12 พ.ย. 2021 เวลา 03:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หุ้นน่าซื้อวันนี้ 12 พ.ย. 64 : โบรกมองหุ้นไทยวันนี้ แกว่งตัวออกข้างถึงปรับขึ้น โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,635-1,640 จุด แนะเก็บหุ้นเน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรดี
บล. หยวนต้า (ประเทศไทย)
เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเอเชีย เมื่อวานนี้ ถือว่า ทำได้ค่อนข้างดี แม้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับฐานเมื่อคืนวันก่อนหน้า เนื่องจากความกังวลด้านเงินเฟ้อ ด้านตลาดหุ้นไทย เมื่อวานนี้ ปิดบวกเล็กน้อย แต่วอลุ่มการซื้อขายค่อนข้างเบาบางเพียง 6.35 หมื่นล้านบาท น้อยสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.2564 ที่ซื้อขาย 5.95 หมื่นล้านบาท
Sentiment การลงทุนในต่างประเทศ ค่อนข้างระมัดระวัง สะท้อนจาก Dollar Index ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า ปิดเหนือระดับ 95 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 และกระแสเงินทุนโยกย้ายเข้าสู่ทองคำ หนุนราคาทอง ยืน US$1,860/Oz ในขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผสมผสาน Dow Jones ปิดลบ สวนทางกับ S&P 500 และ NASDAQ
ตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่ง Laggard ในช่วงก่อนหน้านี้ เริ่มมีสีสันมากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เช้านี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งราว 1% เราประเมินทิศทาง SET INDEX วันนี้ แกว่งตัวออกข้างถึงปรับขึ้น โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,635-1,640 จุด
MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกดัชนีรอบเดือน พ.ย.2564 โดยดัชนี Global Small Cap มีหุ้นเข้า 3 บริษัท ได้แก่ BEC, TIPH, TIDLOR ส่วนหุ้นออก มี 1 บริษัท คือ TKN ทั้งนี้ การปรับน้ำหนักดัชนี จะเกิดขึ้น ณ ราคาปิดวันที่ 30 พ.ย.นี้
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายมาตรการจ่ายเงินปันผล โดยกำหนดให้จ่ายเงินปันผลไม่เกินอัตราร้อยละ 50 เพราะจากผลการทดสอบ Stress Test พบว่า ธนาคารพาณิชย์ มีความแข็งแกร่งเพียงพอ สะท้อนมุมมองเชิงบวกของ ธปท. ต่อเงินกองทุนและการตั้งสำรองในปัจจุบัน รายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Analyst Note เช้านี้
สำหรับ หุ้นเด่นวันนี้ มี 4 ตัว นำโดย TQM เราคาดกำไร 3Q64 ที่ 200 ลบ. +/- ยังเติบโตได้ดี YoY แต่ชะลอตัวลง QoQ จากยอดขายประกัน COVID ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวคาดว่าจะเป็นผลกระทบเพียงระยะสั้น และคาดว่ากำไร 4Q64 จะกลับมาเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากยอดขายรถยนต์ที่ฟื้นตัวใน 4Q64 เป็นปัจจัยหนุนฐานลูกค้าใหม่ และการต่อประกันต่อเนื่องของลูกค้าเดิม
กำไรปี 2565 คาดเติบโต +20% YoY เป็น 998 ลบ. จากการรับรู้รายได้จาก True Life และ True Extra เต็มปีในปี 2565 และธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านบริษัทย่อย Easy Lending คาดจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ 4Q64
หุ้นเด่นถัดมาคือ KBANK เราคาดว่ากลุ่มธนาคารจะตอบรับเชิงบวก หลังธปท.ผ่อนเกณฑ์ปันผลให้ธนาคารสามารถจ่ายเงินปันผลปี 2564 ได้ไม่เกิน 50% จากเดิมที่ไม่ให้จ่ายเกินอัตราจ่ายในปี 2562 และไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิปี 2563 สะท้อนถึงฐานทุนของธนาคารที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ
KBANK มี Upside Risk ของประมาณการเงินปันผลปี 2564 ของเรา เนื่องจากประมาณการปัจจุบันเราให้ Dividend Payout Ratio ที่ 25% เราคาดเงินปันผล 2H64 หุ้นละ 3.50 บาท ให้ Dividend Yield 2.3%
หุ้นเด่นอีกตัว SAT รายงานกำไรสุทธิ 3Q64 ที่ 215 ลบ. เติบโต +165% YoY และ -10% QoQ ดีกว่าคาดของเราราว 9% จากการบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดีกว่าคาด
