28 ต.ค. 2021 เวลา 08:42 • ข่าวรอบโลก
กับดักพฤติกรรม HENRY ในคนรุ่นใหม่
รายได้สูง ชีวิตหรู ใช้เงินเก่ง แต่ไร้เงินเก็บ
ต้องยอมรับว่าคนในยุคสมัยนี้เก่งเรื่องการหาเงิน สร้างรายได้ รู้จักช่องทาง ‘Make Money’ มากมายกว่าคนยุคเก่า ที่ติดหลุมพรางการมีรายได้ทางเดียวและไม่กล้าออกจากโซนสบาย
1
แต่ในความเก่งเรื่องการหาเงินจนมีรายได้สูงขึ้นนั้น กลับมีกับดักขนาดใหญ่ที่ล่อให้เข้าไปติด จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ในเมื่อมีรายได้มากขึ้น หาเงินเก่ง แต่กลับยิ่งห่างไกลคำว่า “รวย” ซึ่งเชื่อว่าหลายคนกำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้
พฤติกรรมนี้มีชื่อเรียกว่า “HENRY” หรือย่อมาจาก “High Earner Not Rich Yet” หรือผู้มีรายได้สูงแต่ยังไม่รวยเสียที โดยกลุ่มคนใน Gen ปัจจุบันกำลังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ไม่น้อย ทั้งที่มีรายได้และมีโอกาสสูงที่จะมั่งคั่งในอนาคต แต่กลับไม่สามารถทำได้เพราะติดกับดักพฤติกรรมฟุ้งเฟ้อ
2
คำว่า HENRY ถูกกล่าวขึ้นในบทความของนิตยสารฟอร์จูนเมื่อปี 2003 เพื่ออ้างถึงกลุ่มครอบครัวที่มีรายได้ระหว่าง 250,000 - 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (8.3 – 16 ล้านบาท) แต่กลับมีเงินเหลือไม่มากนักหลังหักภาษี จ่ายค่าเล่าเรียน ค่าเช่า/ผ่อนที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ ที่แทบไม่ต้องพูดถึงการออมเพื่อการเกษียณอย่างมั่งคั่ง
🔵 รู้จักกับพฤติกรรมของ "ผู้มีรายได้สูงแต่รวยไม่ได้"
ประชากรกลุ่ม HENRY เคยเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิงในระหว่างการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2551 พรรคเดโมแครตมักขีดเส้นรายได้ครัวเรือนที่มากกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ ว่าเป็นกลุ่ม "คนรวย" ปัญหาหนึ่งของการจำแนกประเภทกลุ่มคนจากฐานรายได้นี้คือ การที่ไม่สามารถจำแนกค่าครองชีพในพื้นที่ต่างๆ ในสหรัฐได้
ตัวอย่างเช่นผู้ที่มีรายได้ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในนครฮูสตัน รัฐเท็กซัส ที่อาจมีสิ่งล่อตาล่อใจในการควักเงินออกจากกระเป๋าน้อยกว่าผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ฟุ่มเฟือยในมหานครนิวยอร์ก ทำให้ผู้มีรายได้สูงในนิวยอร์กนั้นดูเหมือนจะมีชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่ากว่าในการใช้จ่ายก็จริง แต่สิ่งตรงกันข้ามคือ ความสามารถในการสะสมความมั่งคั่งเพื่ออนาคตจะลดลง เพราะเงินมันถูกจ่ายไปกับการซื้อไลฟ์สไตล์ไปเสียเป็นส่วนใหญ่
1
กลุ่มบุคคลที่มีรายได้ค่อนไปทางสูง เช่น นักกฎหมาย แพทย์ ทันตแพทย์ และอาชีพอื่นๆ ที่มีเงินเดือนสูง มักเป็นกลุ่มที่เข้าข่ายการเป็น HENRY เนื่องจากช่วงรายได้สำหรับอาชีพของพวกเขาค่อนข้างสูง แต่ที่จริงแล้วความมั่งคั่งนั้น ส่วนใหญ่มาจากการที่พวกเขามี “เงินเดือน” ที่แม้จะเป็นตัวเลข 6 หลักก็จริง แต่ไม่ใช่การเพิ่มพูนหรือสะสมสินทรัพย์เพื่อให้มันมีมากขึ้นในอนาคต ทำให้คนกลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่ม HENRY ซึ่งนิยามว่าเป็น "คนรวยที่ต้องพึ่งพาเงินเดือน" หมายความว่าพวกเขาจะหยุดมีรายได้หากพวกเขาหยุดทำงาน หรือขาดรายได้เพราะตกงานไร้เงินเดือน
1
และคนกลุ่มนี้ยังมีการใช้จ่ายไปกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากกว่าการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเป็นเหมือน “หนูถีบจักร” ที่ต้องก้มหน้าก้มตาทำงาน พอสิ้นเดือนก็รับเงินเดือน เพื่อมาซื้อความสุขจากการใช้จ่าย พอเงินหมดก็ทำงานวนไปเพื่อให้ได้เงินเดือนเรื่อยๆ เป็นแบบนี้วนลูปซ้ำๆ จนหวดวัยทำงาน รู้ตัวอีกทีคือไม่มีเงินเก็บมากพอที่จะใช้ชีวิตสบายๆ หลังเกษียณ และจะไม่มีวันเข้าใกล้คำว่ารวย
5
🔵 HENRY เหยื่อการตลาดอันโอชะของแบรนด์สิค้าหรูหรา
กลุ่ม HENRY ที่พอจะมีรายได้สูงและมีกำลังซื้อ เป็นสิ่งที่นักการตลาดมองเห็นถึงศักยภาพมากมายในการใช้จ่าย ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสสำคัญสำหรับแบรนด์สินค้าหรือบริการระดับหรูหราที่จะแทรกซึมเข้าไปในไลฟ์สไตล์กลุ่ม HENRY และเริ่มสร้างความภักดีต่อแบรนด์ เนื่องจากมีว่าคนกลุ่มนี้ มีประชากรมากกว่ากลุ่มผู้ที่ร่ำรวยแล้วอยู่มาก จึงเป็นตลาดที่ใหญ่ และพร้อมจ่ายเพื่อซื้อสินค้ามีเสริมภาพลักษณ์ของตัวเองว่าเป็นคนที่เหนือระดับกว่าคนอื่นหรือชนชั้นกลางทั่วไป
1
นักการตลาดเชื่อว่า HENRY มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ซื้อที่มีความทะเยอทะยานมากกว่ากลุ่มอื่นๆ หมายความว่าพวกเขาเริ่มซื้อเครื่องประดับตามไลฟ์สไตล์ที่พวกเขาหวังว่าจะสามารถซื้อได้อย่างเต็มที่ 40% จากรายได้ของคนกลุ่มนี้คิดเป็นการใช้จ่ายเพื่อไลฟ์สไตล์ในชีวิต ซึ่งเป็นกรณีศึกษาทางธุรกิจที่ดีสำหรับบริษัทต่างๆ ที่จะทำการตลาดกับพวกเขา
1
แบรนด์สินค้าหรู เช่น นาฬิกา Tag Heuer และ Louis Vuitton ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำตลาดกับชนชั้นสูงในสังคม ได้พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ที่กำหนดเป้าหมายไปที่กลุ่ม HENRY โดยใช้โฆษณาที่เข้าถึงค่านิยมหลักคนกลุ่มนี้ เน้นไปที่การมีเอกลักษณ์และเหนือระดับ มีการใช้คนดังในแวดวงสังคม รวมทั้งนักกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่าง “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” นักแสดงชื่อดังของฮอลิวูด และ “คริสเตียโน โรนัลโด” นักฟุตบอลระดับโลก เพื่อวางตำแหน่งแบรนด์ของตัวเอง เสริมให้เกิดความน่าดึงดูดใจ และสื่อสารข้อความเกี่ยวกับสถานะทางสังคมว่า ถ้าคุณได้ครอบครองสินค้านี้ นั่นเท่ากับว่าคุณคือบุคคลพิเศษเปรียบเสมือนเซเลปฯ ที่เป็นพรีเซนเตอร์
1
HENRY จำนวนมากต้องการซื้อหาสินค้าฟุ่มเฟือยเพื่อยกระดับสถานะทางสังคม และมักใช้โซเชียลมีเดียเพื่ออวดไลฟ์สไตล์ของสินค้าและบริการเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้ Louis Vuitton, Tag Heuer และแบรนด์หรูอื่นๆ จึงจับจุดพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ได้ และใช้โฆษณาทางโซเชียลมีเดีย และอินฟูลเอนเซอร์ เข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาดที่แยบยล และมันก็ได้ผลเพราะผู้คนยอมควักเงินออกจากกระเป๋าเพื่อซื้อมัน แม้แต่การรูดบัตรเครดิตผ่อนก็ยอม เพื่อที่จะได้มาครอบครองและอวดลงโซเชียล
🔵 กลยุทธ์การลงทุนสำหรับกับกลุ่ม HENRY
กลุ่ม HENRY ที่มีรายได้จากเงินเดือนและค่าจ้างจำนวนมาก แต่มีการลงทุนเพียงเล็กน้อยและไม่ใช่กลุ่มที่มีนิสัยประหยัดการใช้จ่ายเพื่อการออม ดังนั้นถ้าวันหนึ่งที่หนทางที่มาซึ่งรายได้หายไป นั่นเท่ากับว่าจะไม่มีเงินใช้ในวันที่เงินเดือนหยุดจ่ายเลย
