27 ต.ค. 2021 เวลา 14:24 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เลือกหุ้นถูกแต่ทำไมไม่รวย : สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
สุดยอดกระทู้คุณภาพจากคุณ หมอวิ
บทความนี้เขียนขึ้นแด่เพื่อนนักลงทุนหลายๆท่านที่ประสบกับปัญหาแบบเดียวกับที่ผมเจออยู่หลายปีก่อนหน้านี้ครับ คือเลือกซื้อหุ้นถูกตัวแล้ว แต่พอร์ตไปไม่ถึงไหน ทั้งที่หุ้นตัวที่ซื้อก็ขึ้นเอาๆ และหันไปมองคนอื่นที่ซื้อหุ้นตัวเดียวกัน เขาก็ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ นั่นเป็นเพราะอะไร เรามาดูกัน
สาเหตุแรก คือ เข้าซื้อผิดจังหวะเวลา
อาจจะมาเข้าซื้อตอนหุ้นวิ่งมาพอสมควรแล้ว มีคนติดตามมากแล้ว หรือเข้าซื้อตอนหุ้นวิ่งแรงๆ แต่พอราคาเกิดการปรับฐานกลับไม่ได้ซื้อ (เพราะเงินหมดหรือไม่ก็กลัวว่าซื้อแล้วมันจะลงต่อ) แถมบางทีก็รอมันเด้งจนมั่นใจแล้วค่อยเข้าไปซื้อ แล้วก็ดอยอีก
2
สาเหตุต่อมา คือ ขายผิดเวลา
อันนี้ต่อเนื่องมาจากข้อแรก คือพอดอยหนักเข้า ทนไม่ไหวก็เลยตัดขายทิ้งที่ราคาต่ำๆ (แน่นอนครับว่าบางทีมันก็เด้งใส่หน้า) หรืออาจจะทนไหว แต่พอหลุดดอยก็รีบขายเลย เพราะกลัวจะกลับมาดอยอีก (แล้วมันก็วิ่งลับไปต่อหน้าต่อตา)
1
สาเหตุที่สาม คือ ซื้อน้อยไป
จะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ เมื่อคุณเจอโอกาสที่ดีแล้ว แต่ลงทุนด้วยสัดส่วนของเงินที่น้อยเกินไป ต่อให้หุ้นขึ้นมากี่เด้งๆ ก็ไม่รวย เพราะกำไรที่ได้จะทำให้พอร์ตโดยรวมโตขึ้นนิดเดียว
สาเหตุที่สี่ คือ กำไรตัวนี้ แต่ขาดทุนตัวนู้น
แบบนี้ก็ไม่รวยเหมือนกันครับ ได้ๆเสียๆ วนไปวนมา เพราะซื้อกระจายหลายตัว ทั้งพอร์ตก็เลยไม่ไปไหน
ยิ่งถ้าคุณขายเร็วเกินไปเวลาได้กำไร แต่ขายช้าไปเวลาขาดทุน หรือว่ากำไรตัวที่ซื้อน้อย แต่ขาดทุนตัวที่ซื้อเยอะ แบบนี้อย่าว่าแต่ไม่รวยเลยครับ ไม่หมดตัวก็บุญแล้ว
3
สาเหตุที่ห้า คือ เคยรวย แต่คืนเขาไปแล้ว
ข้อนี้อาจจะเป็นกรณีที่หุ้นของคุณขึ้นไปเยอะจนพอร์ตบวมแระ แต่ทิ้งไว้นานไปหน่อย ไม่ทันได้ขาย หันมาดูอีกทีความรวยหายไปแล้ว หรืออาจเป็นกรณีที่คุณเอากำไรที่ได้ไปซื้อหุ้นอีกตัวแล้วดอยหนักมาก
4
เขียนมาถึงตรงนี้ก็เหมือนแดจาวู คือรู้สึกคุ้นๆเพราะเคยผ่านมาแล้ว 555
ว่าแล้ว เรามาดูทางแก้กันดีกว่า
ทางแก้ในข้อแรก คือ อย่าซื้อหุ้นที่ราคาขึ้นมาจนเกินโซนซื้อแล้ว โดยเฉพาะไอ้ตัวที่เพิ่งวิ่งมาแรงๆเร็วๆนี่ต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ
ทางแก้สำหรับข้อสอง คือ ถ้าเข้าถูกจังหวะถูกราคาแล้วหุ้นลงคุณต้องไม่ขาย (หากมั่นใจและยังซื้อไปไม่เยอะมากก็ควรซื้อเพิ่มด้วยซ้ำ) และพอหุ้นขึ้นคุณก็ไม่ควรจะขายเร็วเกินไป อย่างน้อยก็ควรจะรอจนเข้าโซนถือหรือเข้าใกล้มูลค่าที่เหมาะสมก่อน (ยกเว้นว่าเจออีกตัวที่ดีกว่ากันชัดเจนและเงินหมดแล้ว)
ส่วนข้อสามก็ตรงไปตรงมา คือ คุณควรซื้อหุ้นที่คุณคัดเลือกมาอย่างดีแล้วด้วยสัดส่วนที่มีนัยยะ อย่างน้อยก็ไม่ควรต่ำกว่า 5-10% ของมูลค่าพอร์ตโดยรวม ถ้าไม่มั่นใจพอที่จะซื้อขนาดนั้นก็ไม่ต้องซื้อเลยดีกว่า แต่ให้ติดตามต่อไปจนราคาหุ้นลงมาต่ำมากพอหรือคุณวิเคราะห์จนมีความมั่นใจมากพอแล้วค่อยเข้าซื้อ
1
สำหรับข้อสี่ แก้ด้วยการออกแบบพอร์ตให้โฟกัสในหุ้นน้อยตัว เฉพาะที่มั่นใจว่าดีที่สุด 3-5 ตัวเท่านั้น แล้ววางแผนการซื้อขายและติดตามหุ้นเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด (คุณควรเริ่มสงสัยในการวิเคราะห์ของตัวเองถ้ามีหุ้นที่สนใจอยากซื้อเต็มไปหมด เพราะหุ้นดีไม่ได้เจอกันบ่อยๆ และควรบังคับตัวเองให้ตอบออกมาให้ได้ว่าตัวไหนคือโอกาสที่ดีที่สุด)
1
ข้อที่ห้า แก้ได้ด้วยการมีแผนซื้อถือขายที่ดี และทำตามแผนนั้น สร้างระบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
การลงทุนไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะมันอาจสร้างหรือทำลายทั้งชีวิตของคุณก็ได้ คุณจะต้องบริหารความเสี่ยงในช่วงที่กำลังเรียนรู้ให้ดี อยู่รอดให้นานพอ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ความสำเร็จจะมาถึงและมาเร็วอย่างที่คุณคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน ขอเอาใจช่วยเพื่อนๆทุกท่านครับ
1
ร่วมอ่านและแสดงความเห็นต่อได้ที่กระทู้
ประชาสัมพันธ์ - ตอนนี้เว็บบอร์ด Thai VI เปิดให้สมัครสมาชิกและทดลองใช้ได้ฟรี 30 วันแล้ว! เข้าไปสมัครกันได้เลยครับที่ www.ThaiVI.org
โฆษณา