กำไร 9M64 ที่ 772 ล้านบาท คิดเป็น 81% ของคาดทั้งปีที่ 950 ลบ. ขณะที่แนวโน้มกำไร 4Q64 คาดเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากสถานการณ์ขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์ที่ดีขึ้น เราคงมุมมองบวกต่อกำไรปี 2565 คาดเติบโต +17% YoY เป็น 1.11 พันลบ. ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2565 เพียง 8.1 เท่า และให้ Dividend Yield 5-6% ต่อปี
หุ้นเด่นสุดท้าย AOT ภาพทางเทคนิค แนวต้าน 68.00 บาท แนวรับ 66.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 65.00 บาท
เรามีมุมมองบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวไทยในปี 2565 คาดจะฟื้นตัวเต็มที่ใน 2H65 หลังสถานการณ์ COVID ดีขึ้น ทั้งจากอัตราการฉีดวัคซีนทั่วโลกที่ดีขึ้น และการค้นพบยาต้านไวรัสจะส่งผลบวกโดยตรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก
บล.เอเซีย พลัส
มอง SET Index วันนี้คาดว่าดัชนีเคลื่อนไหว 1,626 -1,640 จุด
หุ้นเด่นวันนี้มี 3 ตัวนำโดย TASCO (FV@23.00) หุ้นเด่นอีกตัวคือ MCS (FV@21.00) และตัวสุดท้าย MCS (FV@21.00)
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
กล่าวว่า วันนี้ค่าดัชนีแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,640 จุด เน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรดี
หุ้นเด่นวันนี้ แนะนำ SCB ปัจจัยหนุนจากการที่ทอปอทอ. ประกาศผ่อนคลายการจ่ายปันผลของกลุ่มธนาคารพาณิชย์สะท้อนความแข็งแกร่งของธนาคารไทยเป็นผลบวกต่อกลุ่มธนาคารเอสซีบี +มากสุดภาษาอกับการที่เอสซีบีเดินหน้าสู่การปรับโครงสร้างบริษัทลูกข้าจะช่วยหนุนการเติบโตในช่วงถัดไป
และ JMT คาดกำไรสุทธิไตรมาสสามปีหกสี่ที่ 310 ล้านบาทเติบโตส่วนทางกลุ่มการเงินโดยฟื้นแบบวีเชฟในเดือนกันยายนและกล่องนี่ที่ตัดต้นทุนหมดเพิ่มขึ้นหนุนอัตรากำไรขั้นต้น +70 บีพีเอสและคาดกำไรสี่ไตรมาสสี่ปีหกสี่จะกรรมจะทำจุดสูงสุดใหม่ 400 ล้านบาทและปีหกห้ากำไรจะเร่งขึ้นอีกสาม 17%
บล.ไทยพาณิชย์
คาด SET ปรับขึ้นได้ ด้วยปัจจัยหนุนทิศทาง fund flow ที่มีโอกาสไหลเข้าจากทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า และ sentiment บวกของกลุ่มแบงก์หลังธปท.ผ่อนปรนมาตรการการจ่ายเงินปันผลของกลุ่มแบงก์ ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1,635 จุด หากขึ้นทะลุผ่านจะเป็นสัญญาณที่ดี และมีแนวต้านถัดไปที่ 1,640 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,620-1,626 จุด ที่คาดยังรองรับได้ กลยุทธ์การลงทุน ใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
หุ้นเด่นวันนี้ แนะนำ BEM (ราคาเป้าหมาย 10.00 บ.) คาดได้โมเมนตัมเชิงบวกหลังกำไร 3Q64 เป็นไปตาม SCBS คาดแต่สูงกว่าตลาดคาด จากต้นทุนต่ำกว่าคาด ปริมาณจราจรเริ่มดีขึ้นอย่างมีนัยฯ ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิด-19 ระบาดอยู่ 18% น่าจะเห็นผลประกอบการฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ตัวต่อมาคือ BCP (ราคาเป้าหมาย 34.00 บ.) กำไร 3Q64 ดีกว่าตลาดคาด ราคาหุ้นมี Catalyst จากธุรกิจโรงกลั่น โดยอุปสงค์น้ำมัน ปท. หลัก (USA, EU) ฟื้นไปแตะก่อนโควิด และคาดไม่มีผลขาดทุนสต็อกน้ำมันช่วงสั้น อีกทั้งเตรียมเสนอขาย IPO ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพของ บ.ย่อย BBGI ใน 1Q65
Conviction : STARK และ WICE มองราคาหุ้นมี Sentiment บวก หลังกำไร 3Q64 ออกมาทำนิวไฮดีเกินตลาดคาด และโมเมนตัมกำไรยังดีต่อเนื่อง นอกจากนี้ STARK ยังมีโอกาสเป็นหุ้นใหม่ที่จะถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET100 ในรอบ 1H65
บล.กสิกรไทย
คาดว่าดัชนีวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,645 จุด หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ BDMS ราคาปัจจุบันอยู่ที่ บาท ราคาเป้าหมายที่ 25.75 บาท , OSP ราคาปัจจุบัน 18 บาท ราคาเป้าหมาย 36 บาท และ CHAYO ราคาปัจจุบัน 12.30 บาท ราคาเป้าหมาย 12.9 บาท
อัตราแลกเปลี่ยนและราคาทองคำ ประจำวันที่ 12 พฤศจิกายน 64
บาทกลับมาแข็ง หลังคลายกังวลเงินเฟ้อ จับตาผันผวน
ราคาทองคำวันนี้ ปรับลง 100 บาท รูปพรรณขายทะลุ 29,350 บาท
ติดตามข่าวหุ้น-การลงทุนทางไลน์
โฆษณา