15 พ.ย. 2021 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #เวลาเหลือน้อยลงทุกที ]
ในฟุตบอลโลก 2018 ทีมชาติอังกฤษทำผลงานได้น่าประทับใจ ทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ ชนิดที่ว่าเกือบผ่านเข้าชิง หากไม่แผ่วในช่วงต่อเวลาพิเศษ จนพ่ายให้โครเอเชียซะก่อน
1
หนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นจนถูกโฟกัสไม่น้อยไปกว่าใครคือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ประจำการเซ็นเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายในระบบ 3-5-2 ได้อย่างน่าประทับใจ ดูมาดเนี้๊ยบ ฉลาดปราดเปรื่อง ทรงดีมากๆ
กูรูทั้งหลายต่างยกนิ้วให้ แม็กไกวร์ พร้อมมั่นใจว่าต้องก้าวสู่ความเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคตแน่ๆ
ในขณะเดียวกันเมื่อเหลียวหลังดูเส้นทางก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า แม็กไกวร์ ต้องบากบั่นพากเพียรอย่างมาก เพื่อพิสูจน์ว่าดีพอสำหรับเกมระดับสูง
จากเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดที่คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของทีม 3 ปีติดต่อกัน เช่นเดียวกับติดทีมยอดเยี่ยมลีกวันถึง 3 ฤดูกาล
พอโยกมาฮัลล์ ซิตี้ที่ได้เล่นทั้งในระดับพรีเมียร์ลีกและเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ก็ยังเคยควบสองรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลโหวตหรือเพื่อนร่วมทีมลงคะแนนเลือก
ขณะเดียวกันเมื่อก้าวมาเป็นแข้งของเลสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้สัมผัสรางวัลใหญ่ของสโมสรด้วย เรียกว่ามาตรฐานคงเส้นคงวาเลยจริงๆ ย้ายไปเล่นทีมไหนก็เป็นเสาหลักแนวรับ คล้ายผนังทองแดงอันแกร่งกล้า
1
เมื่อผสมกับผลงานในฟุตบอลโลกดังกล่าว ที่มีทั้งโหม่งทำประตูและแอสซิสต์ให้ แฮร์รี่ เคน จึงเชื่อได้ว่า แม็กไกวร์ เตรียมแต่งตัวรอไปเล่นกับสโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีกได้เลย ขึ้นอยู่แค่ทีมไหนจะยื่นข้อเสนอมาให้
1
อีกคุณสมบัติที่น่าจับตาคือความเป็นผู้นำ แม้จะไม่ได้เป็นประเภทพูดเยอะหรือขี้โวยวาย ตะคอกสั่งการ ต่อปากต่อคำ แต่เราได้เห็นมาดนิ่งๆแล้วมันก็ดูน่าเชื่อถือไปอีกแบบ
2
เอาง่ายๆ แม็กไวร์ ดูเพอร์เฟ็คต์มาก แทบจะหาจุดด้อยไม่เจอ ไม่น่าแปลกใจหากจะมียักษ์ใหญ่มารุมตอม
ลิเวอร์พูลเองได้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ไปเรียบร้อยตั้งแต่ตลาดเดือนมกราคม ด้วยค่าตัวเป็นสถิติกองหลัง 75 ล้านปอนด์ จึงไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินคว้าใครมาอีก
สองบิ๊กแห่งแมนเชสเตอร์คือยูไนเต็ดและซิตี้ต่างหากที่ขับเคี่ยวกันดุเดือด โดยเลสเตอร์เองเข้าใจสถานการณ์ ยินดีรับฟังข้อเสนอ
แต่ว่าต้องรอฤดูร้อน 2019 ซะก่อน ไม่ได้คิดปล่อยหลังจบฟุตบอลโลก เพราะมันฉุกละหุกเกินไป รวมทั้งจิ้งจอกสยามหวังไว้หากผลงานในลีกติดท็อปโฟร์ ได้โควต้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อาจเปลี่ยนใจ แม็กไกวร์ ให้อยู่ต่อได้
อย่างไรก็ตามตัวนักเตะตั้งเป้าอยากย้ายไปทีมใหญ่เรียบร้อย โอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่า ค่าจ้างที่มากกว่าเดิม ล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าเย้ายวนทั้งสิ้น
กระนั้นค่าตัวของ แม็กไกวร์ ก็ต้องสูงตามด้วยเช่นกัน ผู้บริหารจิ้งจอกสยามปักป้ายทำลายสถิติกองหลังแพงสุดในโลกของ ฟานไดค์ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก มันต้องออกมาทรงนี้อยู่แล้ว
ลึกลงไปไม่ได้อยากขายหิวกระหายเงินขนาดนั้น แต่รู้ดีว่านักเตะเองก็คงต้องการย้ายไปสโมสรใหญ่ อีกทั้งถ้าข้อเสนอรับได้ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ ไม่คือกลไกของตลาดซื้อขายผู้เล่นอยู่แล้ว
ตอนนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือเรือใบสีฟ้า หวังจะหาใครสักคนมาปลุกปั้นเป็นคีย์แมนแนวรับแทนที่ แว็งซ็อง ก็องปานี ซึ่งเปิดหมวกลาทีมในฤดูร้อน 2019 พอดี
กุนซือสแปนนิชชื่นชอบ แม็กไกวร์ ตรงที่ใช้เท้ากับบอลได้โอเคเลย สามารถบิลด์อัพจากแดนตัวเองได้ หากมีเพื่อนร่วมทีมคอยช่วยเหลือประคองไว้ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
ส่วนรูปร่างสูงใหญ่สูงเหยียบ 195 เซ็นติเมตร จะมีประโยชน์มากสำหรับการเล่นเซ็ตพีซ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะรุกหรือรับ
เลสเตอร์ต้องเรียกสูงไว้ก่อนตามเชิงนั่้นแหล่ะ เท่าที่ผ่านมาพวกเขาผิดพลาดเสียผู้เล่นคนสำคัญอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มาแล้ว เพราะประมาทไประบุค่าฉีกเอาไว้จนโดนเชลซีมาสอยไปง่ายๆ
ระหว่างที่กำลังต่อรองกันนั่นเอง แมนฯยูไนเต็ดก็สอดมือมาเอี่ยวด้วย รู้กันอยู่ว่าแผงหลังปีศาจแดงเต็มไปด้วยปัญหาสารพัด เสียประตูง่ายมาก หาคู่เซ็นเตอร์แบ็กที่มั่นคงชัวร์ๆไม่ได้เลย
ทางเดียวที่อุดเลือดไหลครั้งใหญ่ได้ ต้องซื้อปราการหลังระดับคุณภาพคับแก้วเท่านั้นมาประจำการ
ทีนี้พอมีสองรายมาแข่งขันกัน นั่นจึงส่งผลให้เลสเตอร์กุมความได้เปรียบไว้มากยิ่งขึ้น สามารถโก่งราคาได้เต็มๆ
1
ดังนั้นจึงสบโอกาสปั่นให้สูงได้อีก ซึ่งก่อนหน้าไม่นานแมนฯยูไนเต็ดเพิ่งเช็คบิล อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็กขวาจากคริสตัล พาเลซ โดยหน้ามืดยอมจ่ายถึง 50 ล้านปอนด์ ทั้งที่ไม่มีดีกรีอะไรติดตัวเลย ยังใหม่มากในวงการ
แมนฯซิตี้เริ่มถอดใจแล้ว แม้เจ้าของสโมสรจะร่ำรวยมากๆ แต่ตามนโยบายแล้วต้องใช้เงินอย่างสมเหตุสมผล ให้เกิดความสมดุลกัน อีกทั้งยังป้องกันกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์เล่นงานอีกต่างหาก
เมื่อเป็นอย่างนี้แมนฯยูไนเต็ดจึงแทบจะฉายเดี่ยว หยั่งเชิงก่อนที่ 70 ล้านปอนด์ โดนบอกปัดมาอย่างทันควัน ก่อนจะเสียเวลางัดข้อต่อรองกันอีกสักพัก มาได้ข้อสรุป 80 ล้านปอนด์ ทุบสถิติเดิม ฟานไดค์ 75 ล้านลงได้
แฟนผีทั้งหลายต่างเชื่อมั่นว่าหากมี แม็กไกวร์ มาประจำการหลังบ้าน น่าช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้มาก
แต่เอาเข้าจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย โดยเฉพาะผลงานในช่วงหลังที่สะท้อนว่าไม่คุ้มค่ากับราคาและความคาดหวัง
เมื่อ 3 วันก่อน รอย คีน เพิ่งเปิดฉากวิจารณ์ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อย่างเผ็ดร้อน หลังโขกประตูให้ทีมชาติอังกฤษนำแอลเบเนีย ก่อนฉลองสะใจด้วยท่าสไลด์เข่าบนพื้นหญ้า แล้วเอามืออุดหูสองข้าง
อดีตกัปตันทีมแมนฯยูไนเต็ดบอกว่านี่คือการกระทำที่น่าละอาย เพราะเชื่อว่า แม็กไกวร์ อยากจะตอบโต้เสียงวิจารณ์ที่ถล่มโถมอย่างหนัก จากฟอร์มห่วยแตกกับต้นสังกัด รวมทั้งความเหมาะสมในการเป็นผู้นำทีม
ในขณะที่แฟนบอลส่วนใหญ่แสดงความเห็นผ่านทางโซเชี่ยล ต่างก็เชื่อว่า แม็กไกวร์ เจตนาสื่อถึงเรื่องดังกล่าว แม้ภายหลังเจ้าตัวจะเสียงแข็ง ปฏิเสธไม่ได้ตั้งใจพาดพิงใครก็ตาม
หากเทียบกับซีซั่นก่อน ฤดูกาลนี้ แม็กไกวร์ ผลงานย่ำแย่เหลือเกิน ยิ่งในวันที่ไร้เงา ราฟาแอล วาราน ยืนเคียงข้างแล้ว หนักหนาสาหัสกว่าเดิมเท่าตัว เหมือนขาดความมั่นใจไปดื้อๆ
1
ไหนจะเรื่องความเฉื่อยชา ภาษากายที่มักบอกว่ายอมแพ้ ไร้คุณสมบัติความเป็นผู้นำ ไม่มีการปลุกกระตุ้น เหล่านี้ล้วนแต่ฉุดให้ภาพลักษณ์หมดคุณค่ามากขึ้นไปทุกที
เมื่อบวกกับเหตุการณ์ล่าสุดเข้าไปด้วย แม็กไกวร์ ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันมากกว่าเดิม เท่าที่ผ่านมามันสะท้อนเลยว่าสภาพจิตใจมีปัญหาอย่างหนัก
แม็กไกวร์ ยังไม่อาจต่อสู้กับอุปสรรครอบด้านได้ รับมือไม่ไหวเลย อีกทั้งเพื่อนร่วมทีมก็ไม่อาจช่วยแบ่งเบาให้ดีขึ้นไปกว่าเดิม
สำหรับแฟนแมนฯยูไนเต็ดส่วนใหญ่ แม็กไกวร์ น่าผิดหวัง เมื่อเทียบกัปตันทีมคนก่อนๆ เห็นภาพชัดเจนกว่าเดิมอีก นี่คือจุดอ่อนอย่างแท้จริง ไม่ต้องนับฟอร์มที่รูดลงไป ไว้ใจไม่ได้เลย
อีกด้านเขาต้องกล้าปฏิเสธ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในบางเกมที่ถูกส่งลงตัวจริงแล้วคิดว่าไม่ฟิตมากพอด้วย อย่าเซย์เยสอย่างเดียว มันส่งเสียหายต่อตัวเองและสโมสรจริงๆ
หากคุณเป็นผู้นำ สิ่งที่ต้องทำคือแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเหมาะสมและพร้อมเป็นแกนหลักเพื่อพาทีมสู่ชัยชนะ
เวลาของเขาเหลือไม่มาก หากยังดึงตัวเองกลับมาไม่ได้ บางทีอาจสายเกินกว่าแก้ไขสำเร็จ
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา