13 พ.ย. 2021 เวลา 02:00 • การตลาด
“Excel” เพียงแค่เราเห็นคำๆ นี้ เราก็ต้องนึกภาพกันถึงโปรแกรมสีเขียวที่มีตารางกับตัวเลขชวนยี้เต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่มีชายคนหนึ่งทำเพจให้ความรู้และเคล็ดลับการใช้โปรแกรมนี้ให้ง่ายขึ้นโดยมีชื่อตามความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเขาว่า เทพเอ็กเซล : Thep Excel
.
วันนี้ #CareerTalk จะมานำเสนอเรื่องราวของ “พี่ศิระ” เด็กวิศวะที่เคยหลงทางสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการข้อมูลและเทพ Excel ที่มีผู้ติดตามกว่าหนึ่งแสนคน
.
⌈ติดตามเรื่องราวของเขาได้ที่นี่ https://bit.ly/3obdLge
.
.
#ชีวิตในวัยเด็ก
.
พี่ศิระเติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลาง โดยเมื่ออายุได้ 15 ปี คุณแม่ของพี่ศิระเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง แต่โชคยังดีที่คุณพ่อมีหน้าที่การงานดีพอสมควรจึงไม่เกิดปัญหาเรื่องรายได้
.
ในวัยเด็กพี่ศิระเป็นคนที่ชอบอ่านการ์ตูนมากจึงเคยมีความฝันอยากเป็นนักวาดการ์ตูน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มาลงเอยกับการเรียนสายวิทย์เหมือนกับคุณพ่อ ซึ่งเขาก็ไม่ใช่เด็กที่เรียนดีมากนัก แถมไม่ค่อยได้คิดอย่างจริงจังด้วยว่าอยากจะเรียนต่อคณะอะไรหรือทำอาชีพอะไร
.
พอเข้าสู่ช่วงมหาลัย พี่ศิระที่ยังไม่รู้ตัวเองมีตัวเลือกอยู่ 2 ทางซึ่งเป็นที่นิยมของเด็กสายวิทย์นั่นก็คือ “หมอ” และ “วิศวะ” แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ถนัดวิชาชีวะอย่างแรงบวกกับไม่ชอบลักษณะงานของอาชีพหมอ เขาจึงมุ่งหน้าสู่สายวิศวะอย่างเต็มตัวซึ่งเขาสามารถทำคะแนนสอบได้สูงจนสอบติดวิศวะจุฬาได้สำเร็จ
.
.
#เด็กวิศวะผู้หลงทาง
.
ในช่วงปีแรกของการเรียน พี่ศิระทำเกรดได้ไม่ดีนักเนื่องจากไม่ค่อยตั้งใจเรียน จึงทำให้เขาไม่ติดสาขาที่ตัวเองอยากเรียนและไปลงเอยกับสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม หลังจากนั้นเขาก็ตั้งใจเรียนมากขึ้นจนทำเกรดได้ดีพอสมควร อย่างไรก็ตามพอจบจากมหาลัย เขาก็ไม่ได้เลือกทำงานตรงสายเนื่องจากเขาไม่ได้มีความสนใจในด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
.
พี่ศิระตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางไปสมัครเรียนแอนิเมชั่น 3 มิติตามความชอบของตนเอง และพยายามทำโปรเจกต์เพื่อไปสมัครงาน แต่สุดท้ายก็มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะเขาไม่ได้เรียนจบมาตรงสายจึงสู้คนที่จบสายนี้มาโดยตรงไม่ได้ นอกจากนั้นการทำงานแอนิเมชั่นคนเดียวนั้นก็เป็นเรื่องยากลำบากพอตัว
.
สุดท้ายพี่ศิระก็ต้องหันกลับมาสมัครงานด้านวิศวะอีกครั้ง เขาได้งานในบริษัทที่ควบคุมอุปกรณ์ในโรงงานซึ่งการทำงานที่นี่ทำให้เขาฝึกการมองสิ่งต่างๆ อย่างเป็นระบบมากขึ้น (ส่งผลต่อตรรกะการเขียนสูตร Excel ด้วย) แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องเดินทางไปกลับต่างจังหวัดบ่อย เขาทำงานอยู่ที่นี่ได้หนึ่งปีก่อนที่จะออกมาเรียนต่อปริญญาโท MBA ที่จุฬา ซึ่งในระหว่างเรียนปริญญาโท เขาก็ทำงานออกแบบกราฟิกและดูแลเว็บไซต์ให้กับสมาคมผู้วิจัยยาควบคู่ไปด้วย
.
.
#สู่การทำงานสายข้อมูลที่KBANK
.
ในช่วงการเรียนต่อโทนี้เองที่ทำให้พี่ศิระรู้ว่าตัวเองชอบงานเกี่ยวกับข้อมูลและตัวเลข นอกจากนั้นเขายังได้เรียนรู้ว่าโปรแกรมอย่าง “Excel” ทำอะไรได้เยอะมากๆ หลังจากเรียนจบ พี่ศิระจึงเริ่มตระเวนหางานที่เกี่ยวกับข้อมูลซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ธนาคารกสิกรไทยต้องการพนักงานที่มีความรู้เรื่องข้อมูลเข้ามาในทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อพอดี เขาจึงได้รับเลือกเข้าทำงานที่ธนาคารกสิกรไทยในที่สุด
.
เมื่อเข้าทำงานได้ไม่กี่วัน พี่ศิระก็ได้รับโปรเจกต์พัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและพัฒนาระบบการจัดการข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ เขาจึงต้องพยายามศึกษาข้อมูลและเรียนรู้การใช้โปรแกรม Excel และ Access ด้วยตัวเองผ่านอินเตอร์เน็ตซึ่งส่วนใหญ่ในสมัยนั้นมีแต่ข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษ นั่นทำให้เขามั่นใจว่าก่อนที่จะศึกษาโปรแกรมต่างๆ หรืออะไรก็ตาม เราควรศึกษาภาษาอังกฤษก่อนเป็นอย่างแรก จนในที่สุด พี่ศิระก็สามารถทำสองโปรเจ็กต์นั้นได้สำเร็จภายในเวลาเดือนเดียว
.
อย่างไรก็ตามการทำงานกับข้อมูลนั้นต้องใช้เวลาอย่างมากเพราะจำนวนข้อมูลมีอยู่มหาศาลซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะทำงานให้เสร็จตามกำหนด “ผมเป็นคนขี้เกียจมาก เวลาที่ต้องทำอะไรถึกๆ” พี่ศิระจึงทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้งานเสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ซึ่งนำมาสู่การศึกษา Excel อย่างลึกซึ้งจนกลายเป็นเซียน Excel ประจำออฟฟิศ
.
.
#กำเนิดinwExcel
.
เมื่อมีความรู้อยู่กับตัวมากมาย พี่ศิระก็ไม่ลืมที่จะแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับ Excel เขาสร้างเว็บไซต์สรุปเคล็ดลับการใช้ Excel ทิ้งไว้เพื่อแชร์ความรู้ต่อให้เพื่อนๆ และสรุปความรู้ให้ตัวเองไปด้วยเช่นกัน (ยิ่งแชร์ความรู้ เราก็จะยิ่งเก่งขึ้น) นอกจากเว็บไซต์แล้ว เขาก็สร้างเพจ Facebook และ ช่อง YouTube ขึ้นมาโดยตั้งชื่อว่า “inwExcel” หรือเทพเอ็กเซล ตามที่หลายๆ คนชอบเรียกเขาในที่ทำงาน (ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ThepExcel ภายหลัง)
.
ช่วงแรกที่ทำเทพเอ็กเซลพี่ศิระไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะวัตถุประสงค์หลักคือการทบทวนความรู้ให้ตนเองเหมือนกับการทำเพจเล่นๆ ทั่วไป แต่พอเวลาผ่านไปก็มีคนมาติดตามเพจมากขึ้นและหลายๆ คนก็มาคอมเม้นขอบคุณสำหรับบทเรียนที่เขานำมาแบ่งปันบ่อยครั้งซึ่งทำให้เขารู้สึกดีมาก (หลายคนได้โปรโมทขึ้นตำแหน่งเพราะความรู้ที่พี่ศิระแชร์)
.
ในด้านคอนเทนต์ของเทพเอ็กเซลส่วนใหญ่ก็มีทั้งช่วงที่พีคและเงียบเหมือนกับเพจอื่นๆ ทั่วไป แต่ที่สังเกตุได้ง่ายคือบทเรียนพื้นฐานที่ค่อนข้างง่ายและเข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้จะมีคนแชร์ค่อนข้างเยอะ ส่วนบทเรียนที่ซับซ้อนก็มีคนแชร์น้อยตามปกติแต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องแบ่งปันอยู่ดี
.
.
#เทพแห่งExcel
.
พี่ศิระเริ่มทำรายได้จากเทพเอ็กเซลโดยการสอนอบรมในองค์กรต่างๆ แต่ที่สร้างรายได้เกินความคาดหมายคือการทำหนังสือสอนใช้ Excel โดยมีจุดเริ่มต้นคือเขามองว่าหนังสือสอนใช้ Excel ณ เวลานั้นใช้ภาษาค่อนข้างทางการจนมันดูซับซ้อนเกินไปและทำให้เข้าใจยาก เขาจึงอยากทำหนังสือของตัวเองที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย
.
เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ในการทำนิตยสารการ์ตูนขณะเรียน พี่ศิระจึงกล้าพิมพ์หนังสือ Excel ของตัวเองโดยไม่กลัวขาดทุน และผลลัพธ์ที่ออกมาคือหนังสือ Excel ของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยการขายหมดเกลี้ยงจากการพิมพ์ขายทั้งหมด 2 รอบ เรียกได้ว่าความรู้จากการทำนิตยสารในช่วงมหาลัยทำให้เขามีทักษะในการเขียนและออกแบบกราฟิกที่นำมาใช้ในการทำเพจถึงปัจจุบันด้วยเช่นกัน
.
นอกจากการอบรมในองค์กรและทำหนังสือซึ่งเปลี่ยนมาในรูปแบบ E-book แล้ว การทำคอร์สออนไลน์คืออีกหนึ่งสิ่งที่พี่ศิระนั้นคิดว่าเวิร์คมากเนื่องจากสามารถทำรายได้ในแต่ละเดือนโดยที่เขาไม่ต้องไปนั่งสอนด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม พี่ศิระคิดว่ายังไงก็ยังจำเป็นต้องออกไปสอนแบบเจอผู้คนจริงๆ อยู่ดีเพราะต้องการฟีดแบคจริงๆ จากผู้เรียนเพื่อนำไปพัฒนาหลักสูตรการสอนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
.
หลังจากทำงานที่ KBANK มาได้ 9 ปี พี่ศิระก็ตัดสินใจลาออกเนื่องจากเขาต้องการใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น และหันมาเปิดบริษัท เทพเอ็กเซล จำกัด เพื่อโฟกัสกับธุรกิจของเขาอย่างเต็มตัวจนถึงปัจจุบัน
.
.
#อยากเริ่มใช้Excelต้องเริ่มอย่างไร
.
สิ่งที่พี่ศิระคิดว่าเราต้องมีอย่างแรกในการทำ Excel คือการกำหนดเป้าหมายของตัวเองให้ได้ก่อน เพราะความรู้ใน Excel นั้นมีไม่สิ้นสุด ถ้าเราเรียนโดยไม่มีเป้าหมาย ทุกอย่างก็จะดูล่องลอยและจับต้องไม่ได้ และเราก็จะไม่เห็นผลลัพธ์ของการกระทำนั้น ดังนั้นเราควรตั้งเป้าหมายเช่น ต้องทำโปรเจคอะไรซักอย่างให้ได้ ซึ่งเราก็จะฝ่าฝันจนได้ความรู้ใหม่ๆ ไปตอบโจทย์เป้าหมายนั้นในที่สุด
.
อีกหนึ่งอย่างคืออย่าไปกลัวตัวเลข เพราะเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้อย่างแน่นอนในการใช้ Excel ดังนั้นในการใช้ Excel และอย่ามองว่าตัวเลขเป็นแค่ตัวเลข เราควรเข้าใจที่มาที่ไปและความหมายเชิงธุรกิจของตัวเลขเหล่านั้นด้วย แล้วเราจะจัดการข้อมูลใน Excel ได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
.
.
#ความแตกต่างของPowerBIและExcel
.
Power BI คือโปรแกรมที่แยกมาเพื่อการทำ Interactive Dashboard โดยเฉพาะ ถึงแม้ Excel ก็ทำ Dashboard ได้ แต่ Power BI จะมีกราฟในการทำ Visualization หลายแบบมากกว่า นอกจากนั้นระบบการแชร์รายงานของ Power BI นั้นยังปลอดภัยกว่าเนื่องจากสามารถแชร์ผ่านระบบออนไลน์ของ Microsoft ซึ่งสามารถเลือกผู้ใช้ที่จะเข้าถึงข้อมูลได้ ต่างจากการแชร์ของ Excel นั่นก็คือการก็อปปี้ไฟล์สำเร็จรูปแล้วส่ง
.
อย่างไรก็ตาม Power BI ก็มีข้อเสียเช่นกันในเรื่องที่ไม่สามารถกำหนดรายละเอียดตามช่องตารางเหมือนใน Excel ได้ ว่ากันง่ายๆ คือ Power BI มีวัตถุประสงค์ในการทำ Dashboard แต่ Excel สามารถทำได้ทุกอย่างที่มีผลลัพธ์เป็นตาราง
.
.
#Mindsetที่คนทำเกี่ยวกับดาต้าควรจะมี
.
“ต้องขี้เกียจ(ทำงานถึก)ครับ” หรือถ้าพูดให้ถูกคือเราต้องหาวิธีที่ดีกว่าในการทำงานเสมอ สำหรับพี่ศิระ การทำงานกับข้อมูลที่มหาศาลนั้นต้องใช้เวลาอย่างมาก ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือถามตัวเองว่ามีวิธีที่ดีกว่านี้หรือไม่ เพราะเราควรมี mindset ที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ จะได้ไม่จมอยู่กับการทำงานแบบเดิมๆ ที่มีประสิทธิผลน้อยกว่า
.
.
#เป้าหมายของเทพExcel
.
พี่ศิระมีเป้าหมายในอนาคตที่จะทำเครื่องมือสอน Excel ที่เหมาะกับแต่ละคนที่มีพื้นฐานการเรียนไม่เท่ากันเพราะในปัจจุบันเขาแบ่งคอร์สออนไลน์ของตัวเองเป็นระดับ Basic หรือ Advanced อยู่แล้ว แต่มันอาจจะกว้างเกินไปสำหรับบางคนที่เข้าใจบางเรื่องอยู่แล้ว พี่ศิระจึงอยากโฟกัสเรื่องที่ผู้เรียนต้องการที่จะศึกษาจริงๆ และจะทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น
.
นอกจากนั้นเขาอยากเพิ่มคอร์สอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น Python ที่สามารถใช้ร่วมกับโปรแกรม Excel และ Power BI ได้ เนื่องจากเราไม่สามารถยึดติดกับเครื่องมื่อเพียงชิ้นเดียวตลอดไปได้เพราะเทรนด์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางทีคนอาจจะเลิกใช้ Excel หรือ Power BI ในอนาคตก็เป็นได้ เราจึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
.
.
#ฝากถึงผู้อ่าน
.
สิ่งที่สำคัญและอย่าไปกลัวมันเด็ดขาดคือ ภาษาอังกฤษ หากเราได้อ่านหรือได้ยินได้ฟังบ่อยๆ ก็จะสามารถใช้มันได้เอง สื่อต่างๆ อย่างเช่น Youtube เป็นตัวช่วยในการฝึกฝนที่ดี และเราไม่ต้องแคร์เรื่องแกรมม่ามากขนาดนั้นเพราะเราฝึกอังกฤษโดยไม่ได้เอาไปสอบที่ไหน
.
1
มากไปกว่านั้นคือการหาความรู้ใหม่ๆ เยอะๆ ว่ากันง่ายๆ คือสนุกกับชีวิต เราควรมองว่าถ้าเราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ แล้ว เราจะมีความสามารถมากขึ้นและจะสนุกขึ้น และเราก็จะสามารถรับมือกับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างแน่นอน
.
ติดตามเรื่องราวของเขาได้ที่นี่ https://blog.cariber.co/careerfact/post/sira-thep-excel
.
#careerfact #Cariber
………………
Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว
ติดตาม Career Fact ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/careerfact
โฆษณา