สิ่งที่คนกลุ่มนี้จะต้องแก้ไขคือ การพัฒนานิสัยการใช้จ่ายของตัวเอง และรู้จักการลงทุนเพื่ออนาคต โดยการออมเงินที่เพิ่มขึ้น การกระจายการลงทุน และการใช้ประโยชน์จากเครดิตภาษี และการหักลดหย่อนที่สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้
โดยเฉพาะเรื่องของภาษี เนื่องจาก HENRY เป็นผู้มีรายได้สูง พวกเขาจึงเจอกับการจ่ายภาษีเงินได้มากที่สุด ดังนั้น HENRY ควรสำรวจการหักเงินและเครดิตที่ลดภาระภาษีของพวกเขา เพราะถ้าลดการจ่ายเงินภาษีน้อยลงได้ นั่นหมายถึงมีเงินสำหรับการลงทุนมากขึ้น
วิธีหนึ่งที่จะแบ่งเบาภาระได้คือการสมทบเงินเข้ากองทุนต่างๆ เพื่อการออม เพราะการซื้อกองทุนนั้นสามารถเป็นหนึ่งในเครื่องมือเพื่อกาลดหย่อนภาษีได้อย่างดี และยังทำให้มีเงินออมในอนาคตหลังวัยเกษียณ
1
การลดภาระหนี้สินจากความฟุ่มเฟือย ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้กลุ่ม HENRY ไม่อาจก้าวขึ้นไปสู่การสร้างความมั่งคั่งได้อย่างเต็ม ซึ่งภาระหนี้สินส่วนใหญ่มาจากค่าผ่อนสินค้าแบรนด์เนมราคาสูง การผ่อนรถยนต์หรู และหนี้บัตรเครดิต ซึ่งหนี้ก้อนโตเหล่านี้สามารถลดทอนรายได้อย่างร้ายกาจ ทำให้เงินเก็บ เงินลงทุนลดลง
1
โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต ที่กลุ่ม HENRY สามารถจ่ายมากกว่าจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระและจำกัดการใช้บัตร การจ่ายมากกว่าขั้นต่ำที่ครบกำหนดจะลดยอดเงินได้เร็วขึ้นและรวมทั้งดอกเบี้ยอีกด้วย การจำกัดหรือเลิกใช้บัตรเครดิตสามารถลดหนี้โดยรวมของ HENRY และป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมหนี้มากขึ้น
และต้องกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อให้เงินได้ทำงาน หลังจากการลดหนี้ บัญชีออมทรัพย์เพื่อการเกษียณ หรือกองทุนต่างๆ คือเครื่องมือการลงทุนยอดนิยมสำหรับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างผลกำไรที่นำไปสู่การสะสมความมั่งคั่ง หากภาระผูกพันค่าเช่าหรือการผ่อนรายเดือนส่วนบุคคลมีไม่มาก HENRY อาจสามารถติดตามการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ ซึ่งสามารถนำไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อการเติบโตได้อีก
นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือการลงทุนอื่นๆ อีกมากมายในปัจจุบันที่สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ รวมทั้งการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตเคอเรนซี่ รวมทั้งสินทรัพย์อื่นๆ มากมาย เพื่อต่อยอดเงินให้มากขึ้นได้
แต่ถ้าการทำเอง ศึกษาเองนั้นยากเกินไป หรือใช้เวลา การสมัครใช้บริการของผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนระดับมืออาชีพเพื่อเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมกันมา เพราะจะทำให้การลงทุนมีทิศทางที่ชัดเจนและมุ่งไปสู่เป้าหมายได้
3
และพอศึกษาจนเข้าใจรูปแบบการลงทุนแล้ว ก็สามารถลงทุนได้ด้วยตัวเองอย่างชาญฉลาด เพื่อต่อยอดไปสู่ความมั่งคั่งและมั่นคงทางรายได้ในอนาคต และอาจกระโดดข้ามจาก คนเกือบรวย แต่ไม่รวย ไปสู่ “คนรวย” ได้เต็มตัว แต่ถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ ก็อาจจะเป็นคน “แก่ก่อนรวย” และเมื่อหมดวัยการทำงาน ความลำบากจะมาเยือนในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่แน่นอน
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
โฆษณา