยอมรับหมดเลย ถ้าเปลี่ยนต้องหาคนลงทุกคณะ เพื่อให้มติออกมา แบบนี้
1
"ผมว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ปล่อยวางดีกว่า เราจะสร้างกิจกรรมอะไรใหม่ๆ มาสนับสนุนว่า งานบอลครอบคลุม หลากลายมาก และในกิจกรรมฟุตบอลประเพณีก็มีหลายอย่างที่ต้องเปลี่ยน เช่น การเอานักเตะระดับชาติมาเตะ เหมือนกลายเป็นแย่งชิงชัยชนะ งานบอลต้องให้นิสิตมาเล่นด้วยกัน ความหมายมันเป็น อวดศักดา ว่าใครยิ่งใหญ่กว่ากัน จริงๆ ควรเป็นงานที่มาเล่นเพื่อความสนุกกัน ศิษย์เก่า ควรมาใส่ใจตรงนี้ แต่ผมไม่รู้หรอกว่าคิดยังไง"
3
ทั้งนี้หากมหาวิทยาลัยคัดค้านมตินี้ นายเนติวิทย์ เห็นว่า “ถ้ามหาวิทยาลัยต้องการ ก็ต้องหาคนมาแบกเสลี่ยงเอง ต้องหาคนมาอัญเชิญพระเกี้ยวเอง มหาวิทยาลัยต้องทำร้ายเด็กคนนั้นสุดๆ ถ้ามหาวิทยาลัย ไม่ยอมรับมติ อบจ.แสดงให้เห็นว่า มหาวิทยาลัยอาจจะหน้าด้านไม่ฟังเสียงเด็ก เพราะถ้าจะจัดแล้วเป็นการเกณฑ์เด็กไปร่วมแบบบังคับ เชื่อว่า มหาวิทยาลัยก็มีปัญหาหนักขึ้น นายเนติวิทย์ จึงเห็นว่า มหาวิทยาลัยอาจมีปัญหาหนักขึ้น และผู้บริหารไม่ควรมายุ่งเรื่องนี้”
7
โฆษณา