16 พ.ย. 2021 เวลา 01:00 • กีฬา
▪️แพสชั่น และความตรงของเจอร์ราร์ด
---
• “สิ่งสำคัญ คือ โอกาสได้ไปแอนฟิลด์แล้วชนะ แล้วเก็บแต้มได้เต็ม นั่นเป็นทัศนคติ และใจของเราที่ต้องเล่นในทุกเกม มันคือแบบนั้นเลย”
• “ผมต้องการจะชนะทุกเกม ลำดับความสำคัญ และเป้าหมาย และทุกสิ่งอย่างของผมตอนนี้มอบให้กับแอสตัน วิลล่า สิ่งที่ผมการันตีกับแฟน ๆ ผู้เล่น และทีมงานที่นี่ได้ก็คือ เมื่อใดที่ผมมุ่งมั่นกับสิ่งใด ผมทุ่มเต็มตัว”
-สตีเวน เจอร์ราร์ด
---
• ผมแอบ ๆ อ่าน ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ สตีเวน เจอร์ราร์ด จาก Villa TV ผ่านทาง Daily Mail รวมถึงได้เห็นภาพเปิดตัวกับยอดทีมมิดแลนด์ของอังกฤษ แอสตัน วิลล่า อย่างเป็นทางการ
• หรือทุกสิ่งอย่างผ่าน คำพูด, การกระทำ หรือกระทั่งแววตาแล้วก็อดนึกถึงภาพ “วันเก่า ๆ” กับลิเวอร์พูลไม่ได้ครับ
• เห็น SG แล้วคือภาพแห่ง “แพสชั่น” ในเกมมันโผล่ขึ้นมาในฐานะผู้เล่นตอนนั้น และกุนซือในตอนนี้ที่ลึก ๆ ก็ “เข้าใจ” วัฎจักรการเปลี่ยนแปลงได้ครับ เพราะตอนนี้เจอร์ราร์ด ก็ 41 ปีแล้ว
• อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นบทวิเคราะห์วิธีการเล่นที่ว่ากันว่าคล้ายกับทีมของ เยอร์เกน คลอปป์ 4-3-3 และเป็น high pressing ในตอนนี้
• หรือ “กระแส” ตอบรับในฐานะอดีตยอดนักเตะที่กำลังเริ่มต้นในฐานะยอดกุนซือเพื่อต่อยอดต่อไปเสมือนนักมวยที่กำลัง “ไต่เต้า” เลือกคู่ชกเป็น “บันได” ก้าวไปก่อนจะไปชิงแชมป์โลกในอนาคตข้างหน้าเมื่อพร้อมโดยใช้ทีมงานอดีตลิเวอร์พูลแทบจะยกแผง
• ครับ แต่ประเด็นผมอยู่ที่ “ฟุตบอล” แค่แพสชั่น มุ่งมั่น ทุ่มเท แบบประโยคใน 2 พารากราฟข้างต้นคงไม่พอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมระดับสูง
• แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้พิสูจน์มาแล้วกับเชลซี หรือโอเล กุนนาร์ โซลชา!?
• ประโยคสัมภาษณ์เช่นข้างต้น หากจะให้ผม “แกะ” ถึงความลึกซึ้งในการทำหน้าที่นี้จากคน (ผม) อายุครึ่งศตวรรษก็คือ:
• 1.อาจจะเป็นคำพูดที่สร้างความคาดหวังให้แฟน ๆ มากไปเล็กน้อย
• 2.อาจจะเป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยความรู้สึก หรือ emotional มากกว่า “เหตุผล” มากไปนิดนึง ประมาณว่า ฟังแล้วรู้สึกดีแหละ แต่ว่า นิ่งกว่านี้ก็อาจจะโอเคกว่า
• 3.อาจจะเป็นคำพูดที่ไม่ได้ “แตะ” ถึงทีมเก่าที่สร้างชื่อ และมีฐานแฟนอยู่อย่าง ลิเวอร์พูล อย่างที่สามารถเลี่ยงได้ เช่น “ทุกเกมสำหรับผมก็ต้องเต็มที่ทั้งนั้น และมั่นใจได้เลยว่า ผมพร้อมจะรับมือ และมีวิธีการต่อสู้กับทุก ๆ ทีม”
• โดยไม่ต้องเอ่ยถึง แอนฟิลด์ หรือเก็บ maximum points อะไรใด ๆ ให้กดดันตัวเอง
• ครับ ฝรั่งจริง ๆ แล้วจึงมีคอร์สเรียน หรือฝึกการให้สัมภาษณ์สำหรับนักฟุตบอล หรือนักกีฬา
• กรณีข้างต้น แค่ 2 พารากราฟของเจอร์ราร์ด คือ ไม่ได้ถึงกับแย่
• แต่บอกได้แค่ว่า สามารถดีกว่านี้ได้โดยอย่างน้อย ไม่ต้องกระทบกระเทือนแฟนเก่าอย่าง เด็กหงส์แบบพวกเรา
• หรือไปสร้างความคาดหวังใหม่ให้แฟนใหม่ สิงห์ผงาด ได้วาดฝันมากไป
• ส่วนตัว ผมยังมองอีกว่า ฟุตบอลเจอร์ราร์ด น่าจะตรงไปตรงมา เต็มไปด้วยแพสชั่น เล่นสนุก เล่นมันส์ ไม่อ้อมค้อมเหมือนคำพูดนั่นแหละ
• จริง ๆ เยอร์เกน คลอปป์ ก็ไม่ได้ต่างกันนะครับ แต่เพียงแค่ คลอปป์ มีประสบการณ์ และเจ็บมาเยอะกว่า และได้อยู่กับลิเวอร์พูลที่เข้าใจบริบทฟุตบอลมากกว่าวิลล่า ที่ปลด ดีน สมิธ คนที่พาทีมขึ้นชั้น และหนีตายได้ 2 ซีซั่นซ้อนอย่างแน่นอน
• เขียนถึงตรงนี้ ผม “เอาใจ” ช่วย SG แน่นอน แต่ลึก ๆ ก็หวั่นใจว่า ตัวเขาจะก้าวผ่าน “บันได” ไปสู่การชิงแชมป์โลก หรือคือการรับงานที่แอนฟิลด์ที่ที่เขาเอ่ยเอื้อนว่า จะไปเก็บ “แต้มเต็ม” หลังหมดสัญญาในวิลล่า ปาร์คอีก 2 ปีครึ่งข้างหน้าตามนัดได้หรือไม่? อย่างไร?
• รักนะ “เจิร์ด”
• ขนาดนายพูดกระทบทีมนิด ๆ เรายังเข้าใจ และเอาใจช่วยนาย...เสมอ ๆ แล#KMDCoffeeBreak
ปล.ผมขอยกยอด LIVE FB: Deep RED Talk กับพี่กบ Captain No.12 เป็นวันจันทร์หน้า 3 ทุ่ม และแทนที่ด้วยคอนเทนท์ เจอร์ราร์ด ชิ้นนี้อ่านกันชดเชยนะขอรับ
☕ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์
📷 The Guardian
#ไข่มุกดำ #ไข่มุกดำทีม #สตีเวนเจอร์ราร์ด #สตีวีจี #แอสตันวิลล่า #ลิเวอร์พูล #KMDCoffeeBreak
โฆษณา