22 พ.ย. 2021 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #เท่านี้คือดีที่สุดแล้ว ]
ก่อนฤดูกาล 1996/97 จะเริ่มขึ้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เครียดไม่น้อยเกี่ยวกับขุมกำลัง ซึ่งต้องจัดทัพปรับกระบวนกันให้พร้อม
ตำแหน่งอื่นๆดูลงตัวพอสมควรแล้ว ขาดตรงกองหน้าตัวเป้านี่แหล่ะที่เหลือใช้งานเพียงแค่ 2 คนคือ เอริก คันโตน่า และ แอนดี้ โคล
ก็องโต้ เองตั้งแต่พ้นโทษแบนยาวกลับมาก็เริ่มโรยลงไปตามวัย ในขณะที่ โคล ยังต้องการมาตรฐานที่แน่นอนมากกว่านี้ ต่อให้เรียกความมั่นใจได้บ้างแล้วก็ตาม
เป้าใหญ่ของ เฟอร์กี้ เป็นใครไม่ได้เลยนอกจาก อลัน เชียเรอร์ แต่ก็โดนนิวคาสเซิ่ลตัดหน้าคว้าชิ้นปลามันไปจนได้ หลังจากมัวแต่เต้นฟุตเวิร์คดูจังหวะมากเกินไปหน่อย
1
จนกระทั่งได้รับรายงานจากแมวมอง ซึ่งไปส่องฟอร์มนักเตะสักคนของทีมชาตินอร์เวย์ แล้วเกิดปิ๊งหัวหอกรายหนึ่งขึ้นมา
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คือแข้งคนดังกล่าว ซัดสองประตูช่วยให้ทีมคว้าชัยเหนืออารเซอร์ไบจาน แทบไม่มีใครคุ้นชื่อเลย เพราะเพิ่งเปรี้ยงปร้างกับโมลด์ในลีกสูงสุดนอร์เวย์ไม่นานนัก
รู้แค่ว่ามีหลายทีมใหญ่ในยุโรปเองให้ความสนใจ แต่ไม่คิดอยากจะเสี่ยงเท่าไรนัก เพราะค่าตัวเหยียบ 2 ล้านปอนด์ แพงเอาเรื่องในยุคนั้น
แต่จังหวะที่แมนฯยูไนเต็ดต้องการกองหน้าพอดี แล้วการเซ็นตัวดังๆก็ไม่ง่ายเท่าไรนัก หลายข้อเสนอที่ยื่นไปโดนปฏิเสธกลับมา เลยตัดสินใจเซ็น โซลชา มาไว้ก่อน อย่างน้อยก็ยังอุ่นใจ
สถิติ 41 ประตูจาก 54 เกมในช่วงปีครึ่งที่เล่นให้โมลด์ ถือว่ายอดเยี่ยมเลย อีกทั้งแข้งนอร์วีเจี้ยนมาเล่นในลีกอังกฤษส่วนมากก็ปรับตัวได้ดี ประสบความสำเร็จส่วนตัวหลายต่อหลายคน
เมื่อต่อรองเรียบร้อยแมนฯยูไนเต็ดยอมจ่าย 1.5 ล้านปอนด์ให้กับโมลด์ พอข่าวออกไปแฟนผีต่างขมวดคิ้วงงสงสัยว่า เฟอร์กี้ ไปดึงนักเตะที่ไหนมา โนเนมมากๆ จะไหวหรืออย่างนี้
โซลชา ในวัย 23 ปีบินมาแมนเชสเตอร์เพื่อจัดการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ พอเครื่องแลนดิ้งแล้วเดินทางต่อมายังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ปรากฏว่าไม่รู้จะติดต่อใครดี
เขาแปลกใจที่ไม่มีใครมาแนะนำตัวหรือพาไปยังสถานที่จัดเตรียมไว้ กระทั่งพบกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไรก็พาไปหาไกด์สโมสร ซึ่งทำหน้าที่นำชมสนาม พิพิธภัณฑ์ต่างๆและคิดว่าเขาคือนักท่องเที่ยวมาจากต่างบ้านต่างเมือง
ด้วยความที่เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว ตอนนั้นก็ยังประหม่า จึงไม่กล้าที่จะถามอะไรคนแปลกหน้า เลยปล่อยเลยตามเลย จนทางไกด์ต้องถามรายละเอียดเอง
