ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน! แต่คนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในงาน กลับสามารถใช้งานช่วงเวลาอย่างคุ้มค่าในทุกวินาที
Remind อยากให้อ่าน หากวันนี้คุณเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า “เวลาเป็นเงินเป็นทอง”
ชื่อหนังสือ : คนที่ประสบความสำเร็จที่สุดทำอะไรก่อนมื้อเช้า
Laura Vanderkam : ผู้เขียน
หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นด้วย ความโกลาหลในตอนเช้า ของครอบครัวผู้เขียนเอง ในบทนำจะบอกจุดเริ่มต้นก่อนจะมาเป็นหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนตีพิมพ์หนังสือเล่มแรก ชื่อว่า 168 Hours จากนั้นก็เริ่มเขียนบล็อกเกี่ยวกับการบริหารเวลาให้กับนิตยสารออนไลน์อย่าง บีเอ็นอีที
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์บุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านต่างๆ และค้นพบว่า บุคคลที่ประสบความสำเร็จโดยส่วนใหญ่ ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า อีกทั้งระหว่างทางยังสามารถทำสิ่งที่มีความสุข อย่างเช่นการใช้ชีวิตร่วมกับคนในครอบได้มากขึ้น สามารถมีช่วงเวลาในการทำสิ่งที่ตัวเองรักได้มากขึ้น หรือแม้กระทั่งได้ใช้เวลา ทำงานร่วมกับการพัฒนาตัวเองได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งหมดที่พูดมานี้ คนธรรมดาๆ แบบเราก็สามารถที่จะทำได้ ด้วยกระบวนที่หนังสือร้อยเรียงมา ดังนี้
เริ่มด้วย การสำรวจ กิจวัตรประจำวันที่เราทำในแต่ละวัน โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า เราหมดเวลาไปกับอะไรบ้าง ปลุกลูกให้ตื่น แต่งตัว ทำอาหาร กิจกรรมไหนที่ทำแล้วรู้สึกว่าเวลาหมดไปอย่างไร้ประโยชน์แถมยังลดทอนพลังงาน จนปั่นทอนประสิทธิภาพการทำงานให้ด้อยลงแถมยังหมดโอกาสทำในสิ่งที่ชอบ หรือเพิ่มทักษะใหม่ๆ ให้กับตัวเอง เช่น ข้อแม้ในการออกกำลังกาย ที่บอกว่าไม่มีเวลา การสมัครลงเรียนคอร์สพิเศษเพื่อพัฒนาตัวเองก็จะหายไป เพียงเพราะเราไม่เคยสำรวจว่า จริงๆแล้ว ในทุกนาทีที่ผ่านไป เราใช้หมดไปเพราะเรื่องอะไรกันแน่
การบันทึกกิจกรรม : ฟังดูเป็นทางการ “เราต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือ?” แน่นอนนี่อาจเป็นคำถามในใจของใครหลายๆ คน ถ้าเราไม่บันทึก เราก็จะไม่รู้ว่าแต่ละช่วงเวลาเราหมดไปกับเรื่องอะไรกันนะ ที่จริงแล้วที่เราบอกว่าเหนื่อย เราหมดพลังไปกับกิจกรรมไหนมากที่สุด เราเสียเวลาไปกับอะไรสูงสุด
ยิ่งโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างง่าย เพียงปลายนิ้วสัมผัส เราใช้เวลาไปกับการท่องโลกออนไลน์ ใช้นิ้วมือเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ สักพักอ้าวผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้วเนี่ย
ซึ่งแน่นอนถ้าไม่การบันทึกเราก็ไม่สามารถรู้กิจกรรมของตัวเองได้ หากคุณเริ่มบันทึก คุณอาจจะตกใจการใช้เวลาของตัวเองอยู่ก็ได้
ค้นหา : ซึ่งโดยรวมแล้ว สิ่งที่เราจะทำทั้งหมดในการบริหารเวลา คือเราต้องตามหา ความสุข หรือเป้าหมายในชีวิตนั่นเอง พอพูดถึงเรื่องเป้าหมายหลายคนก็มักจะเจอในแบบเดียวกันคือ “ฉันไม่มีเป้าหมายในชีวิต ยังไม่เคยคิดถึงมันเลย แล้วอะไรละคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ”
ถ้าหลายคนมีข้อโต้แย้งในใจแบบนี้ หนังสือเล่มนี้มีเคล็ดลับที่ง่ายๆ สามารถทำได้จริง โดย
เริ่มเขียนรายการความฝัน 100 ข้อ ที่รวมเป้าหมายต่างๆ ไว้ เช่นเป้าหมายส่วนตัว เป้าหมายการท่องเที่ยว เป้าหมายการพัฒนาตัวเอง เป้าหมายการทำงาน ฯลฯ การเขียนความฝัน 100 ข้ออาจดูว่าเยอะแต่จริงๆแล้วสิ่งสำคัญคือ เราเขียนอะไรก็ได้ที่อยากทำจริงๆ ความฝันง่ายๆ ที่สามารถทำได้สำเร็จ เช่น จะเดินให้ได้ทุกวัน วันละ 10 นาที จากนั้นมาดูว่า เราทำรายการความฝันอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง เพื่อสร้างนิสัยตัวเราให้เคยชินกับการบรรลุเป้าหมายนั่นเอง
“เมื่อคุณอ่านมาถึงข้อความนี้”
เกิดความรู้สึกอยากลุกขึ้นมาเริ่มต้นและลงมือทำ การบริหารเวลาของตัวเอง
นี่ก็จะเป็นคำตอบ…ว่าทำไมคุณถึงต้องหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน!
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
