20 พ.ย. 2021 เวลา 11:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กรณีศึกษา FOREX คืออะไร
เสี่ยงมากน้อยแค่ไหนหากลงทุน
กับการลุยตลาดไทยของโบรกต่างชาติ “Vantage”
ในโลกยุคปัจจุบันที่การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ผ่านแอปพิลเคชั่นกลายเป็นเรื่องที่ใครหลายคนให้ความสนใจ ตั้งแต่หุ้น กองทุน น้ำมัน ทองคำ รวมไปถึงคริปโตเคอเรนซี และการเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน (Forex) ล้วนแต่เป็นหนทางเพื่อสร้างความมั่งคั่งทางรายได้ และดีกว่าแค่การที่นำเงินเก็บไปออมไว้ในบัญชีออมทรัพย์ธรรมดาๆ ของธนาคารหวังดอกเบี้ยเงินฝากที่ไม่มีวันชนะเงินเฟ้อ ยิ่งเก็บนานยิ่งเสื่อมมูลค่า เผลอๆ ดอกเบี้ยก็ไม่ได้ แถมเงินต้นอาจจะหายด้วยซ้ำ
ฉะนั้นคนรุ่นใหม่มักมองหาการลงทุนเพื่อนำเงินไปต่อเงินให้เกิดการงอกเงยของสินทรัพย์ที่มี หรือที่เรียกว่าการใช้เงินทำงานนั่นเอง
แต่ที่ผ่านมาหลายคนที่เข้าสู่ตลาดการลงทุนมักเข้ามาด้วยความต้องการอยากรวย แต่ขาดความรู้ความเข้าใจในรูปแบบการลงทุนอย่างถูกต้อง มิหนำซ้ำความอยากรวยโดยที่ไม่รู้วิธีกลับกลายเป็นจุดอ่อนให้ผู้ที่ไม่หวังดีนั้นใช้โอกาสเพื่อหลอกล่อเหยื่อด้วยวิธีการต่างๆ จนมีผู้เสียหายไม่น้อยต้องตกหลุมพรางมิจฉาชีพเหล่านี้ ต้องสูญเสียเงินทองมากมาย กลายเป็นประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
โดยเฉพาะกับการลงทุน Forex ที่เมื่อใครไม่มีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง และไม่พร้อมที่จะรับความเสี่ยงจากความผันผวน ก็อาจจะส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในการกระโดดลงไปสู่ตลาดการค้าค่าเงิน ซึ่งมีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่า Forex คืออะไร ถูกกฎหมายหรือไม่ แล้วความเสี่ยงในการเข้ามาในตลาดนี้มีมากน้อยขนาดไหน ผู้เขียนจะอธิบายอย่าละเอียดในบทความนี้
🔵 รู้จักกับ ‘Forex’ ตลาดค้าค่าเงินที่คนมักไม่เข้าใจ
Forex หรือ "Foreign Exchange Market" คือ ตลาดซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หนึ่งในตลาดการลงทุนเพื่อเก็งกำไรในค่าเงิน ผ่านการซื้อ-ขาย คู่สกุลเงินต่าง ๆ เช่น EUR-USD, USD-JPY หรือ GBP-USD เป็นต้น ซึ่งผลตอบแทนกำไรหรือขาดทุน ก็จะมาจากส่วนต่างของสกุลนั้น ๆ ที่ทำการซื้อ-ขาย และคำว่า Forex ใช้เรียกเฉพาะการเทรดบนแพล็ตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น ไม่นับการที่ไปซื้อ-ขายเงินจากกระบวนการอื่นๆ
โดยเราจะได้กำไรได้ก็ต่อเมื่อคาดการณ์ได้ว่าสกุลเงินนั้นจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางทางใด เพื่อที่จะซื้อ-ขายเก็งกำไรได้ถูกจังหวะ คล้ายกับการลงทุนประเภทอื่นทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน หรือทองคำ ก็มีหลักการเดียวกันคือ "ซื้อราคาถูก ขายราคาแพง" ซึ่งเป็นเบสิกพื้นฐานในการลงทุนในทุกๆ ประเภทรวมทั้ง Forex
เดิมทีการเทรด Forex ในช่วง 20-30 ปีก่อนนั้นจะต้องเล่นผ่านสถาบันการเงิน ธนาคาร หรือโบรกขนาดใหญ่ที่ทำการซื้อ-ขายสกุลเงิน ผ่านธนาคารโดยตรงเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการมีแพล็ตฟอร์มที่เข้าถึงผู้ใช้บริการทั่วไป ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการเทรด Forex ได้ง่ายขึ้น และเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง มีความผันผวนมาก แต่ก็คาดหวังผลกำไรได้สูงเช่นกัน
จุดการทำกำไรของ Forex นั้นสามารถทำกำไรได้สองทาง คือ ได้ทั้งขาขึ้นและขาลงของอัตราแลกเปลี่ยน ที่ไม่ว่าตลาดค่าเงินนั้นจะบวกหรือลบก็สามารถทำกำไรได้ แต่ในทางกลับกันก็มีโอกาสขาดทุนได้อีกด้วย
🔵 อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ Forex ราคาขึ้นหรือลง?