เมื่อบอกว่าจะมาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะของทีม ไกด์คนดังกล่าวทำเหมือนไม่เชื่อ ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก อาจคิดว่าโดนอำก็เป็นได้
จากนั้นเมื่อแน่ใจเลยยื่นปากกาให้ด้ามหนึ่ง พร้อมบอกว่าเอาไว้ลงลายเซ็นในร่างใบสัญญา เล่นเอา โซลชา ถึงกับหัวเราะ แต่ก็รับไว้ด้วยไมตรี
แล้วหมึกจากด้ามปากกานั้น ก็กลายเป็นในลายลักษณ์อักษร รวมทั้งสักขีพยานในการเริ่มต้นเส้นทางใหม่ของ โซลชา
----------------
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ได้มีความคิดจะให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อยู่ในทีมชุดใหญ่เลย อยากจะส่งไปยังทีมสำรองเคี่ยวกรำให้แข็งแกร่งกว่านี้สักหน่อย
วางไว้ว่าสัก 6 เดือน หากมีพัฒนาการที่น่าสนใจ ค่อยขยับมาเล่นในทีมซีเนียร์ ไม่จำเป็นต้องเร่งร้อนเท่าไรนัก
เมื่อรู้ว่าไม่ค่อยมีใครเชื่อในศักยภาพ โซลชา จึงต้องสำแดงฟอร์มอันแท้จริง ยิงไปสองประตูให้ทีมสำรอง จนมีเสียงชื่นชมจากสต๊าฟฟ์ว่าเด็กคนนี้แววดีเลย
25 สิงหาคม 1996 แมนฯยูไนเต็ดมีคิวรับแบล็คเบิร์น โรเวอร์สในเกมลีก โดยขาด แอนดี้ โคล ซึ่งมีปัญหาอาการบาดเจ็บ เหลือเพียงแค่ เอริก คันโตน่า เป็นหัวหอก ที่เหลือคือ พอล สโคลส์ หรือ จอร์ดี้ ครัฟฟ์ ก็ไม่ได้เล่นตำแหน่งนี้โดยตรง
นั่นคือเหตุผลทำให้ เฟอร์กี้ ตัดสินใจใส่ชื่อ โซลชา ไว้ยังม้าสำรองด้วย เผื่อเหลือเผื่อขาดทีมต้องการประตู อาจส่งลงไปเติมความดุดัน
1
หลายคนยังพอจำเกมดังกล่าวได้ดี ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง กุหลาบไฟเป็นฝ่ายบุกมานำ 2-1 เกมรุกของแมนฯยูไนเต็ดเองดูตื้อตัน เริ่มเจาะลำบากมากขึ้น เฟอร์กี้ เลยต้องโยนไพ่อย่าง โซลชา มาแทน เดวิด เมย์ ผู้เล่นแนวรับในนาทีที่ 64 เรียกว่าพร้อมแลกหมัดกันเลย
1
เขาใช้เวลาเพียงแค่ 6 นาที ก็ยิงตีเสมอได้อย่างน่าทึ่ง จากการเปิดบอลยาวของ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ด้วยความแรง ครัฟฟ์ โหม่งเช็ดมา โซลชา ซัดเปรี้ยงแรกไม่มีจับ ทิม ฟลาวเวอร์ส ทุบมาเข้าทางปืน กดอีกดอกคราวนี้ไม่พลาด
1
เขาชูสองมือดีใจฉลองอย่างเรียบง่าย แม้ความรู้สึกจะลิงโลดสุดๆก็ตาม เอริก คันโตน่า เป็นคนแรกที่ปรี่มาดีใจด้วย ภาพจำนั้นยังคงแจ่มชัดอยู่เสมอ
จากนักเตะที่ไม่ได้มีใครคาดหวัง โซลชา กระหน่ำไปทั้งสิ้น 18 ประตูนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก จากการลงเล่นทั้งสิ้น 33 นัด เป็นตัวจริง 25 นัด ครองดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรชนิดหักปากกาเซียน
1
แม้จะโชว์ให้เห็นความเฉียบคมในการยิงประตูไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร แต่หากมีเกมสำคัญๆจริง เขาก็มักต้องนั่งรอโอกาสที่ข้างสนามเช่นเคย
ในยุคที่แมนฯยูไนเต็ดมี ดไวท์ ยอร์ค และ เท็ดดี้ เชอริงแฮม เข้ามาสมทบในตำแหน่งกองหน้า ในความรู้สึกของใครหลายคนมองว่า โซลชา คือตัวเลือกลำดับสุดท้ายเมื่อรวม แอนดี้ โคล เข้าไปอีกคน
แต่ เฟอร์กี้ ยืนยันว่าไม่ได้คิดอย่างนั้น เลือกใช้งานทั้ง 4 คนตามความเหมาะสมของแต่ละเกม กระนั้นก็ยอมรับว่าเมื่อ ยอร์ค จับคู่กับ โคล จะอันตรายมากสำหรับฝ่ายตรงข้าม
ส่วน โซลชา การเป็นอาวุธลับที่ข้างสนาม ไว้รอโอกาสเจ๋งๆค่อยลงมา กลายเป็นเครื่องหมายการค้าที่ติดตัวเสมอ
ต่อให้เขาซัลโวประตูสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์แมนฯยูไนเต็ดล้มบาเยิร์น มิวนิคเมื่อปี 1999 ภาพดังกล่าวก็ยังคงอยู่เช่นเดิม
คนสำคัญ แต่ควรเป็นสำรอง -- ฟังดูแล้วมันขัดแย้งกัน ทว่านั่นแหล่ะคือ โซลชา
--------------
เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่คัมป์นูเมื่อปี 1999 ไม่มีใครคิดว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะได้สัญญาคุมแมนฯยูไนเต็ดแบบถาวร
แต่การคว้าชัย 14 จาก 19 เกมทุกรายการ ทำให้บอร์ดบริหารไม่อาจปฏิเสธได้ลง โดยเฉพาะเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่บุกไปเข่นปารีส แซงต์ แชร์กแมง 3-1 จนพลิกเข้ารอบ ยังตราตรึงเสมอ
1
อย่างไรก็ตามในบทบาทผู้จัดการทีม เขาก็ไปได้ไม่สุดเหมือนตอนเป็นผู้เล่นเช่นเดียวกัน เต็มที่แค่ได้ชิง แล้วก็ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นผู้แพ้หรอก ทว่าเมื่อคุณกระโดดลงสู่สนามก็ต้องทำใจยอมรับชะตากรรมที่จะตามมา
โซลชา ยอมรับว่าการได้คุมทีมชุดใหญ่แมนฯยูไนเต็ดมันเหมือนความฝัน หลังจากที่เคยเป็นนักเตะและกุนซือทีมสำรองมาแล้ว
เขาต้องการพิสูจน์ตัวเองต่อไปอีก ใครบ้างอยากสูญเสียตำแหน่งที่ปรารถนามานาน แต่เมื่อปราศจากความไว้วางใจทั้งจากลูกน้องตัวเองและฝ่ายบริหาร มันคงเปล่าประโยชน์
นี่คือเวลาที่ต้องยอมรับความจริง ไม่มีแฟนแมนฯยูไนเต็ดคนไหนลืมประตูอันแสนพิเศษเมื่อปี 1999 ได้หรอก รวมถึงความเป็นตำนานนักเตะที่ไม่มีใครขโมยไปได้เลย
ทุกคนหวังจะได้เห็น โซลชา ตามรอย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทวงคืนความยิ่งใหญ่ ยกระดับเป็นกุนซือที่ได้รับการเทิดทูนบูชาทั้งสิ้น
ที่ผ่านมาเขาอาจทำดีที่สุดแล้ว แต่มันไม่ใช่ที่สุดสำหรับสโมสรเท่านั้นเอง
ไฮไลท์การยิงประตูของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด :  http://ow.ly/ijik30s1kJb
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา