26 พ.ย. 2021 เวลา 04:44 • หนังสือ
สติ-อภัย-เชื่อมโยง
1.
สมมติว่าโลกนี้คือเวทีละคร และพวกเราแต่ละคนต้องรับบทบาทแตกต่างกันไป ทุกครั้งที่เจอคนร้าย ๆ กับเรา ทดลองคิดแบบนี้สิครับ มันอาจไม่ง่าย...แต่น่าสนใจในมุมคิด
3
คิดแบบที่ 1 ลองนึกถึงตอนเราเด็ก ต้องแสดงละครเวที ทุกคนอยากได้บทคนดีด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครอยากรับบทเป็นคนไม่ดี ดังนั้นคนที่ร้ายกับเรา บังเอิญเขาได้รับบทตัวร้าย อันที่จริงเขาจึงน่าสงสาร มากกว่าที่เราจะโกรธเขา
1
คิดแบบที่ 2 คนที่ร้ายกับเรา เขาคือผู้เสียสละ เพราะพอได้รับบท ทุกคนก็ต้องแสดงกันไป คนที่ร้ายกับเรา เขาต้องเล่นบททำให้เราไม่ชอบ ทั้งที่เขาเองก็อาจไม่ชอบตัวเองที่ทำแบบนี้ แต่เขาเสียสละให้เราไม่ชอบเขา จึงเป็นเรื่องที่ต้องนับถือ มากกว่าที่เราจะโกรธเขา
คิดแบบที่ 3 จำไว้ว่าเราเป็นตัวเอกของเรื่องนี้ ของเวทีนี้ ถ้าเรารับมือกับคนร้าย ๆ ไม่ได้ ละครเรื่องนี้จะจบลงอย่างสวยงามได้อย่างไร? ละครเรื่องนี้จะสอนใจคนรุ่นหลังได้อย่างไร? คนที่ร้ายกับเรา เขาจึงมาเพื่อทดสอบเรา จึงเป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณ มากกว่าที่เราจะโกรธเขา
1
โอโห...อ่านแล้วโคตรหล่อใช่ไหมครับ? ก็บอกแล้วว่าไม่ง่าย...ผมก็ทำไม่ได้ทุกครั้งหรอก เพียงแต่พอได้คิดมุมนี้บ้าง...ใจก็เย็นลง รู้สึกสงสาร นับถือ และนึกขอบคุณ เพราะเขาคือเพื่อนนักแสดงร่วมเวทีเดียวกับเรา โลกนี้คือเวทีละคร และพวกเราแต่ละคนต้องรับบทบาทแตกต่างกันไป
2
...ก็เท่านั้นเอง อย่าคิดแค้นอะไรให้มาก
2.
เมตตา จะทำให้เราเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น เขาพูดไม่เข้าหูเรา เราก็เข้าใจ เขาทำไม่ถูกใจเรา เราก็เข้าใจ เขาคิดต่างจากเรา เราก็เข้าใจ เขาทำผิด เขาบกพร่อง เราก็เข้าใจ ...เพราะเขาคือมนุษย์ที่มี-ผิด-ถูก-โง่-ฉลาด ไม่ต่างจากเรา อย่าตำหนิเขานักเลย
1
เมตตาตัวเอง เมื่อเราทำไม่ถูกใจตัวเอง เมตตาคนอื่น เมื่อเขาทำไม่ถูกใจตัวเรา เมตตาทำให้เราละตัวตนได้ดีขึ้น เมตตาทำให้เราเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น จงมอบความเมตตาให้กับทุกผู้คน (รวมทั้งตัวเราเองด้วย)
ในตัวเขา มีอะไรที่เราชอบบ้าง? ในตัวเขา มีอะไรที่เราไม่ชอบบ้าง? สองมุมมองนี้ทำให้เรารู้สึกกับคนเดียวกัน...ต่างออกไป เพียงแต่ข่าวร้ายก็คือ คนจำนวนหนึ่งเลือกมุมมองอย่างหลัง (ในตัวเขา มีอะไรที่เราไม่ชอบบ้าง?)
ทั้งที่มุมมองแรก (ในตัวเขา มีอะไรที่เราชอบบ้าง?) มีความสุขกว่าตั้งเยอะ
3.
มีอยู่ 3 สิ่งซึ่งต้องมีไว้ให้มากสำหรับคนยุคนี้
1
หนึ่ง คือ สติ ยุคนี้มีหลายสิ่งทำให้เราหลุดไหลเข้าไป จากนั้นก็ใช้สมองแบบ autopilot เหมือนคิด แต่ไม่ได้คิด สั่งการแบบอัตโนมัติ ไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ตัวอยู่ตรงนี้ ใจอยู่ตรงไหนไม่รู้เลย การระลึกนึกขึ้นได้บ่อย ๆ ว่า "ฉันกำลังทำอะไรอยู่?" จึงสำคัญมากสำหรับยุคนี้
1
สอง คือ อภัย เมื่อไม่มีสติ ก็ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ผู้คนเดี๋ยวนี้จึงห่างเหินกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อไม่รู้จักกัน นิดหน่อยจึงเป็นเรื่องขึ้นมา โกรธง่าย เพราะเอาแต่นึกถึงแต่ตัวเอง โกรธง่าย เพราะเปราะบาง แตะนิดนึงก็ช้ำ เมื่อไม่รู้จักกันและช้ำง่าย จึงอยากเอาคืน การระลึกนึกขึ้นได้ว่า "เรื่องนี้ให้อภัยได้" จึงจำเป็นมากสำหรับยุคนี้
สาม คือ เชื่อมโยง สังคมยุคใหม่จับผู้คนตัดขาดจากกัน มองไม่ออกว่าเราเชื่อมโยงกันอย่างไร บางอย่างที่เราทำ ส่งผลกับคนอื่นอย่างไร เรามองไม่ออกเลย เมื่อไม่เห็น จึงต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ(ลาย)
ความแย่ก็คือ สังคมยุคใหม่จับคนตัดขาดจากกัน แต่ social media จับเราเชื่อมเข้าด้วยกัน จึงกระทบกระทั่งกันมากขึ้นเรื่อย ๆ การระลึกนึกขึ้นได้ว่า "เราทั้งผองพี่น้องกัน มาจากดินเดียวกัน กลับสู่ดินเดียวกัน" จึงเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับยุคนี้
มีสติ ให้อภัย เชื่อมโยงกับผู้อื่น จึงเป็นเรื่องที่ต้องมีไว้ให้มาก...สำหรับคนยุคนี้
แล้วเราจะอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขครับ.
โฆษณา