3 พ.ย. 2021 เวลา 00:23 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🔥Inorganic Growth การเติบโตที่ไม่ธรรมดา
กับความเห็นประเด็น SCBX X BITKUB
สิ่งที่พิสูจน์ความสำเร็จของการทำธุรกิจ อาจไม่ใช่เพียงแค่ “กำไร” มากหรือน้อยเพียงใด แต่ทว่าสำคัญกว่านั้นคือการเติบโต (Growth) โดยหนึ่งในเป้าหมายหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จ คือ การทำให้บริษัท “เติบโตอย่างต่อเนื่อง” ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตด้านขนาดบริษัทหรือการเติบโตทางด้านส่วนแบ่งตลาด
กระบวนการสู่การสร้างการเติบโต หนีไม่พ้นการขยายตัวของบริษัท ที่ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกการเติบโตแบบภายใน(Organic Growth) หรือการเติบโตจากภายนอก (Inorganic Growth) สูตรสำเร็จอาจไม่ใช่จากการเลือกทางใดทางหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและโอกาสของแต่บริษัทไป
📌การเติบโตจากภายใน (Organic Growth) คือการเติบโตที่เกิดขึ้นด้วยธุรกิจของบริษัทเอง ผ่านการขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าเดิมหรือลูกค้าใหม่ หรืออาจเรียกว่าเป็นการเติบโต “ตามธรรมชาติ” ในอดีตที่ผ่านมา นักลงทุนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับ Organic Growth ที่ถือเป็นการบ่งบอกถึงความสามารถในการบริหารจัดการทรัพยากร ที่โดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง
1
📌การเติบโตจากภายนอก (Inorganic Growth) คือการเติบโตทางลัดจากปัจจัยภายนอก ผ่านกระบวนการควบรวมหรือการซื้อกิจการ (Merger & Acquisition: M&A) เพราะเป็นทางลัดที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัท อาจเป็นธุรกิจเดียวกับธุรกิจเดิมหรือธุรกิจใหม่
📌กระบวนการ M&A อาจแบ่งแยกได้ 3 ประเภท นั่นคือ การ Merger หรือการควบรวมกิจการโดย 2 บริษัท ต่างฝ่ายต่างนำทรัพย์สิน หนี้สินและหุ้นตนเองทั้งหมด มารวมกันเพื่อกลายเป็นบริษัทเดียว โดยเป็นการรวมหรือซื้อรวมที่เกิดจากความสมัครใจของผู้ถือหุ้น
1
📌ขณะที่การ Acquisition เป็นการซื้อหรือควบรวบเพียงบางส่วนของบริษัท อาทิ บริษัท A ต้องการเฉพาะแผนกผลิตสินค้าบางส่วนของบริษัท B แต่ไม่ต้องการแผนกผลิตสินค้าอื่น ๆ จากบริษัท B แต่ปัจจุบันมักเรียกรวมกันว่า M&A นั่นเอง
📌ส่วนการ Takeover จะเป็นลักษณะการเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทอื่น ๆ จนมีอำนาจการบริหาร จนเข้าข่ายกลายเป็นการ“เข้าครอบงำกิจการ” สามารถเป็นได้ทั้งการครอบงำที่เป็นมิตรหรือไม่เป็นมิตร แล้วแต่สถานการณ์และวิธีการที่เกิดขึ้น
📌แต่ทว่า Inorganic Growth ยังมีลักษณะอื่น ๆ นอกเหนือจากการควบรวมกิจการ คือ การได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐหรือนโยบายรัฐ หรือ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ที่ส่งผลประโยชน์ให้บริษัท ตามหลักสากล ถูกมองว่าเป็นการเติบโตที่เกิดจากปัจจัยนอกเหนือการควบคุม จึงไม่สามารถเรียกว่า Organic Growth ได้
❤️ ความเห็นดีลใหญ่ SCB X X BITKUB
สรุปดีล คือ SCB ซื้อ BITKUB 51 % ในราคา 17,800 ล้านบาท แสดงว่า BIT KUB มีมูลค่าบริษัทประมาณ 35,000 ล้านบาท
BITKUB กำไร 9 เดือน 1,500 ล้าน ตีคร่าวๆกำไร 1 ปี 2000 ล้านบาท
หากเราไปคิดจากสมการ สูตร กำไร * PE = มูลค่าการตลาด
ก็จะได้คำตอบว่า SCB X ซื้อ BITKUB ในราคาที่ถูกมาก ๆ PE เพียง 17.5 เท่า
กับ Platform ที่ผ่านจุด Break event point ไปแล้วและมี NPM เกือบ 50 %
ธุรกิจ Platform เป็นธุรกิจที่มี Operation leverage ค่อนข้างสูงหมายความดีนี้ SCB มีแต่ได้กับได้
ไม่รวมกับ VC ที่ SCB จับมือกับ CPF เข้าไปลงทุนใน Defi + Blockchain น่าจะเอามาต่อยอดได้อีกมาก
วันนี้หุ้น SCB ก็คงร้อนแรงแน่นอนใครมีก็ยินดีด้วย
ก้าวสำคัญของ SCB ในนี้ทำให้เห็นอะไรบางอย่างถึงความตั้งใจของ SCB ที่จะเพิ่มมูลค่าของตัวเองผ่านการ SPIN OFF พวกบริษัทลูก
แอดมั่นใจว่าดีลนี้ ไม่ใช่ดีลสุดท้ายอย่างแน่นอน
- หุ้นพอร์ทระเบิด -
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.05%
TFEX สัญญาละ 18-20
กับโบรคเกอร์
แนะนำหุ้นโดยที่ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาต
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
โฆษณา