ด้วยการที่ Forex เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าการซื้อขายวันละประมาณ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 163 ล้านล้านบาท การเทรดค่าเงินจึงเป็นปัจจัยในการขึ้น-ลงของราคา หลักๆ มักอิงกับอัตราค่าเงินสกุลต่างๆ ที่สำคัญอยู่ในตะกร้าเงินโลก ซึ่งอัตราค่าเงินจะแข็งหรืออ่อนก็มักขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ เป็นหลัก ก็สอดรับกับนโนบายธนาคารกลางของประเทศ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องงบการค้าระหว่างประเทศ สภาวะทางการเมือง นโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ข่าวสารในแวดวงการลงทุนที่นักลงทุนรับรู้มา รวมทั้งอิทธิพลจากการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อการขึ้นและลงของ Forex ทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อแต่ละสกุลเงินในตลาดมีความเฉพาะตัวทั้งปัจจัยภายในและภายนอก จึงเป็นหนึ่งในตลาดการลงทุนที่มีความผันผวนในตัวเองสูงอย่างที่กล่าวไป และการเข้ามาลงทุนในตลาดการเงินแห่งนี้ต้องติดตามสภาวะการณ์ต่างๆ ทั้งการเงิน เศรษฐกิจ รวมทั้งสถานการณ์บ้านเมือง และข่าวที่เป็นปัจจัยบวกหรือลบเข้ามากระทบอย่างละเอียดครอบคลุมไม่ต่างจากการลงทุนในรูปแบบอื่น
ด้วยการที่ตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้เป็นหนึ่งในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง การซื้อขายสามารถเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าได้ราคาที่พอใจแล้วก็สามารถซื้อได้ในราคานั้นทันที และการมีผู้เล่นในตลาดที่มีปริมาณสูงมาก ทำให้การปั่นราคาทำได้ยาก เพราะไม่ได้มีเจ้าตลาดเหมือนกับหุ้น เป็นการอิงราคาจากค่าเงินจึงเป็นปัจจัยใหญ่ที่สามารถคาดการณ์ด้วยตัวชี้วัดได้ ซึ่ง Forex จะมีลักษณะคล้ายกับคริปโตฯ เพียงแค่สินทรัพย์ต่างกันที่เป็นเงินสกุลหลักกับเหรียญดิจิทัลนั่นเอง
🔵 หุ้น VS Forex ต่างกันอย่างไร?
อธิบายแบบง่ายๆ ได้ว่า “หุ้น” คือการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเป็นการซื้อขายผ่านตลาดกลางที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ (Organized Market) ซึ่งก็คือ “ตลาดหุ้น” ทำหน้าที่เป็น "องค์กรกลาง" สำหรับซื้อขายหุ้น ทุกการซื้อขายของนักลงทุนจะเกิดขึ้นภายใต้การควบคุมและกำกับดูแลของตลาดหุ้น
แต่สำหรับ Forex จะแตกต่างออกไปเพราะเป็นการเทรดโดยไม่ผ่านตัวกลาง (Over The Counter) ที่เข้ามารวมศูนย์หรือควบคุมธุรกรรมการซื้อขาย จึงเรียกว่า "Decentralized Market" (กระจายศูนย์การซื้อขาย) การซื้อขายจะเป็นการตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ผ่านแพล็ตฟอร์มที่เชื่อมต่อกันบนเครือข่ายเอิเล็กทรอนิกส์กับสถาบันการเงินจากทั่วโลกที่เชื่อมต่อกันเป็นตลาด OTC จึงทำให้ระบบการจับคู่คำสั่งซื้อขายมีความซับซ้อนมาก การจับคู่คำสั่งซื้อขายสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆ กระบวนการ เช่น อาจจับคู่คำสั่งจบกันตั้งแต่ภายในโบรกเกอร์ หรือส่งต่อไปผู้ให้สภาพคล่องปลายทาง (Liquidity Provider) ก็ได้
ทั้งนี้ Liquidity Provider (LP) จะเป็นเหมือนตัวประสานที่คอยทำหน้าที่เป็นผู้ "รับซื้อ" คำสั่งซื้อขาย และถ้านักลงทุนคนใดอยากขาย LP ก็จะมาเป็นผู้ซื้อ ถ้าอยากนักลงทุนอยากซื้อ LP ก็จะมาเป็นผู้ขายให้ ไม่ว่าจะเป็นระดับดีลเลอร์ รายย่อย หรือสถาบันใหญ่ๆ โดยคำสั่งซื้อขายในตลาด Forex จะอาจจับคู่กับใครในโลกก็ได้ หรือแม้แต่คำสั่งซื้อขายนั้น อาจไม่ได้รับการ "Filled" เพราะไม่มีคนมาซื้อหรือขายด้วยก็ได้เช่นกัน
🔵 แล้วใครคือผู้เล่นในตลาด Forex
กลุ่มผู้เล่นในตลาด Forex อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า เป็นตลาดที่ผู้เล่นจำนวนมหาศาล เทรดได้ 24 ชั่วโมง ดังนั้นจึงเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง โดยหลักๆ จะเป็นสถาบันทางการเงินทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งธนาคารกลาง กองทุนรวมต่างๆ กองทุน LTF บริษัทประกันภัย โบรกเกอร์ และนักลงทุนรายย่อย
โดยผู้ที่มีอิทธิพลมาสุดในตลาดก็คือ “ธนาคารกลาง” เนื่องจากเป็นผู้กำหนดนโยบายทางการเงินของประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการสถานะของค่าเงินนั้นๆ และการกำหนดนนโยบายทางการเงิน การปรับลด คงที่ หรือเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายต่างๆ ย่อมส่งผลต่อท่าทีของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ และกองทุนรวม ต่างก็จะเคลื่อนย้ายเงินที่ตัวเองบริหารอยู่ไปในทิศทางใด เช่นจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลไหม หรือว่าจะไปซื้อสินทรัพย์อื่นๆ แทน
1
ขณะที่ธนาคารเอกชนก็จะดูว่า ณ เวลานั้นมีความต้องการสกุลเงินต่างประเทศหรือไม่ เพื่อนำมาให้บริการในกิจการ ซึ่งธนาคารจะเทรด Forex ระหว่างธนาคารด้วยกันเอง รวมทั้ง กองทุนรวม และบริษัทประกันภัยต่างๆ ที่มักจะมีการโยกย้ายเงินเพื่อไปบริหารจัดการที่ได้ผลกำไรมากกว่าถือเงินสดเอาไว้อย่างเดียว
🔵 การเข้ามารุกตลาดไทยของโบรกเกอร์ต่างชาติ ‘Vantage’
ในประเทศไทย แอปพลิเคชันสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เกือบทั้งหมดจะเป็นแพล็ตฟอร์มจากต่างประเทศที่เข้ามาทำตลาด เนื่องด้วยเหตุผลว่าในหลายประเทศทั่วโลก มีความก้าวหน้าด้านการลงทุนกว่าไทย รวมทั้งการเทรด Forex ก็เป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ได้รับการรับรองทางกฎหมายอย่างถูกต้อง ซึ่งแพล็ตฟอร์มที่ชื่อคุ้นๆ กันก็ได้แก่ FBS, Exness, Olymp Tread, XM หรือ Vantage เป็นต้น ที่หลายคนคงจะเห็นโฆษณาปรากฏบนสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ เพื่อบอกเล่าถึงคุณสมบัติของแพล็ตฟอร์มว่ามีความสามารถในการเทรดสินทรัพย์ต่างๆ อย่างไรบ้าง บางรายก็ใช้ศิลปินชื่อดังเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในแบรนด์
นั่นหมายความว่าสังคมในประเทศไทยเริ่มเข้าใจรูปแบบการลงทุนเพิ่มมากขึ้น และมีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาในตลาดนี้เป็นจำนวนมาก เพราะอย่าลืมว่าการสื่อสารแบรนด์ผ่านสื่อออนไลน์นั้น กลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีความรู้เรื่องการลงทุน และเข้าใจระบบตลาดเงินตลาดทุนเช่นกัน และนับวันจะยิ่งมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายแพล็ตฟอร์มต้องการนำผลิตภัณฑ์ของตัวเองเข้ามาตีตลาด เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้านั่นเอง
โดยเฉพาะ Vantage ที่เป็นโบรกเกอร์ระหว่างประเทศสําหรับ Forex และสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ซึ่งดำเนินกิจการถูกกฎหมายและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากทางการของออสเตรเลีย โดย Australian Securities and Investment Commission เรียกย่อๆ ว่า ASIC หรือ กลต. ของออสเตรเลียนั่นเอง รวมทั้ง Financial Conduct Authority (FCA) หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินแห่งสหราชอาณาจักร ที่เป็นหน่วยงานด้านการเงินที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และ Vantage ก็เป็นหนึ่งในแพล็ตฟอร์มรายใหญ่ที่หลายประเทศทั่วโลกให้การยอมรับ
ซึ่ง Vantage ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการภายใต้การกำกับดูแลของ Cayman Island Monetary Authority (CIMA) และมีหน้าเว็บไซต์ภาษาไทยอย่างชัดเจน
โดยการซื้อขายบน Vantage สามารถซื้อขายสินทรัพย์ที่มีมากกว่า 180 ตลาดรวมถึง Forex, ดัชนีต่างๆ เช่น Dax330, SP500, DJ30, NAS100, FTSE100 CHINA50, Nikkei225 และอื่นๆ, สินค้าโภคภัณฑ์, โลหะมีค่า, พลังงาน, และเงินดิจิตอล
นอกจากนี้ยังมีการอ้างอิงราคาสินทรัพย์จาก 14 สถาบันทางการเงินที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องชั้นนำของโลก เช่น JP Morgan, Citibank, Nomura, BNP Paribas, HSBC, Goldman Sachs และ Bank of America เป็นต้น
อีกทั้งยังมีการคุ้มครองเงินลงทุนของลูกค้าด้วยกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองเงินลงทุนวงเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับ Briat Insurance เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของนักลงทุน
ส่วนความสามารถในการฝาก ถอน เงิน ก็ทำได้ผ่าน Internet Banking ธนาคารไทยโดยตรง รวมทั้งถ้ามีปัญหาด้านการใช้งานก็มีผู้ดูแลบัญชีที่เป็นคนไทยและภาษาไทยให้บริการอยู่ด้วย
สำหรับแพลตฟอร์มการเทรดจะเป็นระบบ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ซึ่งเป็นตัวกลางการเทรดออนไลน์ขั้นสูงทั้งเงินตราต่างประเทศ สัญญา CFD หุ้น ตลาดฟิวเจอร์ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ และเชื่อมโยงแพล็ตฟอร์มการค้า Forex ต่างๆ ทั่วโลก
ในส่วนของ MetaTrader 5 ได้เพิ่มระบบคำสั่งสองตำแหน่ง netting และ hedging โดยมีเครื่องมือวิเคราะห์เชิงเทคนิคมาให้คุณได้ใช้งานกันอย่างมากมาย และยังอนุญาตให้ใช้โปรแกรมการซื้อขายผ่านหุ่นยนต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำการซื้อขายได้อย่างอัตโนมัติ และมี Indicator จำนวนมากเพื่อให้สามารถวางแผนการลงทุนทั้งแบบฟรีหรือจ่ายเงินด้วย
🔵 สรุปสุดท้ายลงทุน Forex ทำได้หรือไม่ในไทย?
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ได้อธิบายเกี่ยวกับกฎหมายไทยและตลาด Forex เอาไว้ว่า การที่บุคคลทั่วไปหรือบุคคลธรรมดาจะเทรด Forex ผ่านโบรกเกอร์ที่อยู่ในต่างในประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเก็งกำไรนั้น สามารถทำได้ มิได้ผิดกฎหมายในประเทศไทยแต่อย่างใด แต่จะต้องศึกษาเงื่อนไข รวมทั้งควรมีความรู้เรื่องการลงทุนเป็นอย่างดี และต้องลงทุนด้วยตัวเอง
แต่ที่ผ่านมาเรามักเห็นการถูกชักชวนชักจูงในลักษณะให้นำเงินมาลงทุน ฝากเทรด และจะจ่ายผลตอบแทนที่สูง ซึ่งเป็นการเล่นกับความโลภของคนที่อยากได้อยากราย แต่ไม่อยากลงทุนเอง จึงเอาเงินไปฝากให้คนอื่นไปลงทุนให้แบบแชร์ลูกโซ่ ซึ่งแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมายในประเทศไทย ตาม “พรก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527” มาตรา 4 วรรคสอง
เพราะฉะนั้นจงอย่าหลงเชื่อเวลาใครมาชวนให้นำเงินลงทุนไปฝาก ไปเทรด แล้วบอกว่าผลตอบแทนดี ให้มองได้เลยว่าคุณจะโดนหลอกอย่างแน่นอน เพราะการลงทุนไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ โดยไม่ผ่านกระบวนการเรียนรู้อย่างถูกต้อง ดังนั้นการลงทุนทุกรูปแบบมีความเสี่ยง ควรเข้าใจอย่างแท้จริงก่อนลงเงิน
อีกอย่างคือ ต้องพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มีความมั่นคง มีใบอนุญาต มีความน่าเชื่อ ทั่วโลกให้การยอมรับ จึงมีความสำคัญเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวได้อีกด้วย
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
.
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
โฆษณา